มองบ้านมองเมือง / ปริญญา ตรีน้อยใส / ฝันนี้ ที่กะเปอร์

มองบ้านมองเมือง / ปริญญา ตรีน้อยใส

 

ฝันนี้ ที่กะเปอร์

 

รัฐบาลวาดฝันที่จะกระจายรายได้ไปสู่ภาคชนบท ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อื่น ที่ไม่ใช่เมืองหลัก

สนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมเอสเอ็มอี

ผลักดันให้คนรุ่นใหม่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจ

ห่วงใยผู้สูงอายุที่ถูกลูกหลานละทิ้งให้เปลี่ยวเหงา

และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เห็นและเป็นข่าวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

มองบ้านมองเมืองคราวนี้ จะพาไปมอง ฝันที่เป็นจริงของรัฐบาล ในดินแดนห่างไกลไม่มีใครรู้จัก

 

จังหวัดระนอง เป็นจังหวัดเล็กๆ ของภาคใต้ ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีเทือกเขากั้น ทำให้การเดินทางยากลำบาก อีกทั้งตั้งอยู่ริมฝั่งอันดามัน ทำให้ได้รับลมมรสุมเต็มที่ จนเป็นดินแดน ฝนแปดแดดสี่ ที่ชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น เขียวชอุ่มตลอดปี

แม้จะมีเกาะแก่งสวยงาม แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จัก

จะมีแต่ตัวเมืองและบ่อน้ำร้อน ที่พอจะดึงดูดให้ผู้คนไปเยือนบ้าง

อำเภอกะเปอร์ เป็นอำเภอเล็กๆ ห่างจากตัวเมืองไปอีกห้าสิบกิโลเมตร เป็นแค่ทางผ่านจากระนอง พังงา และภูเก็ตเท่านั้น ทั้งที่ภูมิทัศน์เขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลน สวนยาง สวนปาล์ม และสวนผลไม้ รวมทั้งเทือกเขาสูง ที่สวยงามยิ่งนัก

หนุ่มน้อยคนหนึ่งเกิดเบื่อหน่ายชีวิตสถาปนิกในเมืองกรุง ที่วุ่นวาย สับสน และขัดข้อง จึงหวนคืนถิ่นบ้านเกิด กลับไปใช้ชีวิตกับพ่อแม่ อย่างเรียบง่าย น้อย และสงบ

 

หนุ่มน้อยอาศัยความรู้ที่เล่าเรียนมาทางด้านสถาปัตย์ ช่วยแม่ปรับแต่งสวนในบริเวณบ้าน ช่วยพ่อปลูกพืชผักผลไม้ในสวน และช่วยช่างสร้างบ้านหลังเล็กสำหรับตนเอง ครอบครัว และญาติมิตรที่แวะมาหา

หนุ่มน้อยอาศัยความฝันเมื่อครั้งเป็นนักศึกษา ออกแบบอาคารที่รูปแบบ รูปร่าง และโครงสร้างไม่ธรรมดา หรือไม่ตรงตามตำรา

บ้านสูงถึงสามชั้น ที่เกาะติดกับต้นไม้ใหญ่ ที่กลายเป็นบ้านต้นไม้ที่เด็กโหยหา

บ้านโปร่งใส ที่ผนังเป็นกระจกหรือวัสดุสังเคราะห์ใส ทำให้ตัวบ้านไม่ปิดบังสวนที่อยู่โดยรอบ ทำให้ผู้อยู่ภายในมองเห็นและเชื่อมต่อสวนที่อยู่โดยรอบ ที่กลายเป็นบ้านเล็กในสวนใหญ่ ที่ผู้ใหญ่โหยหา

บ้านรอบลาน ที่เรือนนอนสองสามหลังที่ใช้พักแรม ล้อมรอบลานกลางสำหรับพักผ่อนกลางวัน และทำกิจกรรมรอบกองไฟกลางคืน กลายเป็นบ้านแห่งมิตรภาพที่ใครๆ โหยหา

หนุ่มน้อยสร้างสรรค์บ้านทุกหลังให้มีรูปทรงที่แปลกต่างและแปลกตา ท่ามกลางทางน้ำ แปลงผัก พุ่มไม้ดอก และต้นไม้ผล

ญาติมิตรหรือผู้มาเยือน นอกจากจะได้ค้างแรมในบรรยากาศที่เหมือนฝัน เงียบ สงบ และเป็นส่วนตัวแล้ว ยังได้รับการดูแลจากเจ้าของบ้าน จัดเตรียมอาหารพื้นบ้านให้รับประทานทั้งวัน

แม้แต่ผู้ที่แค่แวะผ่าน ร้านอาหารเล็กๆ ริมทางแห่งนี้ นอกจากจะอยู่กลางสวนสวยงาม ยังบริการอาหารรสดี เครื่องดื่มสมุนไพร และขนมพื้นบ้านให้ชิมอิ่มท้อง ให้พร้อมสำหรับเดินทางต่อไป

 

บ้านไร่ ไออรุณ จึงเป็นร้านอาหารในฝันของผู้คน เป็นที่พักแรมในฝันของนักเดินทาง และเป็นสถานที่พักตากอากาศในฝันของผู้ที่แสวงหาความแปลกใหม่

บ้านไร่ ไออรุณ จึงเป็นผลงานของสถาปนิกเจ้าของกิจการ เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีที่ไม่ต้องนำเสนอผ่านกูรู เป็นสถานบ่มเพาะธุรกิจการที่ไม่อยู่ในหลักสูตรใด เป็นสตาร์ตอัพที่ไม่มีกลิ่นขนมปัง เนย หรือคอมพิวเตอร์ หากมีกลิ่นสะตอและไตปลาที่โอชายิ่ง

บ้านไร่ ไออรุณ จึงเป็นฝันที่รัฐบาลวาดไว้ โดยไม่อยู่ในแผนใดของกระทรวงและไม่ได้รับการชี้แนะจากนักวิชาการหรือข้าราชการใด หากเกิดขึ้นด้วยความพึงพอใจของสถาปนิกหนุ่ม และความรักและผูกพันของครอบครัวเล็กๆ ในชนบทแห่งหนึ่งเท่านั้น

ที่สำคัญ บ้านไร่ ไออรุณ ยังทำให้พ่อแม่ลูกกลับมาอยู่ร่วมกันเหมือนครั้งอดีต เมื่อแบ่งงานกันทำ ตามหน้าที่และตามวัย จึงไม่มีใครเปลี่ยวเหงาและว่างเปล่า

จึงไม่มีใครทอดทิ้งใคร หากทุกคนต่างร่วมไม้ร่วมมือช่วยเหลือกัน

 

ดังที่บทบันทึกที่ว่าไว้ ดังนี้

“เชื่ออยู่เสมอ…ว่า

สิ่งที่ช่วยกันสร้าง

จะดึงดูดคนที่ฝันและชอบอะไรคล้ายกัน

เดินทางมาพบกัน บนพื้นที่แห่งนี้”

ขอบคุณ ที่เดินทางมาหากัน

ขอบคุณ ที่อุดหนุนฝันเล็กๆ ของผมและพ่อกับแม่

กำลังปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้น

ตามกำลังที่มี

…เพื่อจะได้กลับมาหากันอีก

ครอบครัวบ้านไร่ ไออรุณ 09-6938-2981