โลกร้อนเพราะมือเรา ตอนที่ 147 อนาคตโลกรถยนต์มาถึงอีกไม่นาน

ทวีศักดิ์ บุตรตัน

เมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดรายชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดีที่สุด 10 ยี่ห้อเตรียมจะวางขายในตลาดปีหน้า

ทุกยี่ห้อต่างคุยว่ามีการพัฒนาเครื่องยนต์ รูปโฉมและสมรรถนะให้สอดรับกับอนาคตรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดทดแทนน้ำมันหรือก๊าซเพื่อลดภาวะโลกร้อน

ยี่ห้อแรก ได้แก่ ออดี้ อี-ตรอน สปอร์ตแบ็ก รูปโฉมเหมือนรถสปอร์ตอเนกประสงค์หรือเอสยูวี ทางบริษัทออดี้นำรถต้นแบบไปโชว์ครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้มอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นนำมาวิจัยพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ เตรียมผลิตออกวางขายในปีหน้า

ตัวถังรถออดี้ อี-ตรอน สปอร์ตแบ็ก มีขนาดพอๆ กับออดี้ รุ่นเอ-7 แต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 3 ตัว พลังไฟ 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลัง 486 แรงม้า

แบตเตอรี่ติดตั้งในรถออดี้รุ่นนี้ ชาร์จไฟเพียง 30 นาทีก็ให้พลังได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าชาร์จเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ วิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตร

อันดับ 2 เป็นรถ “จากัวร์” รุ่นเอ็กซ์เจ (2019) จากเมืองผู้ดีอังกฤษ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด จะมาแทนที่รุ่นเอ็กซ์เจที่วางขายในปัจจุบันซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ถือว่าจากัวร์พลิกโฉมตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

อันดับ 3 มินิ อี (2019)

รถรุ่นนี้ เปลี่ยนโฉมใหม่แทนรุ่นปี 2009 และ 2010 ซึ่งในเวลานั้นบริษัทมินิผลิตในจำนวนจำกัดเพื่อทดลองตลาดรถไฟฟ้าว่าไปได้หรือเปล่า

แบตเตอรี่ติดตั้งในมินิ อี รุ่นล่าสุดนี้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ผู้บริหารมินิคุยว่ามีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ชาร์จไฟครั้งหนึ่งจะวิ่งได้ราว 320 กิโลเมตร คาดว่าในปลายปีหน้าอาจวางตลาดในอังกฤษ

อันดับ 4 เทสลา โมเดล 3(2019) นายอีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทวางเป้าจะยกระดับ “เทสลา” ให้ดูหรูหราขึ้นชั้นรถพรีเมียม แข่งกับรถตระกูลเยอรมัน อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ออดี้และบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยการออกแบบตกแต่งภายในใหม่แต่เตรียมแผนการขายในราคาราว 35,000 เหรียญสหรัฐ

หรือราว 1,400,000 บาท

 

อันดับ 5 รถวอลโว่ เอ็กซ์ซี 40 อิเล็กทริก (2019) เป็นรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของวอลโว่จากสวีเดน เตรียมวางออกขายในปีหน้าเช่นกัน ส่วนรายละเอียดทางบริษัทยังปกปิดเป็นความลับทางการตลาด

อันดับ 6 นิสสัน ไอดีเอส (2019) รูปโฉมได้รับการออกแบบใหม่หมดและใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

นิสสันถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโลก

“ไอดีเอส” รุ่นล่าสุดที่เตรียมขายในปีหน้า ทางผู้ผลิตได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาควบคุมจัดการให้รถมีสมรรถนะยอดเยี่ยม ปลอดภัยสูงและประหยัดพลังงาน

อันดับ 7 ออดี้ คิว 6 อี-ตรอน ควอตโตร เอสยูวี (2019) บริษัทเล็งจะผลิตออกขายตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปด้วยเป้า 2 ล้านถึง 3 ล้านคันภายในเวลา 7 ปี

อันดับ 8 ปอร์เช่ เทย์แคน หรือมิสชั่น อี (2019) รถหรูสายพันธุ์เยอรมันที่หันมาผลิตรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบครั้งแรก หลังจากอวดโฉมต้นแบบในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 2559

ถ้าปอร์เช่ มิสชั่น อี ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มจะให้พลังงานขับเคลื่อนระยะทาง 498 กิโลเมตร และมีอัตราเร่งจาก 0-90 กิโลเมตร เพียง 3.5 วินาที

บริษัทปอร์เช่คุยอีกว่า แบตเตอรี่ที่ติดตั้งกับมิสชั่น อี มีกำลังไฟ 800 โวลต์ ชาร์จไฟแค่ 15 นาทีจะได้กำลังไฟถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการผลิตรถรุ่นนี้ ปีละ 2 หมื่นคัน

9. เมอร์เซเดส-เบนซ์ เจเนอเรชั่น อีคิว (2019) เป็นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเมอร์เซเดส ใช้แบตเตอรี่ที่ให้พลังไฟขับเคลื่อนรถเป็นระยะทาง 498 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มๆ หนึ่งครั้ง

อันดับ 10 แอสตัน มาร์ติน แรปปิด อี (2019) เป็นรถซีดานใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนทั้งหมด เป็นการพลิกโฉมใหม่ของแอสตันฯ หลังจากดิ้นสู้จากภาวะยอดขายย่ำแย่ และมีนายทุนจากจีนเข้ามาช่วยเร่งหาตลาด

แอสตันฯ รุ่นนี้จะวางขายปีหน้า มีพลังแรงกว่า 800 แรงม้า วิ่งฉิวด้วยความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตร

 

ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็เพียงอยากจะบอกว่า บ้านอื่นเมืองอื่นเขาคิดเรื่องการใช้พาหนะขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าไปไกลมากแล้ว ไปไกลถึงขนาดผู้ผลิตรถหรูระดับโลกยังต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรปจะต้องเปลี่ยนโฉมอย่างแน่นอน

รถรุ่นใหม่ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลจะขายไม่ออก เนื่องจากสหภาพยุโรปประกาศห้ามใช้ภายในปี 2573 เป็นไปตามข้อตกลงว่าด้วยการลดโลกร้อนที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนบ้านเรานโยบายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังอึมครึม

เมื่อต้นเดือนนี้ เว็บไซต์ “ข่าวสด” เพิ่งรายงานเรื่องความคืบหน้านโยบายการเปลี่ยนรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลหรืออีโคคาร์ไปสู่อีโคคาร์ที่ผสมผสานพลังงานไฟฟ้า (อีโคอีวี)

ข่าวสดรายงานว่า นโยบายดังกล่าวนั้นคาดมีความชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ และเชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

สรุปได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ แผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรายังไม่มี และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนไทยจะได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาถูกๆ เหมือนที่อื่น