เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์/เอเชี่ยนเกมส์ 2018

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์

เอเชี่ยนเกมส์ 2018

มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในชื่อ จาการ์ตา-ปาเล็มบัง เกมส์ ซึ่งเป็นชื่อของสองเมืองที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของอินโดนีเซียที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งตามจริงแล้วต้องเป็นคิวของประเทศเวียดนาม แต่ได้ขอถอนตัวไปด้วยสาเหตุที่ไม่สามารถระดมทุนมาใช้ในการจัดการแข่งขันได้ อินโดนีเซียจึงเหมือนกับรับเผือกร้อนมาประมาณนั้น
เพราะการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาประเทศนั้น จำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างมาก
เอเชี่ยนเกมส์เองก็จัดว่ามีความใหญ่รองมาจากกีฬาโอลิมปิกเท่านั้น เพราะมีประเทศในทวีปเอเชียที่จริงๆ มีอยู่เกือบ 50 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน
และมาตรฐานการจัด การถ่ายทอด ที่ทันสมัยก้าวหน้ามากขึ้น ก็เรียกร้องให้ประเทศเจ้าภาพต้องพยายามทำให้ได้มาตรฐานขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย
ถามว่างั้นทำไมอินโดนีเซียถึงกล้าออกรับล่ะ

ก็ต้องเป็นเรื่องที่ผูกโยงไปถึงเรื่องการเมือง เพราะในปีหน้าอินโดนีเซียจะมีการเลือกตั้งใหญ่ การที่รัฐบาลรับงานนี้มาก็เหมือนเป็นการสร้างผลงานระดับนานาชาติให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่แต่เฉพาะกับประเทศอื่น ที่สำคัญคือกับประชาชนของอินโดนีเซียเอง
และผลพวงที่ตามมาคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ บวกกับความฮึกเหิมแบบชาตินิยมจากการเชียร์กีฬา ก็จะเป็นเสมือนจิตวิทยาในการหาเสียงกลายๆ
ใครที่ได้ชมพิธีเปิดไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงจะเห็นได้ว่ามีการโปรโมตความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด อย่างมาก
นับแต่มีการจัดทำเป็นวิดีโอเห็นการออกเดินทางจากที่พักของประธานาธิบดีในรถประจำตำแหน่งแวดล้อมด้วยบอดี้การ์ดรัดกุม เมื่อมาถึงระหว่างทางเกิดการจราจรติดขัดจากการชุมนุมของกลุ่มคนหนุ่ม-สาว ประธานาธิบดีก็โดดลง ขึ้นควบมอเตอร์ไซค์นำขบวนแบบฉายเดี่ยวห้อไปยังสนามเปิดการแข่งขัน
ที่เซอร์ไพรส์คือไม่ได้ขี่แบบชิลด์ๆ แต่ราวกับพระเอกหนังแอ๊กชั่นทั้งหลาย มีทั้งควบกระโดดขึ้นทางลาดเพื่อลอยตัวผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม ลัดเลาะไปตามทางลัดที่เป็นซอกซอย ถือโอกาสให้ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวอินโดนีเซียไปกลายๆ
ดูเผินๆ ราวกับหนัง Mission Impossible ยังไงยังงั้น
และมอเตอร์ไซค์ของท่านผู้นำก็ควบเข้ามาในสนามที่เป็นภาพสดๆ พร้อมกับการโห่ร้องปรบมือต้อนรับของผู้ชมในสนาม ก่อนที่ผู้นำตัวจริงจะปรากฏตัวขึ้นมา โบกมือทักทายเหมือนฮีโร่คนหนึ่งทีเดียวเชียว
นึกเล่นๆ ว่า ถ้ามุขนี้เอามาใช้กับนายกฯ ตู่ของเราก็คงไม่ค่อยเซอร์ไพรส์เท่าไร เพราะเราเคยเห็นท่านควบมอเตอร์ไซค์มาหลายหนแล้ว รวมทั้งยังได้ทำอะไรที่เรานึกไม่ถึงมาเป็นระยะ มุขแค่นี้จิ๊บๆ
เชื่อว่าจากการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ท่านประธานาธิบดีและพรรคของท่านคงได้รับความชื่นชมที่พร้อมจะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงได้ไม่น้อยเลย

พิธีเปิดการแข่งขันก็จัดขึ้นอย่างสวยงาม แม้จะไม่ถึงกับยิ่งใหญ่ตระการตาแต่ก็ทำได้ไม่ขี้เหร่ โดยเฉพาะกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังต้องลุ้นยาวๆ ว่าจะก้าวไปจากปัญหาที่รุมเร้าได้แค่ไหน ที่ทำได้ตามที่ออกมานั้นก็ต้องปรบมือให้
พิธีการสำคัญอย่างหนึ่งคือการเดินพาเหรดของเหล่านักกีฬาประเทศต่างๆ ที่ร่วมการแข่งขันเข้าสู่สนาม โดยไทยแลนด์อยู่ในลำดับที่ 37 ตามลำดับตัวอักษร โดยมี หน่อง-ปลื้มจิตร์ ถินขาว นักวอลเลย์สาวทีมชาติไทยได้รับเกียรติให้ถือธงชาติไทยนำขบวน ร่างสูงๆ หน้าตาใสๆ และผมสั้นที่ทะมัดทะแมงจึงทำให้ปลื้มจิตร์ดูดีทีเดียวในตำแหน่งสำคัญนี้
แต่ที่สงสัยคือ ทำไมทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมเดินขบวนของไทยจึงมีจำนวนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเราส่งทัพนักกีฬาในครั้งนี้มากเป็นที่สองรองจากเจ้าภาพเท่านั้น เลยทำให้ดูไม่เกิดพลังเท่าที่ควร
และไฮไลต์ของพาเหรดนักกีฬาครั้งนี้คือการร่วมเดินขบวนด้วยกันของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ภายใต้ธงชาติพิเศษที่แสดงถึงการเป็น “คนชาติเดียวกัน” ช่วยตอกย้ำความพิเศษของการกีฬาที่ว่า เป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ โดยไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง
นับว่าเป็นความสวยงามจริงๆ ของคืนวันนั้น

