หลบหน่อย “โฆษก” จะมา! จับตาจัดทัพนายพลสีกากี สแกนโปร์ไฟล์ “สุรเชษฐ์ หักพาล”

ทันทีที่กระบวนการแต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 50 รายมีผลสมบูรณ์ กระบวนการการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพลสีกากีประจำปี เดินหน้าอย่างเป็นทางการทันที

การแต่งตั้งนายพลวาระประจำปี 2561 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลายตำแหน่งเป็นไฮไลต์น่าจับตา

เนื่องจากสิ้นเดือนกันยายน 2561 เก้าอี้ใหญ่เก้าอี้สำคัญว่างเพียบ

อีกทั้งเมื่อมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส เปิดให้เห็นเหล่านายพล ว่าที่นายพล แคนดิเดตเก้าอี้ใหญ่ ชัดเจนขึ้น

และไม่เหนือความคาดหมายของเหล่าสีกากีแต่อย่างใด

ยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” ที่ใครๆ พากันเรียก “บิ๊กโจ๊ก” คือนายตำรวจที่น่าจับตามองมากที่สุด

โดยเฉพาะในการแต่งตั้งนายพลตำรวจวาระประจำปีนี้ ข่าวสะพัดว่า “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ที่มีตำแหน่งใหม่ “ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)” ด้วย จองเก้าอี้ใหญ่ ปักหมุดที่สำนักสวนพลู ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” ตำแหน่งที่แวดวงสีกากีทราบดีเก้าอี้นี้พรีเมียม!!

วงการสีกากี วงการทหาร วงการการเมืองทราบดี “บิ๊กโจ๊ก” ผู้นี้คือใคร?

ชัดเจนมากในปี 2559 ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกคำสั่งถึงหัวหน้าหน่วยตำรวจทั่วประเทศ ให้รายงานเหตุสำคัญถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ที่เป็นนายตำรวจติดตาม ครั้งนั้นวงการสีกากีวิจารณ์สนั่น!!

ชัดเจนยิ่งกว่าเมื่อคำสั่งล่าสุด พล.อ.ประวิตรตั้งเอง คำสั่งรองนายกรัฐมนตรีที่ 1/2561 ให้ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำตัว เหมือนเป็นโฆษกส่วนตัว คำสั่งออกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง

ตั้งแต่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่แห่ง คสช. รับบทบาททางการเมือง “เดอะโจ๊ก” คือเงาตามตัว เป็นนายตำรวจข้างกาย เห็น พล.อ.ประวิตรที่ไหน เจอ “โจ๊ก” ที่นั่น

โปรไฟล์ส่วนตัว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ชื่อเล่น “โจ๊ก” แต่ในวงการตำรวจเรียกแบบบุคคลที่ 3 ว่า “โจ๊กหวานเจี๊ยบ”

ด้วยบุคลิก ลีลาการพูด ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่-ผู้น้อยในลักษณะสไตล์เฉพาะตัว เป็นที่มาของฉายา

แต่ยุคนี้ใครๆ เรียก “บิ๊กโจ๊ก” ด้วยบารมีมากมายที่วงการสีกากีมิอาจทัดทาน!!

เรียนมัธยมที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 31 และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47 สถานะตำแหน่งนายพล ยศ พล.ต.ต. ตามข่าวว่ากำลังคั่วเก้าอี้ พล.ต.ท. เรียกว่านำรุ่นพราน 47 มาไกล

“รองโจ๊ก” รับว่าบิดาที่เคยทำงานใกล้ชิด “บ้านดามาพงศ์” อยู่กับ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ บิดา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หรือคุณหญิงอ้อ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ด้วยความสัมพันธ์เป็นลูกน้องใกล้ชิดติดตัว “บิ๊กป้อม” ของ “รองโจ๊ก” ทำให้ถูกมองว่าการเติบโตชนิดติดลิฟต์ในเส้นทางสีกากีตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังการปฏิวัติเป็นต้นมา เป็นเพราะแรงดันดีจากบิ๊กป้อม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นเอง

ย้อนเส้นทางสีกากีของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ในปี 2557 ปีแรกของการปฏิวัติ เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา แต่ได้รับแต่งตั้งกรณีพิเศษให้นั่งรักษาการตำแหน่งผู้บังคับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประสานนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ติดตาม พล.อ.ประวิตร ตอนนั้นชื่อ “สุรเชษฐ์ หักพาล” ก็ดังกระหึ่มในวงการสีกากี

