รายงานพิเศษ/มรสุมข่าวลือ ถล่มโผทหาร จับตา ‘บิ๊กแดง’ นิ่ง แน่น ทัพเรือ คลื่นซัด ‘ฉลามลือ’ โต้คลื่นข่าวลือ เคาต์ดาวน์ 5 บิ๊ก

รายงานพิเศษ

 

มรสุมข่าวลือ ถล่มโผทหาร

จับตา ‘บิ๊กแดง’ นิ่ง แน่น

ทัพเรือ คลื่นซัด

‘ฉลามลือ’ โต้คลื่นข่าวลือ

เคาต์ดาวน์ 5 บิ๊ก

แม้บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะเปิดเผยว่า ได้ทูลเกล้าฯ บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ขึ้นไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
แต่กระแสข่าวที่สะพัดในกองทัพยิ่งหนักขึ้นๆ เรื่องการแก้ไขโผทหารอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 ในระดับรองแม่ทัพภาค และผู้บัญชาการกองพล และเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพในโค้งสุดท้าย
แม้แต่ในกองทัพบกก็ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ แบบที่เรียกว่านอนมา และหนักแน่น มั่นคงที่สุด
แต่ก็ยังมีการสะพัดข่าวลือให้เกิดความหวังกับแคนดิเดตเก้าอี้ ผบ.ทบ. โดยมีการเอาข่าวลือเก่าๆ เดิมๆ วนกลับมาเล่าลือ กล่าวขานกันใหม่
แต่ พล.อ.อภิรัชต์ก็สุดนิ่ง ยังคงทำงานต่อไปโดยไม่มีการออกมาสยบข่าวลือใดๆ แม้แต่ภารกิจในกองทัพบกของ พล.อ.อภิรัชต์ก็ขอที่จะทำเป็นการภายใน ขอไม่ออกสื่อ

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

โดยเฉพาะกองทัพเรือ ที่ลือกระหน่ำว่า แก้โผเปลี่ยน ผบ.ทร.ใหม่ จากบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. เป็นบิ๊กตุ๋ย พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. ที่แซงโค้งสุดท้ายขึ้นเป็น ผบ.ทร.
แต่ทว่าก็เป็นแค่ข่าวลือ เพราะโผทหารได้ผ่านทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากที่ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ ได้ลงนามท้ายคำสั่ง ส่งขึ้นไป
ไม่มีการแก้ไขคำสั่งใดๆ หลังวันที่ 23 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา เพราะหากมีการแก้ไข ผบ.เหล่าทัพก็ต้องมาลงนามหลังการแก้ไขอีกครั้ง แต่ทว่าไม่มีการแก้ไขใดๆ หลังส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว
ทุกอย่างจึงเป็นเพียงข่าวลือ ที่ทำให้คนที่รอลุ้นให้มีปาฏิหาริย์ ได้มีความหวัง และชุ่มชื่นหัวใจ แม้บางครั้งอาจจะต้องคิดเข้าข้างตัวเอง หรือเกิดความหวัง เพราะใครบางคนให้ความหวัง หรือให้ข้อมูล โดยที่ พล.ร.อ.พิเชฐก็ทำงานแบบขยันสุดๆ และมีการออกสื่อเป็นระยะๆ

พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์

แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทหารเรือจะไม่เชื่อข่าวตามที่สื่อเสนอว่า พล.ร.อ.ลือชัยจะเป็น ผบ.ทร. แต่เชื่อว่า พล.ร.อ.พิเชฐจะเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ เพราะดูเจ้าตัวก็มีความหวัง
“งั้นผมก็คงต้องไปเสนอชื่อใหม่ให้ตรงกับที่เขาเชื่อกัน” บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. กล่าวติดตลก เมื่อรู้ถึงกระแสความเชื่อของคนในกองทัพเรือ
ทั้งนี้เพราะรู้กันดีว่า พล.ร.อ.นริสเสนอชื่อ พล.ร.อ.ลือชัย เพราะถือว่ามีความชอบธรรม เพราะจ่อเป็นรอง ผบ.ทร. อยู่ และอาวุโส แถมมีอายุราชการถึงกันยายน 2563
อีกทั้งได้รับมอบหมายให้ทำโครงการเรือดำน้ำจีนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เป็น เสธ.ทร. จนเป็นรอง ผบ.ทร. และมีแผนที่จะเดินทางไปจีนร่วมกับ พล.ร.อ.นริส ที่จะเป็นประธานในพิธีตัดแผ่นเหล็กแผ่นแรกของเรือดำน้ำ ที่สั่งต่อจากจีน ที่อู่ต่อเรือเมือง Wuhan ในวันที่ 4 กันยายน 2561 ที่เป็นวันเรือดำน้ำไทยพอดี
“ไม่เป็นไร ผมก็รู้ว่าคนใน ทร.เชื่อแบบนั้น เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็น เพราะไม่เคยมีใครมาบอกอะไรผม ดังนั้น ก็ต้องให้เป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา เพราะผมเชื่อว่าชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว” พล.ร.อ.ลือชัยกล่าว

พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ

เฉกเช่นเดียวกับเส้นทางชีวิตของ พล.ร.อ.ลือชัย เพราะตอนที่เป็นนายทหารเรือหนุ่มๆ ที่เป็นนักไตรกีฬา ได้ไปสมัครไปฝึกหลักสูตรทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีล ได้เป็นหนึ่งในกว่าร้อยคน ในนาม “A1” ที่ผ่านการคัดเลือกไปฝึก แต่ฝึกได้ระยะหนึ่ง ตอนที่ต้องดำน้ำ แต่พอดีเกิดเป็นหวัด ทำให้ระบบหูมีปัญหา เพราะความดันและอาการหวัด จนต้องออกจากการฝึก
“ถ้าผมจบซีล ผมอาจไม่ได้มาอยู่แบบนี้ อาจออกภาคสนามไปทางโน้นเลย แต่อาจเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว ว่าให้ผมเดินมาในเส้นทางนี้” พล.ร.อ.ลือชัยกล่าว
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนในกองทัพเรืออาจจะหวาดหวั่นต่อการมาเป็น ผบ.ทร.ของ พล.ร.อ.ลือชัย นั้น เจ้าตัวรู้ว่า เพราะคิดว่าตนเองเป็นคนดุมาก
“ผมไม่ดุเลย แต่เรารู้ว่า กับลูกน้องแต่ละคน เราต้องดูแลเขาอย่างไร ผมว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ห้องทำงานผมนี่มีลูกน้องแวะเวียนมาคุยด้วยตลอด” บิ๊กลือระบุ
แต่ยอมรับว่าในห้วง 1 ปีของการเป็นรอง ผบ.ทร. อาจจะมีงานไม่มากเท่าตอนเป็น เสธ.ทร. แต่ก็ทำงานตลอดทุกวัน เป็นงานที่ ผบ.ทร.มอบหมาย และส่วนใหญ่เป็นงานประชุม เลยอาจจะดูเงียบๆ ไม่ได้ออกข่าว ไม่ได้ออกสื่อ ก็ทำงานในหน้าที่ของเราไป

พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี

“ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเราเหมาะสม ผมก็พร้อมทำหน้าที่ ไม่ว่าจะให้ผมไปอยู่ตรงไหน ทำอะไร” พล.ร.อ.ลือชัยกล่าว
ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า สถานการณ์เช่นว่านี้ จะทำให้ พล.ร.อ.ลือชัย และ พล.ร.อ.พิเชฐ ที่เป็นเพื่อนเตรียมทหาร 18 ด้วยกัน จะมองหน้ากันสนิทใจหรือไม่ และจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้หรือไม่ จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง หาก พล.ร.อ.ลือชัยเป็น ผบ.ทร. แล้ว พล.ร.อ.พิเชฐจะถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหม หรือว่าจะอยู่เป็นรอง ผบ.ทร. ทำงานใกล้ๆ กัน เจอหน้ากันบ่อยๆ
เพราะสำหรับทหารแล้ว เมื่อมีโปรดเกล้าฯ โผทหารออกมาแล้ว จะถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

