ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 กันยายน - 4 ตุลาคม 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
โฟกัสพระเครื่อง / โคมคำ [email protected]
พระสมเด็จเล็บมือ
มงคล ‘หลวงพ่อผ่อง’
วัดคูหาสวรรค์ กทม.
“วัดคูหาสวรรค์” หรือ “วัดศาลาสี่หน้า” แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ในอดีตเป็นสำนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน โดยมีอดีตเจ้าอาวาสที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ และเป็นเจ้าตำรับ “พระสมเด็จเล็บมือ” คือ “พระวิสุทธิสารเถร” หรือ “หลวงพ่อผ่อง ธัมมโชติโก” อดีตเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ สุดยอดพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าย่านฝั่งธนบุรีอีกรูปหนึ่ง และเป็นสหธรรมิกที่สนิทชิดเชื้อกับ “หลวงปู่ชู วัดนาคปรก”
ทั้งหลวงพ่อผ่อง และหลวงปู่ชู เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมจาก “หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง”
วัตถุมงคลยอดนิยมของหลวงพ่อผ่อง คือ “พระสมเด็จเล็บมือ” มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่นแรกสร้างประมาณปี พ.ศ.2457 ด้านหลังนูนเรียบ ไม่ปรากฏลวดลายหรืออักขระเลขยันต์คดๆ
ส่วนรุ่นสอง สร้างประมาณปี พ.ศ.2464 ด้านหลังจะปรากฏอุณาโลมประทับอยู่ จำนวนสร้างทั้งสองรุ่นประมาณกันว่าคงไม่เกิน 5,000 องค์
พุทธลักษณะมีกรอบพิมพ์เป็นรูปคล้ายครอบแก้วหรือปลายนิ้วมือ มีรูปพระพุทธปางขัดสมาธิเพชรเห็นสังฆาฏิประทับอยู่เหนือฐาน ซึ่งเป็นขีดหนา เนื้อพระเป็นผงสีขาวนวล ละเอียดแห้ง
พระสมเด็จเล็บมือ หลวงพ่อผ่อง มีพุทธคุณโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย แม้ปัจจุบัน จะไม่โด่งดังเหมือนพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์รูปอื่น อีกทั้งพระเครื่องของท่านมีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่จะอยู่ในครอบครองของชาวฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะชาวภาษีเจริญและใกล้เคียง
ทำให้หายาก ผู้มีไว้ครอบครองต่างหวงแหนยิ่ง


มีนามเดิมว่า “ผ่อง” เป็นบุตรของนายสุด นางอ่ำ เกิดเมื่อปีพ.ศ.2414 ต้นรัชกาลที่ 5 ที่บ้านตำบลบางสีทอง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
เมื่อปี พ.ศ.2435 อุปสมบทที่วัดรวกบางสีทอง จังหวัดนนทบุรี โดยมีพระปรีชาเฉลิม (แก้ว สงขสุวณโณ) ป.ธ.6 (ภายหลังเลื่อนเป็น พระเทพโมลี เจ้าอาวาสวัดมหรรณพาราม) วัดเฉลิมพระเกียรติ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแก้ว วัดไฟไหม้ (วัดอมฤต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการลบ วัดรวก เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา “ธัมมโชติโก”
เรียนวิปัสสนาธุระในสำนักอาจารย์แก้ว วัดไฟไหม้รวม 3 พรรษา ในพรรษาที่ 4 ย้ายมาอยู่ที่วัดนางชี คลองด่าน ในสมัย พระครูศีลขันธ์สุนทร เป็นเจ้าอาวาส ในพรรษาที่ 11 ย้ายจากวัดนางชี มาอยู่วัดนาคปรก อีก 10 พรรษา จนถึงปี พ.ศ.2455
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2455 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ปีชวด เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ในขณะที่ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระศากยบุตติยวงศ์) กับพระพุทธพยากรณ์ วัดอัปสรสวรรค์ (ในขณะที่ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูพุทธพยากรณ์) ได้อาราธนาให้เป็นเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์วรวิหาร ในขณะที่เป็นพระปลัดฐานานุกรมอยู่
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2458 เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ “พระครูสังวรสมาธิวัตร” เนื่องในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต้นรัชกาลที่ 6 ในขณะที่มีอายุได้ 44 ปี
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2464 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะหมวดคลองบางจาก อำเภอภาษีเจริญ
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2464 ได้รับเลื่อนเป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ “พระวิสุทธิสารเถร” ถือพัดงาสาน
กล่าวได้ว่า หลวงพ่อผ่อง ตั้งแต่แรกเข้ามาอุปสมบท ท่านมีอัธยาศัยเยือกเย็น มีอุปนิสัยอ่อนโยนสุภาพเรียบร้อย ด้วยคุณสมบัติของท่าน ผู้ใดได้พบเห็นท่านแล้ว ล้วนเกิดศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่านเป็นอย่างมาก
ท่านยังเป็นผู้เอาใจใส่ในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารามเป็นอย่างดี
พอท่านเข้ามาอยู่วัดคูหาสวรรค์ ท่านได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ เช่น อุโบสถ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ พระประธานในพระอุโบสถ และศาลาสี่หน้า ที่ปรักหักพัง ให้คืนดีเกือบทั่วทั้งวัด ดังได้ปรากฏอยู่
ท่านยังเป็น 1 ใน 3 พระเกจิอาจารย์ของฝั่งธนบุรี ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ความเคารพนับถือ
โดยเป็นพระเถระ 1 ใน 4 รูปที่ได้ “พัดงาสาน” สมัยรัชกาลที่ 5 ประกอบด้วย 1.หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 2.พระสังวรานุวงศ์เถร (ชุ่ม) วัดราชสิทธิฯ (วัดพลับ) 3.หลวงพ่อผ่อง วัดคูหาสวรรค์ 4.หลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง
ได้ชื่อว่าเป็นพระสมถะ สันโดษ ไม่สะสมทรัพย์สินใด สมัยยังมีชีวิตอยู่ ทุกๆ วันจะมีผู้คนมาหาท่านให้ช่วยรักษาโรคต่างๆ บางคนก็มาขอฝึกกรรมฐานและวิปัสสนา บางคนเป็นบ้าเสียสติมาให้ท่านอาบน้ำมนต์เพียงครั้งเดียวก็หาย ถึงขนาดร่ำลือกันว่า น้ำมนต์ของท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก จะเป็นผีหรือเจ้าเข้าสิงก็ใช้ไล่ได้ดี หรือจะทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพันชาตรีก็เป็นยอด
วัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างแจกยุคแรก ส่วนใหญ่จะเป็นประเภท “ตะกรุดและผ้ายันต์” ซึ่งปัจจุบันหายากมาก
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ได้ 16 ปี มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2471 สิริอายุ 57 ปี พรรษา 35
บรรยายภาพ
1.หลวงพ่อผ่อง ธัมมโชติโก
2.พระสมเด็จเล็บมือ (หน้า)
3.พระสมเด็จเล็บมือ (หลัง)