ขอบคุณข้อมูลจาก | ชายตาหาข้าวเปลือก มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 พ.ค. 59 |
---|---|
เผยแพร่ |
การเดินพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศสครั้งนี้ของ ชมพู่ อารยา ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเลยค่ะ
แม้จะเป็นครั้งที่ 4 แล้ว แต่ยิ่งเดินยิ่งแซบขึ้นทุกปี
ตอนแรกยังแอบคิดว่า หมวยจะงัดอะไรออกมาสู้อีก ในเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาหมวยก็ปังสุดๆ แล้ว (หมวยคือชมพู่ นางบอกให้ฉันเรียกนางว่าหมวย และนางจะเรียกฉันว่าเจ๊ ชมพู่มักคิดคำเรียกเฉพาะอยู่เสมอ)
ชมพู่ไม่เคยแพ้ค่ะ เท่าที่รู้จักกันมา นางเป็นคนใจสู้เกินร้อย
เวลานางตั้งใจจะทำอะไรขึ้นมาแล้ว ไม่มีอะไรหยุดนางได้
นางต้องไปให้ที่สุดของที่สุด
ดูอย่างเรื่องดูแลตัวเองนั่นปะไร พอนางบอกว่านางจะเอาจริงแล้ว จะเปลี่ยนวิถีการกินของตัวเองเพื่อให้มีร่างกายและสุขภาพที่ดี นางก็ทำอย่างที่เรียกว่า “ยกครัวใหม่” เลยทีเดียว
นอกจากเปลี่ยนอาหารแล้ว ยังลามไปถึงจาน ชาม หม้อหุงข้าว (เพราะนางไม่เคยมี) กล่องข้าวแบบต่างๆ เพื่อไว้ใส่อาหารพกไปยามที่ออกนอกบ้าน
ชมพู่จึงเป็นลูกตะขาบที่รับตะขาบจากฉันไปแบบที่ฉันปลาบปลื้มใจเวลายกตัวอย่างให้ใครฟังทุกครั้ง นางคืออันดับ 1 ในใจฉันเสมอ
ออกกำลังกายก็เอาจริงเอาจัง คุณรู้ไหมคะว่าก่อนที่จะไปเมืองคานส์ ชมพู่มีวินัยในการออกกำลังกายขนาดไหน แม้ว่านางจะต้องมีอัดรายการ ถ่ายละคร ออกอีเวนต์ ถ่ายโฆษณา แต่นางก็ไม่เว้นการออกกำลังกาย 3-4 ทุ่มมีเวลานางก็ต้องออก แม้สภาพที่มาจากกองถ่ายจะเหนื่อยล้าแค่ไหนก็ตาม
อาหารก็ควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะเมื่อใกล้โค้งสุดท้าย
แล้วคุณเห็นผลลัพธ์ในความเพียรพยายามของเธอไหม
รูปร่างเธอตอนอยู่ในชุดหรูหราอลังการ มันช่างเหมาะเจอะพอดีเหลือเกิน แขน ไหล่ หลัง อก เอว สะโพก ขา
โดยเฉพาะในชุดซีทรูที่เห็นแบบแนบเนื้อ นางทำได้ดีไม่มีที่ติ
ถ้านางไม่มั่นใจในร่าง นางไม่มีวันใส่มันเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ชมพู่แทบไม่ค่อยโชว์ขาของตัวเอง แต่วันนี้นางเปลี่ยนไปแล้วค่ะ!!
และการเดินทางไปครั้งนี้ นางได้เตรียมอาหารไปกินเองด้วยบางส่วน เพื่อจะได้ไม่ไปตบะแตกกินขนมปัง ครัวซองต์ให้ร่างพัง เรียกว่ากันไว้ก่อนแก้ทุกทาง
ส่วนเรื่องชุด ในปีแรกๆ ที่ไป ชมพู่จะมีโอกาสได้เลือกชุดเองร่วมกับทีมงาน โดยชุดจากแบรนด์ต่างๆ ก็จะมากองรวมกันอยู่ในห้องเดียว ใครเลือกก่อนก็ได้ไปก่อน
แต่เมื่อเธอไปบ่อยครั้งเข้า ชื่อของนางก็เริ่มที่จะไปสะดุดหูดีไซเนอร์แบรนด์ต่างๆ ประกอบกับผลตอบรับในแต่ละปีก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
คราวนี้เธอจึงเป็นฝ่ายที่เลือกชุดอย่างที่เธอหมายตาไว้
นางทำการบ้านทุกกระเบียดนิ้ว เตรียมตัวมาเป็นปีเพื่องานครั้งนี้ เพราะนอกจากเสื้อผ้าแล้ว เครื่องประดับก็ไม่ยิ่งหย่อน
นางเพียรพยายามจนได้คอนเน็กชั่นกับแบรนด์เครื่องประดับระดับโลกอย่าง chopad
นางทำด้วยตัวนางเองล้วน
เพราะจริงๆ แล้วนางจะได้เดินพรมแดงเป็นตัวแทนแบรนด์เครื่องสำอางเพียง 2 วันท้ายๆ แต่พอนางได้ใส่เครื่องประดับ chopad นางได้เดินวันแรกของงานเลย!!
