อ่านเรื่องราวของมนุษย์ผ่านอัคคัญญสูตร

ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่พระในแต่ละวัดก็จะกระฉับกระเฉงขึ้นเป็นพิเศษ

พระบางวัดลงทำวัตรเช้าเย็นเฉพาะในพรรษาซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

ที่อารามภิกษุณีทั้งที่เกาะยอ ที่สิงหนคร จ.สงขลา และที่ทรงธรรมกัลยาณีภิกษุณีอารามก็มีการเรียนพระสูตรกันทุกบ่าย เว้นวันพระและวันอาทิตย์

ที่อารามอื่นก็น่าจะมีเหมือนกัน แต่ไม่ได้กล่าวถึงเพราะไม่มีข้อมูลโดยตรง

ในสื่อกลางของภิกษุณีก็มีการรายงานเข้ามาว่า พรรษานี้มีพระภิกษุณี สิกขมานา และสามเณรีจำพรรษากันแห่งละกี่รูป

ทั้งนี้ เพื่อให้รวบรวมจำนวนได้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

 

เมื่อวานนี้ หลวงพี่ธัมมวัณณา นำเอาอัคคัญญสูตรมาเล่าในชั้นเรียน ท่านธัมมนันทาเน้นความสำคัญของพระสูตรนี้ โดยเล่าเปรียบเทียบกับทฤษฎีการเกิดในศาสนายิวและศาสนาคริสต์

ศาสนาคริสต์นั้นสืบทอดมาจากศาสนายิว หรือยูดาย ในพระคัมภีร์เก่า หรือที่เรียกว่าพันธสัญญาเก่านั้น (Old Testament)

ในบทแรกเลย ที่เรียกว่าปฐมกาล บันทึกเรื่องราวที่พระเจ้าสร้างโลก ตั้งแต่สร้างฟ้าน้ำ กลางวันกลางคืน สัตว์ชนิดต่างๆ จนกระทั่งมนุษย์

ในบทนี้ พระเจ้าสร้างมนุษย์จากฉายาของพระเจ้า นั่นหมายถึง ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน อ้างอิงตรงนี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์ในเชิงความเท่าเทียมกันของมนุษย์ผู้หญิงผู้ชาย

พอมาถึงบทที่สอง สงสัยคนเขียนไม่ได้อ่านบทที่หนึ่ง พระเจ้าสร้างมนุษย์ผู้ชายก่อน ชื่ออาดัม พอพระเจ้าทอดพระเนตรลงมาเห็นมนุษย์ผู้ชายที่พระองค์สร้างเดินอยู่ในสวนอีเด็นตามลำพัง ทรงพระเมตตา เกรงว่าอาดัมจะเหงา ก็เลยสร้างอีวามาให้เป็นเพื่อนกัน

วิธีที่สร้างอีวานั้น พระองค์เสกให้อาดัมหลับ แล้วดึงเอาซี่โครงข้างขวาของอาดัมมาเสกเพี้ยงให้เป็นอีวา ผู้หญิงที่ให้เป็นเพื่อนกับอาดัม อยู่ในสวนอีเด็น

พระเจ้าทรงพระเมตตาให้คนทั้งสองอยู่ในสวนอีเด็น มีข้อห้ามอย่างเดียวคือ ห้ามกินผลไม้จากต้นไม้แห่งความรู้ ทั้งสองอยู่ในสวนด้วยความบริสุทธิ์ใสซื่อ

คราวนี้ ซาตานมาในรูปของงูมาเชื้อชวนให้อีวากินผลไม้ต้องห้าม อีวาด้วยความรักอาดัม ก็ชวนอาดัมมากินด้วย คราวนี้ก็เกิดความรู้ขึ้น เพราะต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้แห่งความรู้ รู้แยกแยะความละอาย รู้ความกลัว รู้ผิดรู้ถูก

พอพระเจ้าลงมาเยี่ยม สองคนนี้ไปแอบหลังต้นไม้ พระเจ้าก็ทรงรู้ทันทีว่า เจ้ามนุษย์สองคนนี้ละเมิดคำสั่ง ลงโทษให้ไปเกิดในเมืองมนุษย์

ศาสนายิวและคริสต์จึงมีความเชื่อในเรื่องบาปกำเนิด คือบาปที่ติดตัวมาในความเป็นมนุษย์ เพราะบรรพบุรุษคืออาดัมกับอีวาได้ละเมิดคำสั่งของพระเจ้านั่นเอง