ในขณะที่กำลังจะมี ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ขึ้นมายกแผง พร้อมทำหน้าที่สมาชิก คสช.ชุดใหม่ และพร้อมรับสถานการณ์ ตั้งแต่การคลายล็อก ไปจนถึงการปลดล็อก และการเลือกตั้ง
โดยทุกสายตาจับจ้องกันว่า เมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.แล้ว กองทัพบกจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างไร จากยุคของ Smart Man Smart Army ของบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
ที่รู้กันดีว่า พล.อ.อภิรัชต์นั้นจะนำกองทัพบกสู่ยุคของการเป็นทหารที่เป๊ะและฟิตเปรี๊ยะในทุกกระเบียดนิ้ว แบบหัวจรดเท้า ทั้งในแง่ของวินัย และร่างกาย จิตใจของการเป็นทหาร และทหารรักษาพระองค์
ขณะที่มีการจับตามองกันว่า จะทำให้ทหารสาย “วงศ์เทวัญ” กลับมาผงาดในกองทัพบก หลังจากที่ทหารเสือราชินีและบูรพาพยัคฆ์ยึดครองกองทัพมายาวนานต่อเนื่อง
แต่ทว่าจากนี้ไป จะไม่มีวงศ์เทวัญหรือบูรพาพยัคฆ์ และโดยเฉพาะทหารเสือราชินีอีกแล้ว แต่จะมีแต่ทหารที่ยึดมั่นใน “ราชสวัสดิ์” และทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน อย่างแท้จริง
โดยมีการจับตาไปที่บิ๊กบี้ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมทหาร 22 ที่จะขึ้นมาเป็นพลโทในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังรบสำคัญของ ทบ. ที่ถูกวางตัวไว้เป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2566

พล.ต.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้

และมีบิ๊กอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.พล.1 รอ. เตรียมทหาร 24 และนายร้อย VMI ที่จะเติบโตตามไลน์ขึ้นมา โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2568

ส่วน ผบ.เหล่าทัพชุดปัจจุบัน ก็ถึงเวลาเคาต์ดาวน์ สู่วันเกษียณราชการ ที่เหลืออยู่แค่เดือนเดียวเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี ท่ามกลางการจับตามองว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนายอุตตม สาวนายน จะลาออกจาก ครม. เพื่อไปรับตำแหน่งให้พรรคพลังประชารัฐ ในที่สุด หรือไม่ก็ตาม
แต่ทหารในกองทัพก็ยังจับตามองว่า เวลาที่เหลืออีกหลายเดือนกว่าจะถึงการเลือกตั้ง ที่เร็วสุด 24 กุมภาพันธ์ 2562 หรือ 5 พฤษภาคม 2562 นั้น อาจมีการปรับ ครม. และมี ผบ.เหล่าทัพบางคนที่กำลังจะเกษียณราชการ เข้าร่วม ครม.ประยุทธ์ 6 ส่งท้ายรัฐบาล คสช.รับมือการเลือกตั้ง

พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์

ทั้งบิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม น้องรักทหารเสือราชินี ของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่อาจได้หมุนมาเป็น รมช.กลาโหม แทนบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ที่อาจขยับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการในกระทรวงอื่น
โดยเฉพาะบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นทั้งเลขาธิการ คสช. และ ผบ.กองกำลังรักรักษาความสงบฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นั้นถูกมองว่าจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล
แม้จะมีข่าววงในว่า พล.อ.เฉลิมชัยอาจจะได้รับโอกาสสำคัญในการทำงานสำคัญ ที่เป็นที่ปลาบปลื้มแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล หลังเกษียณราชการก็ตาม
เช่นเดียวกับบิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ที่จะเกษียณราชการ ที่เป็นเพื่อนรักเตรียมทหาร 16 ของทั้ง พล.อ.ชัยชาญ และ พล.อ.เฉลิมชัย

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

แต่ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ สนช.ต่อไป จนกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจและดู “ทิศทางลม”
รวมทั้งดูสถานการณ์ทางการเมือง และสัญญาณรอบทิศทาง ก่อนที่จะตัดสินใจประกาศจุดยืนและอนาคตทางการเมือง ที่ได้สัญญาไว้ในเดือนกันยายนนี้ ที่จะสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีสนธิรัตน์ และ รมต.อุตตม ที่จะต้องเปิดตัวเข้าพรรคนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันหรือไม่

เมื่อใกล้มาถึงทางสามแพร่ง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องตัดสินใจ ความเครียดและกังวลจึงปรากฏ
แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจแล้วก็ตาม แต่การประกาศจุดยืนและผลพวงที่ตามมานั้นสุดยากที่จะคาดเดา หรือพิเคราะห์ ไม่ว่าด้วยทฤษฎีใด

อุตตม สาวนายน

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเอาทั้งชีวิตของตนเอง เป็นเดิมพันว่า การศึกครั้งนี้จะมีชัย หรือว่าจะจบอย่างไร
ขณะที่กองทัพและ ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ ก็ถูกจับตามองว่าจะเป็นกองหนุน แบ๊กอัพ พล.อ.ประยุทธ์ไปตลอดหรือไม่