พร้อมรับพสกนิกร สักการะพระบรมศพ จับตามิจฉาชีพต้มตุ๋น ทั้ง”แบงก์เก๊-โก่งค่ารถ”

ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่หลักในการรับผิดชอบการจัดจราจรและดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง

เพื่อรองรับพสกนิกรเรือนหมื่นเรือนแสนที่หลั่งไหลเข้าแสดงร่วมลงนามแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม

โดยที่ผ่านมาร่วม 10 วัน มีผู้มาลงนามแล้วกว่า 3 ล้านราย

และจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

นอกจากนี้ ยังต้องรับมือกับกลุ่มมิจฉาชีพ ที่จ้องจะหาประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้

ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงให้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย

หรือกระทั่งการปลอมแปลงบัตรคิว เข้าถวายสักการะ รวมทั้งการปลอมแปลงธนบัตรที่ระลึกมาจำหน่าย

ถือเป็นงานหนักที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้งานใหญ่ครั้งนี้ลุล่วงไปได้อย่างเรียบร้อยที่สุด

 

ตร.คุมเข้มอาชญากรรม

สําหรับการรักษาความปลอดภัย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ในพื้นที่นครบาล ภ.1-ภ.2 และ ภ.7 เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม

โดยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ลงไปป้องกันเหตุภายในพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งยังไม่มีการรายงานการก่ออาชญากรรม ทั้งล้วงกระเป๋า หรือลักขโมย รวมทั้งการโก่งราคาสินค้า หรือค่าโดยสาร เพราะว่าภายในงานไม่มีการขายของมีแต่ให้บริการฟรี

ส่วนการหลอกลวงต้มตุ๋นยังไม่พบ ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกล้องซีซีทีวีจำนวนมาก และยังมีสายตาพี่น้องประชาชนกว่าแสนคน ซึ่งช่วยกันสอดส่องดูแลคนที่มีพฤติกรรมไม่ดีจนไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง

แต่มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีพี่น้องประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ต้องดูแลพี่น้องประชาชนไม่ให้มีเหตุการณ์อะไร ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยโดยแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ดูแลความเรียบร้อยและคอยรับแจ้งความ

พี่น้องประชาชนที่มีความเดือดร้อน หรือโทร.สอบถามร้องเรียน 1189 หรือ 1599 หรือสอบถามการจราจรที่ 1197 หรือสอบถามเหตุการณ์ทั่วไปที่ 191

ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก ตร. กล่าวว่า ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองที่พาลูกหลานไปร่วมพิธี ควรจัดทำบัตรประจำตัวหรือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับตัวเด็ก ในกรณีพลัดหลง โดยเขียนชื่อของเด็ก ที่อยู่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของเด็ก หากเกิดกรณีเด็กพลัดหลงให้แจ้งได้ที่กองอำนวยการร่วม

เบื้องต้นมีเด็กพลัดหลงแล้ว 10 ราย โดยใช้การประกาศเสียงตามสาย บริเวณหน่วยบริการทางการแพทย์ ซึ่งมีประชาชนเข้ารับบริการแล้วจำนวน 50,000 คน โดยรอบงานมีกล้องซีซีทีวี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบดูอยู่ตลอดเวลา

หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือรับแจ้งเหตุจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าตรวจสอบทันที นอกจากนี้ ยังมีจุดตรวจสอบก่อนเข้าภายในงาน ส่วนการดูแลหมุนเวียนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่หลักและทาง บชน.5-6 กองร้อย ตำรวจภูธร 1,2,7, รวมกัน 6 กองร้อย ตชด. 3 กองร้อย เจ้าหน้าที่ทหารกับเจ้าหน้าที่ กทม. หมุนเวียน

ทั้งนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่มีน้ำใจให้บริการขับขี่รถจักรยานยนต์รับส่งผู้มาร่วมพิธีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เน้นย้ำการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง และกวดขันในเรื่องการป้องกันอาชญากรรมอย่างเต็มที่

 

จัดที่จอด-รถรับส่ง ปชช.

พล.ต.อ.เดชณรงค์ ยังเปิดเผยถึงการจัดการจราจร ว่า ได้จัดรถสำหรับบริการรับ-ส่ง ฟรี แก่ประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง (หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน) มาบุญครอง-สนามหลวง (หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน) และวงเวียนใหญ่-สนามหลวง (หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน) สำหรับประชาชนที่นำรถยนต์ส่วนตัว ขอประชาสัมพันธ์จุดจอดรถจำนวน 5 แห่ง ได้แก่

1. ทิศเหนือ ที่อิมแพคเมืองทองธานี รองรับได้จำนวน 5,000 คัน และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต รองรับได้จำนวน 1,500 คัน

2. ทิศใต้ ที่พุทธมณฑล รองรับได้จำนวน 1,000 คัน, เซ็นทรัลศาลายา รองรับได้จำนวน 1,000 คัน และเซ็นทรัลพระราม 2 รองรับได้จำนวน 1,000 คัน

3. ทิศตะวันออก เปลี่ยนแปลงจากจุดจอดรถเดิมจากบริเวณที่ก่อสร้างบางกอก มอลล์ เป็นเมกะบางนา รองรับได้จำนวน 3,000 คัน