รักษาการเก้าอี้นายพล ประสานนายกฯ เดี๋ยวเดียว ไม่กี่เดือนต่อมา วาระพิเศษ ปี 2558 ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพลเต็มตัว ในวัยเพียง 45 ปี

จากอานิสงส์สิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นแต้มต่อ บวกอาวุโสให้ 1 ปี 5 เดือน 13 วัน ได้เป็นนายพลแบบอาวุโสคาบเส้น

นั่งผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นาน พอถึงวาระประจำปี 2558 ก็อัพเกรดเก้าอี้ เป็น “ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว” สร้างผลงานจัดว่าโดดเด่น หยิบจับคดีดัง

กระทั่งวาระการแต่งตั้งประจำปี 2559 บิ๊กโจ๊กขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ ผบก.191 ในสังกัดนครบาล อัพเกรดเก้าอี้อีกเลเวล และยังทำหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ตร.ปราบเด็กแว้นแก๊งซิ่ง ปราบโต๊ดเถื่อน ส่งชุดปฏิบัติงานออกไปทั่วประเทศ ในวงการสีกากีวิพากษ์แบบไม่กล้าออกตัวนัก หากไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก ไปทำงานปาดเค้กข้ามหน่วยแบบนี้มีปัญหาภายในแน่

แต่นี่คือ “บิ๊กโจ๊ก” จึงไม่มีใครพูดอะไร หรือทำอะไร อีกทั้งยังมีคำสั่งชุดเฉพาะกิจ ตร.กำกับ

นั่งเก้าอี้ ผบก. เพียง 2 ปี ในวาระแต่งตั้ง 2560 บิ๊กโจ๊กที่อาวุโสลำดับ 76 ได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ยังไม่ทันไปนั่งทำงาน เกิดหน่วยงานใหม่ปรับโครงสร้างตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว 1 สัปดาห์ต่อมา บิ๊กโจ๊กโยกไปนั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนถึงขณะนี้

ในตำแหน่งรอง ผบช.ทท. ผลงานบิ๊กโจ๊กปรากฏบนพื้นที่สื่อมากกว่าใคร

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดศูนย์เฉพาะกิจขึ้นมา ทั้งศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมการหลอกลวงทางเทคโนโลยี

แม้จะไม่ใช่ผู้อำนวยการศูนย์ด้วยดีกรีตำแหน่ง แต่บทบาทตัวจักรขับเคลื่อนงาน และบารมีที่วงการสีกากีสัมผัส บิ๊กโจ๊กยิ่งกว่า ผอ.ศูนย์ รวบรวมสมัครพรรคพวกทีมคนเก่งสีกากีดึงเข้าทำงานภายใต้ปีกที่ยิ่งใหญ่ของบิ๊กโจ๊ก ทำผลงานช่วยเหลือประชาชนมากมาย พร้อมๆ กับการยึดพื้นที่สื่อ!!

ตลอดปีที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ได้รับการสนับสนุน สร้างผลงานจนเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ใหม่ คล้ายรีแบรนดิ้งตัวเองให้คนทั่วไปนอกวงการสีกากีรู้จักบิ๊กโจ๊ก นอกเหนือจากมุมที่เคยถูกพูดถึง

ผลงานของบิ๊กโจ๊กตอนนี้จัดว่าเข้าสเป๊กผู้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ พอที่จะขยับเก้าอี้เป็น พล.ต.ท. เข้าหลักอาวุโส แม้ถูกตีเรื่องอาวุโสอ่อน รั้งอันดับท้ายๆ 123 จาก 128 ลำดับ แต่ชื่อชั้นระดับ “บิ๊กโจ๊ก” ที่มีตำแหน่งผู้ช่วยโฆษกส่วนตัวรองนายกฯ กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำทับเป็นแบ๊กอัพขนาดนี้ เก้าอี้ที่จองไว้จะไปไหนเสีย!!

ตกเป็นงานยากให้ผู้จัดทัพ “บิ๊กสีกากี” รอบนี้ ต้องจัดสรร “หลบหน่อย บิ๊กโจ๊กจะมา” จับตาการแต่งตั้งวาระ 2561 นี้ให้ดี!!