บทสัมภาษณ์ค้นตัวตนลึกๆ ในใจ “ขวัญ” เกิดเป็น “อุษามณี” เหนื่อยเสมอ

ตอนที่ได้เจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน หน้าตาท่าทางของขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ นางเอกคนดัง ดูออกจะเหนื่อยๆ เพลียๆ

พอทัก เธอก็ยิ้มอ่อน พลางออกตัว “มันหลายๆ อย่าง แต่เดี๋ยวก็ผ่านไป”

“ถามว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เหนื่อยที่สุดไหม ขวัญว่าเกิดเป็นอุเหนื่อยเสมอ” พูดแล้ว ขวัญ อุษามณี ก็หัวเราะ

อย่างไรก็ดี เจ้าตัวบอกเลยว่า แม้จะเหนื่อยบ้าง อะไรบ้าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เศร้า เพราะ “พอเราเหนื่อยเสร็จแล้ว เราก็ภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำ”

ภูมิใจทั้งในเรื่องงานการแสดง ที่มีมาเสนอให้เล่นต่อเนื่อง ชนิดที่ตอนนี้แม้ “แม่สื่อปากร้าย ผู้ชายรสจัด” จะเพิ่งจบลงไป แต่ช่อง 7 ก็มีเรื่อง “ไฟหิมะ” ที่กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำมาให้เล่นต่อ

ขณะที่ในเรื่องธุรกิจส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านคอสเมติก แบรนด์ UZI หรือธุรกิจซึ่งให้บริการด้านรักษาความปลอดภัย, พนักงานขับรถยนต์, พนักงานแม่บ้าน ในนาม Security & Cleaning Service Thailand ก็ไปได้ดี

“ธุรกิจขวัญประสบความสำเร็จ ไม่เหนื่อยเลย ทำมาครึ่งปีมีคอนแท็กต์ 20-30 ที่ แล้วเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ”

“ประสบความสำเร็จมากกว่าที่เราตั้งใจเอาไว้” นักธุรกิจคนเก่งบอก

“สิ่งที่ขวัญโชคดีคือ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคอสเมติกหรือคลีนนิ่ง คือเรามีพนักงานเยอะมาก มีทั้งดีและไม่ดีวนเวียนกันไป สิ่งที่เราทำได้คือหาความรู้จากคนรอบข้างที่เราไปปรึกษา จนกระทั่งเรามีทีมที่ดีในทุกวันนี้ ทำให้บริษัทค่อนข้างก้าวย่างอย่างมั่นคง แล้วเราไม่ห่วงงาน ปล่อยให้เขาทำ อาทิตย์หนึ่งเข้าไปบอกเป้าหมาย ชี้เป้าหมายให้เขาทำ”

เล่าด้วยว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ เคยมีเหมือนกันที่รู้สึกแย่ๆ “ท้อเลย” ขวัญสารภาพ

“แต่ก็ได้คนดีๆ ใกล้ตัวคอยประคบประหงม ค้ำชูให้มีสติ” คนที่บอกว่าตัวเองผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาเยอะบอก แล้วว่า ทุกวันจึงรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ ที่อย่างน้อยชีวิตเธอก็ยังมีโชคดีในเรื่องนี้อยู่บ้าง

ส่วนการลุยทำธุรกิจหลายอย่างในช่วงเวลานี้ ขวัญบอกอย่างไม่ปิดบังว่า นี่เป็นการทำทางไว้ “เมื่อตอนที่เราออกจากวงการ”

อุษามณีในวัย 30 ปี

อุษามณีที่เริ่มต้นทำงานตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบด้วยการเป็นนางแบบ ก่อนจะก้าวมาเป็นนักแสดงแถวหน้า ว่าอย่างนั้น

สําหรับในส่วนของความรัก นางเอกคนสวยบอกว่า ตอนนี้ความรักของเธอเป็นแบบ “ก็ไปเรื่อยๆ”

และเลือกที่จะขอไม่บอกเล่าสู่สาธารณะ เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายใครกันที่จะมาเป็นคู่ ดังนั้น จึงตั้งใจว่า “จนกระทั่งถึงวันที่ขวัญแต่งงานแล้วค่อยบอก ค่อยพูดทีเดียว”

บอกอีกว่า “ทุกวันขวัญอยู่เพื่อศึกษา เพราะไม่มีใครรู้อนาคตล่วงหน้า วันนี้ขวัญมีความสุขที่สุด แต่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเศร้าที่สุดหรือเปล่า เพราะขวัญเรียนรู้มาแล้ว” เธอว่าพลางยิ้ม

ดังนั้น หากจะให้คำจำกัดความความรักที่มีในช่วงนี้ เธอก็ขอใช้คำว่า เป็นรักซึ่งอยู่ในระยะกลั่นกรอง

“ขวัญทำงานขวัญมีโกล ความรักของขวัญก็มีโกลเหมือนกัน ขวัญอยากได้ความรักเหมือนพ่อกับแม่ ปกป้องกัน รักกันจนวินาทีสุดท้าย ขวัญเชื่อว่าพ่อขวัญไม่ได้ทำอะไรดี 100% แม่ขวัญก็ไม่ได้ทำอะไรดี 100% แต่คนสองคนใช้ชีวิต กุมมือกัน แล้วพ่อจากไป 7 ปีแล้ว แม่ก็ยังไม่มีสามีใหม่ และยังไปทำบุญให้พ่อตลอด เพราะฉะนั้น นี่คือสิ่งที่ขวัญต้องการในชีวิต”

“เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ซึ่งกว่าที่มันจะเป็นรักที่บริสุทธิ์ต้องใช้ระยะเวลาค่อยๆ กลั่น”

ทั้งยังรู้สึกด้วยว่า ถ้ายิ่งเร่งการกลั่นให้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ ความรักที่ได้ก็ “ยิ่งไม่เพียว”

“แล้วเดี๋ยวเวลามันก็จะบอกเอง เพราะสุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าเป็นคนไหนด้วยซ้ำ อันนี้จริงๆ นะ ขวัญไม่รู้ ถ้าขวัญรู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาเป็นใคร ขวัญคงเดินเอาแหวนไปให้เขา แล้วบอกว่าแต่งงานกับฉันเถอะ”

อย่างไรก็ดี แม้จะยังไม่รู้ตัวดังที่บอกไว้ แต่สิ่งที่ขวัญ อุษามณี บอกรู้แน่ๆ คือ ผู้ชายที่จะมายืนเคียงข้างและก้าวเดินไปกับเธอนั้นจะต้องผ่านหลายด่าน “ผ่านแม่ ผ่านเพื่อน ผ่านทุกคนหมด”

“คนที่เข้ามาในชีวิตขวัญต้องเข้ากับทุกคนรอบข้างขวัญได้ เพราะขวัญไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ขวัญอยู่กับคนรอบข้างในชีวิตขวัญเยอะมาก ไมว่าจะออกไปไหน ทำอะไร เวลาขวัญมีปัญหา ขวัญจึงไม่เคยตันที่จะมีคนอยู่ข้างๆ เรา”

ซึ่งถ้า “เขาผ่าน” ก็มีสิทธิ์จะได้ครอบครองอีกที่ว่างข้างๆ ตัวเธอ