เครื่องเสียง : ข้อถกเถียง หลอดกับทรานซิสเตอร์ อันไหนน่าพอใจกว่ากัน ?

หลังๆ ได้พูดถึงแอมป์หลอด หรือ Vacuum Tube Amplifier (ที่มักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า Tube Amp. ซึ่งบางแห่งโดยเฉพาะทางแถบยุโรปส่วนใหญ่จะใช้คำว่า Valve Amp.) ของ PrimaLuna ไปหนสองหน นึกขึ้นมาได้ว่าในแวดวงคนเล่นเครื่องเสียงนี่ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ถกถียงกันไม่เป็นอันยุติ และเชื่อว่าตราบใดที่ยังมีคนเล่นเครื่องเสียง ประเด็นที่ว่านี้จะไม่มีวันเบ็ดเสร็จแบบเด็ดขาดได้อย่างแน่นอน

ข้อถกเถียงหรือประเด็นที่ถูกนำมาถกกันอย่างเรื้อรังและยาวนานที่ว่าก็คือ ระหว่างแอมป์หลอดกับแอมป์ทรานซิสเตอร์ ที่ทุกวันนี้จะใช้คำว่า Solid State Amplifier นั้น เครื่อง (ที่ให้การทำงาน) แบบไหน ให้เสียงดีกว่าในความหมายที่ว่าเป็นที่น่าพอใจกว่ากัน

คำตอบในเรื่องนี้ หากพูดกันแบบตรงไปตรงมาโดยไม่มีอคติข้างใดข้างหนึ่งแล้ว ก็ต้องขอตอบว่า ใครที่บอกว่าอะไรดีกว่านั้น ต่างเอาตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งสิ้น

ซึ่งนั้น, ก็หาได้เป็นเรื่องผิดแต่อย่างใดไม่

เพราะในการเล่นเครื่องเสียงเพื่อต้องการเข้าถึงความสุนทรีย์ของเสียงดนตรีนั้น เป็นเรื่องของความชอบเชิงนามธรรมที่เป็นส่วนตัว

เพราะหากทุกคนที่เล่นเครื่องเสียงมีความชอบเหมือนกันแล้ว อย่าว่าแต่เรื่องแอมปลิไฟเออร์จะเป็นหลอดหรือโซลิดสเตตเลย ทั้งโลกคงมีเพียงเครื่องเสียงชุดเดียว ยี่ห้อเดียวเท่านั้นเองที่ใครต่อใครเลือกใช้

แต่เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีเครื่องเสียงและลำโพง ตลอดจนอุปกรณ์ประกอบต่างๆ ในความหมายของ Accessories ที่นำมาใช้ในซิสเต็ม หรือในชุดเครื่องเสียง เพื่อเป็นการช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น (ตามความรู้สึกอันเป็นที่พอใจของผู้ที่พร้อมลงทุนกับสิ่งนั้นๆ ด้วย) อีกมากกว่ามากให้เลือกใช้เต็มไปหมด

สำคัญก็แต่เพียงว่า ใครที่ว่าเป็นคนเล่นเครื่องเสียงนั้น จะค้นพบความชอบที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริงหรือเปล่าเท่านั้นเอง หาใช่ชอบแบบคล้อยตามที่ใครต่อใครเขาพูดถึง แล้วคิดไปเองว่าตัวเองก็ชอบเสียงแบบนั้นด้วย

เพราะหากคุณไม่สามารถค้นพบความชอบที่แท้จริงของคุณแล้ว การเล่นเครื่องเสียงของคุณก็ไม่มีวันที่สิ้นสุด ด้วยคุณจะมีจริตที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง คุณจะทึกทักเอาเองเมื่อได้ฟังเครื่องใหม่ๆ ลำโพงใหม่ๆ ที่ใครเขาพูดถึงว่ามันให้เสียงดีอย่างโน้น ดีอย่างนั้น แล้วคุณก็มักจะเกิดจริตเห็นชอบคล้อยตามไปด้วยตลอดเวลา

การเล่นเครื่องเสียงที่สำคัญนั้น ประการแรกเลยก็คือต้องรู้จักหรือค้นหาความชอบที่แท้จริงของตัวเองให้พบ ฟังคนอื่นได้ อ่านที่ใครเขาเขียนหรือพูดถึงได้ แต่อย่าเพิ่งเชื่อตาม ให้ลองไปฟังแล้วถามตัวเองว่าเรารู้สึกเหมือนที่เขาพูด เขาเขียนไหม หากพบว่าใช่ก็ต้องถามตัวเองว่าแล้วนั่นมันเป็นเสียงแบบที่เราชอบด้วยหรือเปล่า แต่หากพบว่าไม่ใช่ ก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าฟังแล้วเรารู้สึกไม่ใช่เพราะเหตุใด

ฟังเครื่องหนึ่งแล้ว ก็ให้ฟังเครื่องอื่นๆ เป็นการเปรียบเทียบด้วย เปรียบเทียบเพื่อบอกตัวเองให้ได้ว่าแต่ละเครื่องที่ได้ฟังนั้น เราชอบมันตรงไหน และมีตรงไหนบ้างที่ไม่ชอบ เพราะทั้งเครื่องเสียงและลำโพง ล้วนไม่มีเครื่องใด และคู่ไหนที่ให้เสียงออกมาได้สมบูรณ์แบบไปหมด ต่างมีจุดเด่น-จุดด้อยในตัวทั้งสิ้น และเมื่อฟังอะไรแล้ว อย่าฟังแต่สิ่งที่เราได้ยินแล้วชอบเพียงอย่างเดียว ให้ฟังดูด้วยว่าในสิ่งที่เราไม่ชอบซึ่งมันมีปนอยู่ด้วยนั้น เราพอจะรับมันได้แค่ไหน

