หลังเลนส์ในดงลึก /ปริญญากร วรวรรณ / ‘ยาม’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
หมาไน - ในฝูงหมาไน มีระเบียบอันเคร่งครัด ในขณะที่สมาชิกตัวอื่นๆ ในฝูงกำลังกินเหยื่อ ต้องมีตัวหนึ่งทำหน้าที่ยาม เฝ้าดูรอบๆ อย่างเข้มแข็ง

หลังเลนส์ในดงลึก /ปริญญากร วรวรรณ

‘ยาม’

สัตว์ป่า
พวกมันอยู่ร่วมกันเป็นสังคมใหญ่ ทุกชีวิตเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน แม้ว่าบางตัวคล้ายจะดำเนินชีวิตไปตามลำพัง ไม่ได้อยู่ร่วมกันเป็นฝูงก็เถอะ
นี่คล้ายจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เรารู้ความจริงเหล่านี้มานานแล้ว
“รู้” เมื่อมองพวกมันด้วยสายตาของความเป็นชีวิตที่มีสิทธิ์อันชอบธรรมในการอาศัยอยู่บนโลกใบนี้เช่นเดียวกับเรา
เรารู้ว่า คนทุกคนต่างล้วนมีหน้าที่
เหล่าสัตว์ป่าก็ไม่ต่างจากเรา ทุกชนิดมีหน้าที่ ไม่มีสัตว์ตัวไหนเกิดมา หรือมีอยู่อย่างเปล่าประโยชน์
สัตว์เลื้อยคลาน ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง นก ตลอดจนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่กินพืช และสัตว์ผู้ล่า
มีความจริงอยู่ว่า การกินของสัตว์ป่า คือผลพลอยได้จากการทำงาน
ในขณะสัตว์ต่างๆ ทำงาน มีสัตว์หลายชนิดทำหน้าที่คล้ายยาม คอยดูแลความปลอดภัย เช่น เหล่านกระวังไพร กระรอก และอีกหลายชนิด
สัตว์ฝูง การอยู่รวมฝูงของพวกมัน ถือหลักดวงตาหลายคู่ ย่อมดีกว่าดวงตาเพียงคู่เดียว
แต่เวลาที่ทุกตัวยุ่งอยู่กับภารกิจ จะต้องมีสมาชิกในฝูง รับหน้าที่เฝ้าดูแลความปลอดภัย
ส่วนสัตว์ซึ่งอยู่ลำพัง หรือที่เรามักเรียกพวกมันว่า สัตว์โทน นอกจากจะใช้ประสาทสัมผัสของตัวเองในการระมัดระวังแล้ว จำเป็นต้องสังเกตจากพวกที่ทำหน้าที่ระวังภัยตัวอื่นๆ ด้วย
สัตว์หลายชนิด มีสถานภาพเป็นเหยื่อ พวกมันไร้เขี้ยวเล็บ มีแค่ฝีเท้าอันรวดเร็ว แต่สิ่งที่ได้รับมาทดแทนคือ ประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการรับกลิ่น รับฟังเสียง รวมทั้งการมองเห็น
เมื่อใดที่เก้งตื่น ส่งเสียง นั่นหมายถึงมีสัตว์ผู้ล่าเข้ามาใกล้
กลิ่นกายของคน ก็ไม่ต่างจากสัตว์ผู้ล่า กลิ่นกายของสัตว์ผู้ล่า ทำให้สัตว์กินพืชหลบไป
แต่กลิ่นกายคน ทั้งสัตว์กินพืช และสัตว์ผู้ล่า จะตื่นหนี
สัตว์ซึ่งอยู่ลำพัง ได้พึ่งพาเก้ง
กระนั้นก็เถอะ การอยู่เพียงลำพังในป่า ไม่ง่าย ไม่ว่าจะระมัดระวัง หรือใช้การ “อาศัย” ผู้อื่นได้ดีอย่างไร
ดูเหมือนว่า ความพลาดพลั้งก็มาถึงตัวอยู่เสมอๆ

ครั้งแรกที่ผมได้เห็นยามของสัตว์ป่า คือการทำหน้าที่ของลิงแสม
ในขณะสมาชิกในฝูงตัวอื่นๆ สาละวนอยู่กับการกินน้ำ มีลิงแสมตัวหนึ่งปีนขึ้นไปอยู่บนคบไม้ หันหน้าดูรอบๆ อย่างเข้มแข็ง ตัวอื่นๆ ในฝูงกินน้ำ และหลายตัวเล่นหยอกล้อกันอย่างสบายใจ
เวลาผ่านไป ผมเห็นยามนั่งหลับสัปหงก คงเพราะความง่วงหรือชะล่าใจ ว่าไม่มีอะไร เหตุการณ์เรียบร้อยปกติ หลับสักพัก มันคงเบื่อ จึงไต่ลงจากต้นไม้มาวิ่งเล่นกับลิงตัวอื่นๆ
ผลจากความบกพร่องในหน้าที่ของมัน วันนั้นมีสมาชิกในฝูงตัวหนึ่งโดนเสือดาวไล่คาบไปกิน
เป็นนาทีชีวิตที่ผมมีโอกาสร่วมอยู่ในเหตุการณ์
แววตาของลิงแสมที่มองผม ขณะเสือดาวคาบลากมันไปก่อนลับเข้าไปในดงอ้อนั้น
เป็นแววตาอันยอมรับในชะตากรรม