ศาสนาคริสต์จึงเน้นย้ำการให้ความเชื่อฟังยำเกรงต่อพระเจ้ามาก ชาวคริสต์หลายคนในสมัยใหม่ไม่ยอมรับเรื่องบาปกำเนิด และหันมารับนับถือศาสนาพุทธที่เขาเห็นว่าเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า

 

ศาสนาพุทธไม่ได้พูดถึงทฤษฎีการเกิดมากนัก ชาวพุทธทั่วๆ ไปแม้ในหมู่นักวิชาการที่ไม่ใช่สายพุทธศาสนา ก็เคยพบว่า ไม่ทราบว่าศาสนาพุทธมีพระสูตรที่พูดถึงการเกิดของมนุษย์ แสดงว่า อัคคัญญสูตรในพุทธศาสนาไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าปฐมกาลของศาสนายิวและคริสต์

อัคคัญญสูตรพูดถึงการเกิดของมนุษย์ เริ่มมาแต่เดิมที่เป็นอภัสสรพรหม มีภาวะเป็นทิพย์ คำว่าทิพย์ในภาษาสันสกฤตและบาลีนี้ น่าสนใจ รากศัพท์เดียวกับภาษาอังกฤษที่ว่า divine ทิพย์ คือ ท แผลงเป็น ว ได้ รากศัพท์เดียวกันคือ diva คือมีแสงสว่างในตัว เป็นดวง เราจึงเรียกจิตเป็นดวง มีคุณสมบัติอีกอย่างคือเบา และลอยได้ ไปไหนตามจิตสั่ง

ทีนี้ พวกอาภัสสรพรหมเหล่านี้ลงมาเที่ยวบนโลกมากินง้วนดิน ที่ว่ามีรสหวาน และมีกลิ่นหอม ทำไมถึงกิน ก็อยากกินไง

พอกินเข้าไป ตัวก็เริ่มมีน้ำหนัก สูญเสียความเป็นทิพย์ ที่สว่าง และลอยไปมาได้ เริ่มมองเห็นซึ่งกันและกัน และปรารถนากามรสระหว่างชายหญิง

ชายหญิงก็เกิดมาเท่ากัน คือ มีความอยากเหมือนกัน จึงสิ้นสภาพของความเป็นทิพย์

 

นี่เป็นทฤษฎีการเกิดของมนุษย์ในพุทธศาสนา หญิงชายเท่ากัน ทำไมถึงเกิดเป็นหญิงหรือชายไม่ได้พูดไว้ เหมือนกับในคัมภีร์ปฐมกาลที่มนุษย์หญิงชายที่เกิดตามฉายาของพระเจ้า ก็ไม่ได้พูดไว้ ว่าทำไมเป็นหญิง หรือเป็นชาย แต่ทำความเข้าใจว่า ในความเป็นหญิงเป็นชายนั้นเอง ที่นำมาซึ่งความบริบูรณ์ของความเป็นมนุษย์

เซอร์โกลดิ้งพูดไว้น่าฟังว่า เมื่อผู้ชายให้ตัวสเปิร์มแก่หญิง หญิงก็ผลิตลูกให้ เป็นความงามของการทำงานร่วมกันของมนุษย์ผู้หญิงและผู้ชาย

พอมีการร่วมเพศกัน ก็มีความรังเกียจว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย คือเป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ทำกันตามสวนสาธารณะไม่ได้ ต้องทำในบ้านเรือน มีที่ปกปิด กำบัง

ว้าย เรื่องนี้พูดมาแต่ครั้งพุทธกาลกว่า 2,600 ปีมาแล้ว ประเทศไทยเพิ่งมาหาทางป้องกันกิจกรรมส่วนตัวตามสวนสาธารณะเอาตอนนี้เอง

ที่นี้ ง้วนดินนั้น มีเพียงพอสำหรับทุกคน ทุกวัน แต่ด้วยความโลภของคนบางคนออกไปเก็บง้วนดินไว้กินวันเดียวไม่พอ เก็บเผื่อวันพรุ่งด้วย ง้วนดินที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติให้มีกินทุกวัน ทุกคน ก็เริ่มขาดแคลน เพราะบางคนโลภ เก็บเอาโควต้าของคนอื่นไป

ก็เลยต้องมาตกลงกัน จัดสรรปันส่วน ต้องเชิญคนกลางเข้ามาดูแลบริหารจัดการ คนนี้เป็นคนที่ทุกคนยอมรับ เรียกว่า มหาสมมติ ซึ่งต่อมาคือกษัตริย์ รากศัพท์เดียวกับเกษตร คือมีที่ดินมาก เป็นพระเจ้าแผ่นดินไง