Motto ของการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 นี้คือ Energy of Asia พลังของชาวเอเชีย เจ้าภาพจึงตั้งใจจัดการแข่งขันให้สะท้อนถึงความหมายนี้ให้มากที่สุด ซึ่งคงต้องวัดถึงวันสุดท้ายว่าจะก่อให้เกิดพลังอย่างที่ว่าได้เพียงไหน
ส่วน Theme ของการจัดพิธีเปิดคือ น้ำ ดิน ลม ไฟ อันแสดงถึงธาตุทั้ง 4 ที่มีความสำคัญต่อโลก และมีพลังในการสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาบนโลกนี้มากมาย การแสดงส่วนหนึ่งก็ใช้ผู้แสดงที่สะท้อนความเป็น 4 ธาตุนี้ออกมาได้อย่างสวยงาม
นอกนั้นก็จะเป็นการขับร้องบทเพลงจากนักร้องมีชื่อของอินโดนีเซีย และการแสดงที่โชว์เทคนิคสมัยใหม่ที่มีนักเต้นเต้นด้วยเครื่องแต่งกายโมเดิร์นพร้อมลีลาร่วมสมัยไปกับดนตรีที่คึกคัก
แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการแสดงเปิดพิธีมากที่สุด ที่ใช้นักแสดงหญิงหลายร้อยคนมานั่งเรียงซ้อนกันในรูปสี่เหลี่ยม แล้วขยับมือ มีท่าทาง มีก้มมีเงย และเล่นกับสีของเสื้อผ้าเพื่อแปรภาพออกมาเป็นแพตเทิร์นที่สวยงามหลากหลายได้น่าประทับใจ
ที่ชอบเพราะเป็นการแสดงที่มาจากความสามารถของคนล้วนๆ ไม่ได้ใช้เทคนิคใดๆ แต่ต้องมาจากความตั้งใจอดทนในการซักซ้อมฝึกฝนอย่างหนักและพร้อมเพรียง จึงจะออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ได้ สะท้อนถึงทักษะของความเป็นเอเชียได้ดี คือเป็น Handmade มากกว่า Technology

ได้ชมพิธีเปิดการแข่งขันของจาการ์ตา ปาเล็มบัง เกมส์ครั้งนี้แล้วอดนึกย้อนไป 20 ปีที่แล้วไม่ได้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ในปี 1998 และ เจ เอส แอล ก็ได้รับหน้าที่ให้ทำพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน
การจัดได้ใช้ผู้แสดงและเจ้าหน้าที่หลายพันคนเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์งานให้ออกมาดีที่สุด มีการแสดงหลากหลายชุดและชวนให้ติดตามตลอดพิธีได้อย่างที่ประธานโอลิมปิกแห่งเอเชียมีหนังสือมาชื่นชมอย่างเป็นทางการ นำความภาคภูมิใจให้กับบริษัทและประเทศไทยอย่างมาก
และที่สำคัญ ในวันพิธีเปิดได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งสมเด็จพระบรมพระราชินีนาถ และสมาชิกพระราชวงศ์ทุกพระองค์เสด็จมาร่วมทอดพระเนตรในสนาม ยังจำภาพที่ถ่ายออกมาที่เห็นพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม พร้อมการปรบพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว
ความเหน็ดเหนื่อยยากลำบากจากการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ส่วนในพิธีปิดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งครั้งนั้นยังทรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ มาเป็นองค์ประธานในพิธี ทำให้งานการจัดพิธีทั้งเปิดและปิดเสร็จสิ้นอย่างสวยงามสมบูรณ์
ไม่รู้ว่าจะอีกกี่ปีที่ประเทศไทยจะได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์อีกครั้ง ซึ่งถ้าจัดอีกก็จะเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 5 แล้วสำหรับประเทศเล็กๆ อย่างไทย แต่นั่นก็ทำให้เราได้แสดงศักยภาพในเชิงกีฬาและความเป็นชาติไทยให้ชาวเอเชียและชาวโลกได้เห็น

นับแต่การเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ตั้งแต่ครั้งที่ 1 ต่อเนื่องมา ตลอด 17 ครั้งที่ผ่านมาไทยเราสามารถทำเหรียญทองติดอันดับท็อปเท็นถึง 12 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 เราทำได้ถึง 24 เหรียญทอง จากนั้นไทยก็สามารถทำเหรียญทองติดท็อปเท็นต่อเนื่องมาโดยตลอด
สำหรับครั้งนี้มาชมเชียร์กันว่าทัพนักกีฬาไทยจะทำได้กี่เหรียญทอง รวมทั้งเหรียญเงินและทองแดงด้วย น่าเสียดายที่บางประเภทกีฬาที่ไทยมีความหวังไม่ได้จัดแข่งในเอเชี่ยนเกมส์หนนี้ แต่ที่เหลือก็เพียงพอให้เราได้ลุ้นกันว่าจะได้ 17-20 เหรียญทองตามที่ประเมินหรือไม่ และจะยังติดอันดับท็อปเท็นอยู่ต่อไปหรือเปล่า
การแข่งขันเพิ่งผ่านไปอย่างเป็นทางการแค่สัปดาห์เดียว เอาใจไทยเชียร์ไทยกันครับ