ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ในประเทศ |
เผยแพร่ |
ท่ามกลางความเศร้าโศกของประชาชนชาวไทยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สถาปนาเป็น”รัชทายาท”ตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515
รับสั่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อค่ำวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ว่า พระองค์ทรงรับพระราชทานเป็นรัชทายาทอยู่แล้วในปัจจุบันและทรงตระหนักในหน้าที่
แต่ทรงขอเวลาทำพระทัยและแสดงความเสียใจร่วมกับประชาชนทั้งประเทศไปก่อนในระยะนี้
การอัญเชิญขึ้นสืบราชสมบัตินั้น
ให้รอเวลาที่เหมาะสม เมื่อทรงร่วมแสดงความเสียใจและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ร่วมกับประชาชนผ่านพ้นไปแล้วระยะหนึ่ง
ต่อมาในการเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานข้อราชการเมื่อค่ำวันที่ 16 ตุลาคม 2559
ทรงมีพระราชปรารภสำคัญย้ำกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าขออย่าให้ประชาชนสับสนหรือกังวลใดๆ เกี่ยวกับราชการแผ่นดินหรือแม้แต่การสืบราชสันตติวงศ์
เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาลและโบราณราชประเพณีกำหนดไว้แล้ว
ส่วนจะดำเนินการเมื่อใด อย่างไรนั้น
ทรงมีพระราชบัณฑูร ว่า ช่วงเวลานี้ทุกคน ทุกฝ่าย แม้แต่พระองค์เองอยู่ระหว่างความเศร้าโศก โทมนัสอาลัย จึงควรให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้รู้สึกว่าเราผ่านพ้น
บรรเทาความวิปโยคอาดูรนี้ไปได้บ้างก่อน
อย่าให้ความรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ทุกคนควรใช้เวลานี้รักษาความทรงจำอันงดงามของ 70 ปีที่ผ่านมา
เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศลและพระราชพิธีพระบรมศพผ่านพ้นไปแล้วระยะหนึ่ง
น่าจะถึงเวลาสมควรดำเนินการต่อไปได้
พระราชบัณฑูรที่ตรัสผ่านนายกรัฐมนตรีนำความปลาบปลื้มมาสู่ประชาชนไทย มั่นใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักสูงสุด
จะดำรงสืบต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแรง
นอกจากช่วยให้ประชาชนคลายความกังวลในเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารยังทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในฐานะองค์รัชทายาทอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยในยามบ้านเมืองอยู่ระหว่างช่วงเวลาทุกข์โศก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชบัณฑูรให้ดูแลประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะและแสดงความไว้อาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
ทั้งเรื่องความปลอดภัย การเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหาร และที่พัก
โดยเฉพาะช่วงหลังจากเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์นำอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ และน้ำดื่ม พระราชทานแจกจ่ายให้ประชาชนบริเวณท้องสนามหลวง วันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ครั้งละ 5,000 ชุด
เจ้าหน้าที่ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งว่า พสกนิกรที่มาถวายสักการะและแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเป็นแขกของพระองค์
ฉะนั้น ต้องทำให้ได้รับความสะดวกสบายที่สุด ได้รับสิ่งดีที่สุด จึงพระราชทานอาหารโดยรับสั่งว่าต้องดีและอร่อย ประชาชนทุกคนรับประทานได้และน่าจะถูกปาก
พร้อมกันนั้นยังทรงห่วงใยประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัย อันเป็นปัญหาซ้ำเติมความทุกข์โศก
จึงทรงมีรับสั่งมายังรัฐบาลดูแลประชาชนให้ดีที่สุด
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีรับสั่งมายังกระทรวงเกษตรฯ ถึงความกังวลในปัญหาอุทกภัย ทรงกำชับให้ดูแลให้ดีที่สุด โดยเฉพาะจังหวัดสิงห์บุรีและพระนครศรีอยุธยา ไม่อยากให้ปัญหาน้ำท่วมมาซ้ำเติมความทุกข์โศกของคนไทย” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุ
พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีความห่วงใยในพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพเช่นกัน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผลไม้ลองกอง แจกจ่ายประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย บริเวณท้องสนามหลวง
หลายครั้งที่พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์มายังรถเคลื่อนที่ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก ทรงทอดไก่ประทานให้ประชาชนด้วยพระองค์เอง
หลายครั้งที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จฯ ออกบริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อประทานอาหาร ขนม และน้ำดื่ม โบกมือทักทายและสอบถามสารทุกข์สุกดิบประชาชนอย่างกันเอง
สิ่งที่สร้างความปลื้มปีติประทับใจให้ประชาชน
นอกจากการได้เฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จฯ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ทุกวันอย่างต่อเนื่อง
ยังได้เห็นภาพความรักผูกพันภายในพระบรมวงศานุวงศ์
ไม่ว่าภาพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสวมกอดสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกอดทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ภาพพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงคุกเข่าสวมกอดทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
สะท้อนว่าทุกพระองค์ก็มีความโศกเศร้าอาดูรไม่น้อยไปกว่าประชาชน
พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงห่วงใย เสมือนเป็นกำลังใจให้ประชาชน คลายจากความทุกข์โศก
เป็นแรงผลักดันให้ผ่านพ้นจากห้วงวิปโยคยิ่งใหญ่
เกิดเป็นความเชื่อมั่นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะดำรงอยู่คู่กับสถาบันชาติ ศาสนา และประชาชนคนไทยไปตลอด
เหมือนกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ในตอนท้ายว่า
พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่ ทรงพระเจริญ”