ไปญี่ปุ่น ครั้งที่ล้าน

ปีนี้มีคิวที่ต้องไปประเทศญี่ปุ่นถึง 4 ครั้งด้วยกันค่ะ

ไปบ่อยจนมีคนแซวว่า “เธอไปมีแฟนเป็นชาวญี่ปุ่นรึเปล่า”

ตายแล้วววว ถ้าไปที่ไหนมีแฟนที่นั่น ก็ต้องมีผัวรอบโลกแล้วล่ะค่าาาาาาา

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไปแล้วสนุก ไม่เบื่อ กินก็อร่อย หลังๆ เริ่มมีไปทำงานพร้อมๆ กับการไปเที่ยว ก็สนุกไปอีกอย่างแถมได้เงิน แฮปปรี้สิคะ

รัฐบาลญี่ปุ่นจัดสรรงบประมาณไว้สำหรับโปรโมตการท่องเที่ยวไว้พอสมควร เพราะประเทศเขาโดนภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้ง เกิดความเสียหายนับไม่ถ้วน ก็ต้องกระตุ้นให้คนไปท่องเที่ยวให้เยอะ

สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น ฉันไปครบทุกภูมิภาคแล้ว แต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด บางที่ไปซ้ำแต่ไปคนละฤดูกาลก็สวยไปคนละแบบ

 

ครั้งล่าสุดไปภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งอยู่ระหว่างโตเกียวกับฮอกไกโด ครั้งนี้ไปถ่ายรายการค่ะ

ในฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีนั้นสวยมากกกกกกกกกกกกกกก

ครั้งนี้ไปเจอฝนอยู่ประปราย แต่ก็ทำให้บรรยากาศชุ่มฉ่ำไปอีกแบบ

สถานที่ที่ประทับใจมากๆ คือ Yamadera เป็นศาลเจ้าที่อยู่บนเขา ไม่ใช่มีศาลเจ้าเดียว มีเป็นสิบศาลเจ้า แล้วก็ต้องค่อยๆ เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงบนสุด ซึ่งเป็นจุดชมวิว

การเดินขึ้นเขาของญี่ปุ่นเป็นกิจกรรมที่ฉันชอบทำมาก

เพราะเขาปลูกต้นไม้ไว้ดีมาก และดูแลรักษาอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นป่าสนด้วยแล้ว เราได้สูดกลิ่นสนให้ฉ่ำปอดผสมกับกลิ่นดินหลังฝนตก อากาศเย็นๆ ไม่อยากจะไปไหนเลยล่ะค่ะ เวลาเห็นต้นไม้ใหญ่ก็อยากวิ่งเข้าไปกอด รับพลังจากต้นไม้ ลองทำกันดูค่ะ

แต่การเดินขึ้นเขากับบันไดพันกว่าขั้นนั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนกัน

แต่สำหรับฉันและเพื่อนที่เป็นโปรดิวเซอร์ซึ่งนางเป็นนักวิ่ง อายุเท่าๆ กัน เห็นบันไดแล้วดีใจมาก

เพราะนั่นหมายความว่า เราจะได้คาร์ดิโอ ได้ออกกำลังกาย ได้เหงื่อออก

จากเย็นๆ อยู่ดีๆ ขึ้นไปสักพักเหงื่อชุ่มไปหมด แต่อาการเราทั้งคู่ยังดีอยู่ ลงมาเจอเหล่าทีมงานที่อายุน้อยกว่า ยืนขาสั่นกึ่กๆๆๆ เขาบอกว่า “พี่มันเป็นเอง มันหยุดสั่นไม่ได้”

โถๆๆ คงไม่ได้ออกกำลังกาย เจอบันไดเข้าไปทั้งขึ้นและลง กล้ามเนื้อน่าจะตกใจ

 

เราอยู่แถบโทโฮคุ 3-4 วันแล้วมาต่อที่โอกินาวา ซึ่งอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น

ที่นี่ฉันเพิ่งไปครั้งแรก อากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิงค่ะ

จากฝนมาเจอแดดเจิดจ้ามากกกกกกกกกกกก

มากขนาดที่ดำภายในครึ่งวัน แต่ก็ช่างเพราะเรื่องดำเป็นเรื่องธรรมชาติ (ฮา)

เรามาโฟกัสเรื่องกินของโอกินาวาดีกว่า

เขาขึ้นชื่อเรื่องโซบะหมูสามชั้น แต่เราไม่ไหวจริงๆ เลยขอเป็นซี่โครงหมูแทน ซึ่งก็ดีงามเปื่อยยุ่ยมาก เส้นโซบะก็แปลกกว่าที่อื่น น้ำซุปกลมกล่อม อูมามิ

นอกจากนี้ยังฮิตกินมะระขี้นก ซึ่งนี่อาจจะเป็นเคล็ดลับให้คนโอกินาวาอายุยืนเป็นร้อยปี เพราะมะระขี้นกมีสารต้านอนุมูนอิสระสูงมาก เขาก็เอามาทำมะระผัดไข่

แต่ที่พีกมากคือน้ำมะระขี้นก ฉันลองซื้อมากิน ดูดเข้าไปอี๋อย่างแรง มันขมมากและเหม็นเขียว เขามีให้ใส่น้ำเชื่อมแต่เราก็ไม่ใส่

เอาไปให้ทีมงานกิน หน้าทุกคนเป็นไปทางเดียวกันหมด


แต่ที่เด็ดมากๆ คือ “มันม่วง” ซึ่งเขามีพันธุ์และชื่อของเขา นั่นคือ Beni Imo หอมหวานมันอร่อย ฉันกินทั้งเป็นไอศกรีมซอมครีม เป็นชีสทาร์ตมันม่วง เป็นสมูตตี้มันม่วง เรียกได้ว่าอึแทบออกมาเป็นสีม่วง

และอีกอย่างที่ชอบคือเขามีไอศกรีมที่ใส่เกลือ โดยมีเกลือให้เลือกเป็นสิบอย่าง พอใส่ลงไปก็ทำให้ไอศกรีมอร่อยขึ้นมาเลย

เป็นเมืองร้อนก็ต้องเด่นเรื่องของเย็นๆ นี่แหละ

คนโอกินาวาจะดูสบายๆ มากกว่าเมืองอื่นๆ ด้วยเป็นเมืองติดทะเล เป็นเมืองตากอากาศ หรือมีชาวต่างชาติเยอะก็ไม่แน่ใจ ทำให้เมืองนี้ดูสนุกและมีสีสันกว่าญี่ปุ่นที่เคยเห็น อาจเพราะมีทหารอเมริกันมาอยู่นานแล้วก็เป็นได้ วัฒนธรรมบางอย่างก็อาจซึมซับมา

โดยรวมๆ แล้วเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และสนุกมากค่ะ

ยังมีการเดินทางอีกหลายทริป จะมาเล่าในครั้งหน้านะคะ