การเดินวันแรกของเทศกาลหนังมันเป็นวันพิเศษสุดๆ สายตาสื่อทุกคู่ต้องจับจ้องมาที่วันแรกเสมอ
และเธอก็ทำได้!
วันแรกที่เธอปรากฏโฉมมาด้วยชุดสีชมพูอลังการของ ralph and russo และเครื่องประดับติดคอของ chopad กระแสตอบรับดีมาก
ชุดของเธอติดอันดับชุดที่สวยที่สุด
รูปที่นำเสนอผ่านสื่อต่างประเทศดูเธออินเตอร์เทียบเท่ากับดาราดังจากต่างประเทศ
เมื่อกระแสเธอดีขนาดนี้ เรื่องเซอร์ไพรส์จึงเกิดขึ้น!
จริงๆ แล้วเธอต้องได้เดิน 3 วันเท่านั้น
แต่ก่อนงานวันที่สองจะเริ่มขึ้นเพียง 1-2 ชั่วโมงก็มีสัญญาณบอกให้เธอเดินวันที่สองด้วย!!!
เมื่อโอกาสมาถึง คนอย่างชมพู่ผู้ซึ่งเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี
เธอจึงไม่ปล่อยให้มันหลุดลอยไป เรียกว่าจะเมื่อไหร่กรูก็พร้อม!
เราจึงได้เห็นความแซบแบบเผ็ดลืมในชุดของ Atelier Versace และเธอก็ทำมันได้อย่างยอดเยี่ยม!
และอีก 2 วันที่เหลือ ชมพู่ก็ไม่ได้ทำให้คนไทยผิดหวังแม้แต่น้อย เธอเปลี่ยนลุคตัวเองทั้งแต่งหน้า ทำผมในแบบต่างๆ เรียกว่าช่างหน้า ผมก็สู้ตายไม่แพ้กัน แต่ไม่ว่าจะลุคไหน เธอก็เอาอยู่!
ฉันส่งข้อความให้กำลังใจไปถึงเธอเพราะรู้ว่าเธออาจจะต้องการมันจากคนที่อยู่ทางนี้

คุณอาจไม่รู้ว่ากว่าจะมายืนโพสท่าสวยๆ เก๋ๆ บนพรมแดง เธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง
มันไม่ใช่แค่ทั้งวันมารอนั่งแต่งหน้า
ทำผมแล้วใส่ชุดไปเดิน
ในแต่ละขั้นตอนมันมีรายละเอียดซ่อนอยู่มากมาย และเธอก็มีตารางในการทำงานแน่นเอี้ยดแทบทุกวัน
นางตอบกลับมาเสมอว่า เหนื่อยมาก
แต่อยากจะบอกนางว่าพอได้เห็นภาพแล้วมันคุ้มค่าในการเหนื่อยเหลือเกิน
ชมพู่เตรียมตัวไปครั้งนี้อย่างดี ชุดที่ต้องใส่ในวาระโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสปอนเซอร์ ถ่ายวิดีโองาน เดินเล่น นางคิดทุกชุด
นางเตรียมชุดที่ทำจากผ้าไหมไทยสั่งตัดพิเศษด้วยเงินตัวเองเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
เผื่อคนไทยบางคนจะอ่อนไหวกับการที่เธอใส่ชุดแบรนด์ระดับโลกเดินพรมแดง!
ความสำเร็จจากเมืองคานส์ครั้งนี้ไม่ได้ฟลุกหรือมีโชคช่วยนะคะ
ชมพู่ทำมันด้วยมือของเธอเองล้วนๆ เธอเป็นคนเอาจริงกับสิ่งที่เธอทำ
ทำแล้วต้องได้ผลเลิศจนทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว ปวดท้องบ้าง ประจำเดือนเลื่อนบ้าง ท้องผูกบ้าง นั่นเพราะเธออยากให้มันออกมาดีที่สุด
สิ่งที่ชมพู่ทำครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เธอเองที่ประสบผลสำเร็จ
แต่เธอได้นำพาประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักและรู้ถึงศักยภาพของคนประเทศนี้ด้วย
เธอต้องแบกความคาดหวังของคนอีกเท่าไหร่ในการเฝ้ารอดูปรากฏกายบนพรมแดง
มันอาจจะไม่สามารถทำให้ “ทุกคน” ชอบเหมือนกันได้
แต่ความตั้งใจ เพียรพยายาม ทุ่มเท มีวินัย และใช้ใจขนาดนี้ของชมพู่ มันก็นำความสุข ความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยครึ่งค่อนประเทศแล้วล่ะค่ะ
และฉันพยายามนึกว่าถ้านอกจากชมพู่แล้ว ใครจะทำได้อย่างเธออีก
ตอนนี้ยังนึกไม่ออกจริงๆ ค่ะ!