ในฝูงนักล่า ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง อย่างหมาไน การทำหน้าที่ยามเป็นไปอย่างเคร่งครัด เมื่อล้มเหยื่อได้ ตัวที่ทำหน้าที่ยามจะนั่งหรือนอนมองรอบๆ ในตอนที่ตัวอื่นๆ รุมกินเหยื่อ
ความเคร่งครัด ไม่ได้หมายความว่าจะไม่แบ่งปัน ครั้งหนึ่งผมเห็นเจ้ายามที่นอนเฝ้าซากกวาง ปล่อยให้หมูโทนตัวโตเดินอาดๆ เข้ามาคาบเนื้อชิ้นโตไปง่ายๆ ยามไม่แม้แต่จะผงกหัวขึ้นมอง
ก่อนหน้านั้น ผมรู้จักหมาไนอีกแง่มุมหนึ่ง รู้ว่าพวกมันคือจอมละโมบ ไล่ล่าเหยื่ออย่างเหี้ยมโหด บางครั้งเมื่อฆ่าเหยื่อได้ ก็กินแค่ลูกนัยน์ตา และเนื้อช่วงท้อง แล้วผละไปล่าตัวอื่นๆ ต่อ
ผมเห็นหมาไนกระชากเอาไส้วัวแดงออกมา เห็นมันกัดลูกนัยน์ตากิน ก่อนวัวแดงจะล้มเสียด้วยซ้ำ
ในวันที่มันปล่อยให้หมูโทนเข้ามาเอาเหยื่อ ดูคล้ายเป็นการแบ่งปัน
พวกมันพักผ่อน นอนเล่น หยอกล้ออยู่ในบริเวณนั้นหลายวัน
ผมมีโอกาสเห็นหมาไนอีกมุมหนึ่ง
พวกมันสอนผมว่า สิ่งที่คิดว่า “รู้จักดี”
บางครั้งก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในซุ้มบังไพรแคบๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้น หลบซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาสัตว์ป่า
สิ่งหนึ่งซึ่งได้พบเสมอๆ คือ ความเป็นไปของชีวิตต่างๆ ที่อยู่รายรอบ
มีเสียงต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มีสิ่งบอกเหตุว่า รอบๆ กำลังเกิดอะไรขึ้น
สำเนียงของกระรอก หรือนกระวังไพร บอกให้รู้ว่า มีสัตว์ใหญ่ หรืออาจเป็นสัตว์ผู้ล่า
หลายครั้ง เสือดาวเข้ามาหยุดนั่งใกล้ๆ ซุ้ม กระทั่งแทบเอื้อมมือถึง
ก่อนเสือโคร่งจะปรากฏกาย จะมีเสียงต่างๆ เซ็งแซ่ ก่อนจะเงียบราวกับไม่มีชีวิตใดๆ อยู่แถวนั้นแล้ว
ยามอย่างกระรอกส่งเสียงในตอนแรก จากนั้นก็จะหมอบนิ่งกับกิ่งไม้
เสือหยุดเดิน มองไปรอบๆ มันจะหันมามองเมื่อผมกดชัตเตอร์
ในสถานภาพของสัตว์ผู้ล่า พวกมันอยู่ในวิถีของการอยู่ลำพัง
อยู่เพียงลำพัง คล้ายจะเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อใดที่อยากเข้าร่วมกับผู้อื่นแล้ว ทุกชีวิตปฏิเสธ ตื่นหนี นี่คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน
ผม “เห็น” เช่นนี้
ทุกครั้งที่ละสายตาจากช่องมองภาพ

หากยามเปรียบเสมือนสิ่งเตือนสติขณะกำลังดำเนินไปตามวิถี สัตว์ทุกชนิดย่อมมียามคอยระวังภัยให้
แต่หลายครั้งที่พลาด ทั้งๆ ที่มียามคอยเตือน หรือไม่รับฟัง
อาจเรียกได้ว่า มันคือชะตากรรม
ดูจะไม่ใช่ความผิดของ “ยาม” แต่อย่างใด