เพราะบางครั้งอาจจะไปพบสิ่งที่ฟังเปรียบเทียบแล้วชอบใกล้เคียงกัน ให้ฟังต่อว่ามันมีความต่างของเสียงในสิ่งที่ไม่ชอบอย่างไร แล้วค่อยนำมาพิจารณาในภาพรวมอีกครั้ง ว่าเราจะอยู่กับชิ้นไหนได้อย่างมีความสุขมากกว่ากัน

กลับมาที่เรื่องของแอมป์หลอดกับแอมป์โซลิดสเตตกันต่อโดยขอ “ตัดความชอบ” ที่เป็นส่วนตัวซึ่งต้องมีอยู่แล้วตามวิสัยปุถุชน, ทิ้งไปครับ

สิ่งแรกที่เป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ “บุคลิกเสียง” ของแอมป์หลอดกับแอมป์โซลิด สเตต มีความแตกต่างกันก็คือหลักการทำงานครับ

แอมป์หลอดนั้นมีหลักการทำงานที่เป็นเทคโนโลยีอันถือกำเนิดขึ้นมาเกือบร้อยปีแล้วเห็นจะได้ คือตั้งแต่ยุคสมัยที่ระบบเสียงแบบ Hi-Fi Stereo ยังไม่เกิด และดูเหมือนจะไม่มีวิวัฒนาการไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว

ต่างกับแอมป์โซลิดสเตต ที่ดูจะสามารถพัฒนาต่อไปได้แบบไม่สิ้นสุด ยิ่งปัจจุบันอยู่ในยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิตอลด้วยแล้ว แอมป์โซลิดสเตตยังมีทีท่าว่าจะมีความก้าวหน้าต่อไป (ทางด้านเทคโนโลยี) ได้อีกมาก

ประเด็นหนึ่งของหลักการทำงานที่แตกต่างกันอย่างเป็นสำคัญก็คือ ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงสัญญาณ (Switching Time) การทำงานของโซลิดสเตตมีประสิทธิภาพสูงกว่าการทำงานของเครื่องหลอดมาก แบบต่างกันนับร้อยเท่าก็ว่าได้ ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้เสียงในย่านความถี่ต่ำๆ หรือเสียงเบสของแอมป์หลอดนั้นฟังดูแล้วเหมือนไม่มีพลัง เป็นเบสที่อวบอ้วน ฟังเหมือนเสียงที่อุ้ยอ้าย ไร้เรี่ยวแรง ซึ่งแตกต่างไปจากโซลิดสเตต ที่ให้เบสออกมาได้กระชับและเก็บตัวได้เร็ว และนี้จะเป็นข้ออ้างแรกๆ ของฝ่ายโซลิดสเตต ที่มักจะบอกว่าแอมป์แบบที่ตัวเองชอบให้เสียงดีกว่า โดยเฉพาะกับเสียงเบส

นอกจากนี้ การเคลื่อนตัวของอิเล็กตรอนในหลอดนั้นช้ากว่าโซลิดสเตต มาก จึงหากมีการเทียบกำลังขับที่เท่ากันแล้ว แอมป์โซลิดสเตต จะทำงานกับการเกิดขึ้นของ Transient หรือสัญญาณฉับพลันที่รวดเร็ว เช่น เสียงฟาดกลอง เสียงกลุ่มเครื่องเคาะต่างๆ อย่างฉาบ ฉิ่ง หรือแม้แต่กับเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น เสียงฟ้าผ่า ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและสมจริงมากกว่า ไม่อืดอาดยืดยาดหรือฟังดูอ้อยส้อยเหมือนเสียงของเครื่องหลอด

และที่ภาคสุดท้ายของการทำงานในเครื่องหลอด ก่อนส่งสัญญาณทางไฟฟ้าไปยังลำโพงเพื่อเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียง อันได้แก่ Output Transformer นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหม้อแปลงแบบพันขดลวด (เพราะใช้แรงดันไฟฟ้าสูง แต่ใช้กระแสไฟต่ำ ขณะที่โซลิดสเตตนั้นตรงกันข้าม) ซึ่งมีผลกระทบต่อ Phase ที่มักจะมีความคลาดเคลื่อนแทบจะตลอดย่านความถี่ออดิโอ อันส่งผลให้มิติเสียงมีความพร่ามัว ในขณะที่เครื่องโซลิดสเตตส่วนใหญ่การทำงานของภาคที่ว่าแตกต่างออกไป ขณะทำงานจึงปลอดอาการที่เรียกว่า Phase Shift ที่เป็นสาเหตุให้มิติเสียงขาดความคมชัด รวมทั้งขดลวดเอาต์พุตนี่เองที่ทำให้เกิดการอิ่มตัวของสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สัญญาณความถี่ต่ำๆ ไม่สามารถหลุดพ้นออกไปถึงขั้นตอนการทำงานของลำโพงได้

ซึ่งนั้นเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการที่ทำให้ฟังได้ว่าเบสของแอมป์หลอดสู้เสียงเบสของโซลิดสเตตไม่ได้เอาจริงๆ

แล้วทำไมยังมีกลุ่มคนที่ชอบเล่นเครื่องหลอดอยู่อีกเล่า

เที่ยวหน้ามาว่ากันต่อนะครับ