ถึงบางอ้อแล้วยัง

ที่มาของชาติพงศ์วงศาของมนุษย์ เล่าไว้ชัดเจนในอัคคัญญสูตร

 

อีกเรื่องหนึ่งที่พระสูตรเล่มนี้พูดถึง สำคัญเหมือนกัน และเป็นประเด็นที่ไม่มีศาสนาอื่นแตะเลย คือ ความประพฤติของพระราชา หรือผู้ปกครองมีผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

หากเราได้ผู้ปกครองไม่ดี ไม่มีศีลสัตย์ ไม่มีทศพิธราชธรรม พระอาทิตย์จะเพิ่มจาก 1 ดวง ไปจนถึง 7 ดวง

นี่คือความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่ผู้ปกครองเป็นผู้กำหนด หากผู้ปกครองตัดไม้ทำลายป่าเอง หรืออนุญาตให้คนอื่นทำ ภาวะน้ำท่วมก็จะตามมา

พายุเกย์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่ชุมพร ที่เราเรียกว่าภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้น พิจารณาดูดีๆ แล้ว เป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำทั้งสิ้น

พ.ศ.2554 ที่น้ำท่วมชานเมืองกรุงเทพฯ แถบทวีวัฒนานั้น ไม่ใช่การท่วมธรรมชาติใช่ไหม แต่เป็นผลจากการคอนโทรลวอลุ่มน้ำโดยฝีมือนักการเมืองที่มีอิทธิพลใช่ไหม

ไม่ได้กล่าวโทษใคร เพราะจริงๆ แล้วก็ไม่รู้ แต่เป็นการตั้งคำถามที่ยิงตรงไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องรู้ตัวเอง

นี่ก็กล่าวแล้วในพระสูตรว่า หากผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจไม่ชอบธรรม ภัยทางธรรมชาติก็จะเกิดขึ้น

 

หากผู้ปกครองมีความชอบธรรมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม บ้านเมืองก็จะสงบสุข ในบทความที่เพิ่งเขียนเรื่องแหลมผักเบี้ยไปจะเห็นชัดเจนว่า ในหลวง (ร.9) พระองค์ท่านช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในการฟื้นฟูป่าชายเลน รักษาระบบนิเวศให้คืนความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ก็เป็นที่พึ่งพาของบรรดานกและสัตว์น้ำต่างๆ อย่างเห็นเป็นรูปธรรมที่สุด

พระก็ทำหน้าที่ศึกษาพระธรรมคำสอน แล้วก็นำออกมาสั่งสอนประชาชน ก็จะเป็นการช่วยกันรักษาพระศาสนา

และรักษาประเทศชาติบ้านเมืองไปด้วย

 

ตอนนี้วัตรทรงธรรมฯ ปรับระบบการรับเข้าของสมาชิกในองค์กรเป็นการรื้อสร้างครั้งสำคัญ ว่ากันตั้งแต่กระบวนการรับสมาชิกเข้าเลยทีเดียว

ให้แน่ใจว่ามีเป้าหมายสู่พระนิพพานร่วมกัน และเป็นวิถีพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม ตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ทรงมอบหมายกับพระอริยสงฆ์ 60 รูปที่ส่งออกประกาศพระศาสนาชุดแรก

ทรงกำชับว่า งานของพระสงฆ์นั้น เพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ชัดเจน

พระสงฆ์ต้องมีความรู้ระดับหนึ่ง สมาชิกที่รับเข้ามาจะบวชสามเณรีให้ต้องมีความรู้อย่างต่ำ ม.6 ไม่ได้ก็ส่งเรียนให้ได้ ไม่ได้กีดกัน แต่หากพระสงฆ์จะรับใช้สังคม พระสงฆ์ต้องมีความรู้ระดับหนึ่ง

จากนั้นก็ดูเรื่องการปฏิบัติทางจิตใจ มีการเข้าเงียบ 5 วัน ทุกเดือนคี่ ควบคุมการดูแลจิตใจไปด้วยกัน

งานสังคมก็ทำควบคู่ไปด้วยกัน ไปสู่พระสงฆ์ 4.0 ของบิ๊กตู่

อัคคัญญสูตรเป็นบทนำให้ผู้ปกครองตั้งใจปกครองบ้านเมืองโดยธรรม ภาวะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติก็จะเกื้อหนุนไปทางเดียวกัน

เป็นเช่นนั้น