4. ทิศตะวันตก ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต รองรับได้จำนวน 4,000 คัน

5. รอบใน ที่สโมสรตำรวจ รองรับได้จำนวน 450 คัน ในส่วนจัดเรือบริการประชาชน จำนวน 4 ลำ โดยเริ่มให้บริการมีกำหนด 100 วัน วิ่งทุกวัน จากท่าเรือธรรมศาสตร์ ท่าเรือศิริราชใหม่ (รถไฟ) ไปส่งท่าเรือราชนาวิกสภา ซึ่งเที่ยวแรกเริ่มเวลา 09.30 น. 10.30 น. 11.30 น. 14.00 น. 15.00 น. และ 16.00 น. ทั้งนี้ ให้จัดเรือมนุษย์กบ จำนวน 2 ลำ เพื่อดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอกับความต้องการของประชาชน ที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ

 

เตือนภัยมิจฉาชีพต้มตุ๋น

นอกเหนือจากการดูแลรักษาความปลอดภัย และการจัดการจราจรที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้ว ยังคงต้องประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงกลโกงของมิจฉาชีพ ที่หวังจะใช้โอกาสนี้หาประโยชน์

เริ่มตั้งแต่การเผยแพร่เอกสารผ่านช่องทางออนไลน์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศล สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ระบุว่า ท่านใดจะจองเป็นเจ้าภาพในพระบรมมหาราชวังอีก 50 วันต่อจากนี้นั้นเริ่มจองได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายคืนละ 20,000 บาท

ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง โดยสำนักพระราชวัง ระบุจะประกาศพระราชทานพระราชานุญาตฯ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 50 วัน อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับประกาศสำนักพระราชวัง กรณีพระราชทานพระราชานุญาตให้ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 50 วันนั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความที่ส่งต่อกันว่ามีค่าใช้จ่ายคืนละ 20,000 บาท ให้รอประกาศอย่างเป็นทางการจากสำนักพระราชวัง

อีกทั้งยังพบการจำหน่ายธนบัตรเคลือบทอง ซึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ธนบัตรเคลือบทองที่ผลิตมาจากต่างประเทศ ขอเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อว่าเป็นธนบัตรจริง ผู้ที่นำเข้ามาจำหน่ายอย่าฉกฉวยโอกาสมาหาผลประโยชน์กับประชาชนในเวลาที่ไม่สมควร ถือเป็นการทำลายบรรยากาศภาพลักษณ์ที่ดีของคนไทย ขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อซื้อธนบัตร หากเจ้าหน้าที่พบเห็นใครมีการจำหน่ายอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้

ขณะที่ น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวในสังคมออนไลน์ที่มีการเชิญชวนให้ซื้อริสต์แบนด์ “เกิดในรัชกาลที่ 9” อ้างว่านำรายได้เข้ากรมส่งเสริมสุขภาพจิต ร.พ.ประสาทเชียงใหม่ ว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเท็จ เพราะกรมสุขภาพจิตไม่ได้จัดทำริสต์แบนด์ดังกล่าว และจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้แอบอ้าง

 

สั่งลงทะเบียน จยย.จิตอาสา

นอกจากนี้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่าบริเวณโดยรอบสนามหลวง เริ่มมีหาบเร่แผงลอยมาจำหน่ายสินค้า จนอาจกลายเป็นถนนคนเดิน ซึ่งถือเป็นการมิบังควร จึงจะส่งทีมเทศกิจออกตรวจตรา ห้ามนำสินค้ามาจำหน่ายเด็ดขาด

พร้อมทั้งจัดระเบียบให้ทุกองค์กรทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่นำอาหารมาเปิดโรงทานและแจกจ่ายให้ประชาชนได้ถึงเวลา 19.00 น. เท่านั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงานราชพิธี

ส่วนข่าวลือเรื่องบัตรคิวปลอม อาจเป็นแค่การนำบัตรไปถ่ายเอกสารเท่านั้นซึ่งยังไม่พบการกระทำผิด แต่ขอเตือนว่าอย่าทำเด็ดขาด

พล.ต.พงษสวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย รอบพระบรมมหาราชวัง กอร.รส. เผยว่า ที่ประชุมเร่งแก้ปัญหามอเตอร์ไซค์จิตอาสาที่ให้บริการรับส่งประชาชน ซึ่งมีคนไม่ดีเข้ามาปะปนปลอมเป็นจิตอาสา และเรียกเก็บค่าโดยสาร

จึงมีความจำเป็นต้องให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องการเป็นจิตอาสาจริงๆ มาลงทะเบียนให้ถูกต้องเพื่อป้องกันคนแปลกปลอมแฝงเข้ามาหาประโยชน์ นอกจากนี้ ยังพบว่าเริ่มมีพวกฉวยโอกาส ทั้งพ่อค้าหาบเร่แผงลอยแอบมาเอาอาหารที่นำมาให้ประชาชนได้รับประทานนำไปกักตุนไว้เพื่อไปจำหน่าย

ถือเป็นสิ่งไม่สมควร ที่ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด

เพื่อให้การเข้าถวายการสักการะและแสดงความอาลัย เป็นไปอย่างสมพระเกียรติที่สุด