ฟ้า พูลวรลักษณ์ : แต่งงานหมู่ ชายสาม หญิงสี่ มีลูกให้กันได้

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๒)

วันหนึ่งฉันอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ เจอคอนเซ็ปต์ของการแต่งงานหมู่ ฉันชอบคอนเซ็ปต์นี้มาก ฉันเชื่อในโลกของอนาคต คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้

คำว่า การแต่งงานหมู่ ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงงานแต่งงาน ที่คู่บ่าวสาวหลายๆ คู่จัดงานร่วมกัน เพื่อความสนุกสนาน หรือเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คอนเซ็ปต์นี้เก่าแล้ว และทุกวันนี้ก็พอจะได้เห็นคนทำแบบนี้บ้าง แต่มีเพียงเล็กน้อย

แต่มันหมายถึงคนจำนวนหนึ่งมาแต่งงานร่วมกัน เป็นหนึ่งหน่วยครอบครัว

และนี่คือโลกอนาคต ดังนั้น จึงมีผลกว้างใหญ่

เช่น มีคนเจ็ดคนต้องการจะแต่งงานกัน ในนี้เป็นชายสาม หญิงสี่ คนเจ็ดคนนี้ อาจเป็นเพื่อนร่วมงานกัน หรือรู้จักกันดี ด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ พวกเขารักกัน และพบจุดอ่อนจุดแข้งของตัวเองและฝ่ายตรงข้าม ที่เสริมรับกันพอดี การแต่งงานหมู่จึงเกิดขึ้น

เช่นชาย คนหนึ่งอาจไร้สมรรถภาพทางเพศ หรือมีความต้องการน้อย แต่เขาก็ยังต้องการความอบอุ่นของความสัมพันธ์ ในขณะที่หญิงคนหนึ่งอาจมีความต้องการทางเพศสูง เธออาจรักชายคนนี้ และรู้สึกอบอุ่นที่อยู่ใกล้ชิด แต่ความต้องการทางเพศก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เธอกลับต้องการสิ่งนี้จากผู้ชายอีกสองคน

หรือผู้ชายคนนี้ มีความต้องการทางเพศสูง เขาเป็นคนดี มีความสามารถ แต่เขาต้องการมีเมียอย่างน้อยสามคน ในส่วนลึกของเขาจะอิ่มพอดี เหตุผลจะเป็นอะไรก็ตาม แต่การแต่งงานหมู่ เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แต่ก็เกิดประโยชน์

หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ เรื่องลูก

ผู้หญิงคนหนึ่งอาจมีลูกไม่ได้ ยีนในตัวเธอมีความผิดปกติ ผลิตไข่ที่มีความบกพร่อง และแก้ไขไม่ได้ เพราะมันเป็นความผิดปกติของยีน หรือแก้ได้แต่ยากลำบากมาก หรือเธอ ตัวเองไม่อยากอุ้มท้องเอง ไม่อยากมีลูกที่เกิดจากร่างกายของตัวเอง แต่เธออยากมีลูกที่เกิดจากคู่ของตน คือจากหญิงอีกคนหนึ่ง

ในตัวอย่างสามชายสี่หญิงนี้ หญิงคนหนึ่งอาจมีลูกไม่ได้ หญิงคนหนึ่งอาจมีได้แต่ไม่อยากมี แต่หญิงอีกคนหนึ่งเป็นแม่ลูกดก เธอเป็นคนตั้งท้องง่าย มีลูกง่าย เธอในหนึ่งชีวิตนี้ มีลูกสี่คนได้อย่างสบาย และลูกๆ ก็แข็งแรง น่ารัก ส่วนหญิงคนที่สี่อาจมีลูกหนึ่ง เท่ากับครอบครัวนี้มีลูกห้าคน เด็กทุกคนมีพ่อสามคนแม่สี่คน

หัวใจของคอนเซ็ปต์นี้อยู่ที่ การเลี้ยงลูก

พ่อแม่ทุกคนมีอำนาจหน้าที่เท่ากัน ในการดูแลลูก ทุกคนต้องยอมรับก่อน ไม่ใช่ว่าแม่ที่เป็นแม่ทางชีววิทยา จะมีอำนาจมากกว่า เธออาจตั้งท้องเด็กนานถึงเก้าเดือนก็จริง แต่ในทางกฎหมาย หญิงสี่คนนี้ล้วนเป็นแม่

ในทำนองเดียวกัน ชายสามคนล้วนเป็นพ่อ

หากคนใดคนหนึ่งบกพร่องในหน้าที่ของการเป็นพ่อแม่ มีความผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะลึกซึ้งและรุนแรง เพราะโลกอนาคต เราให้ความสำคัญแก่ชนรุ่นหลัง เราจะคิดถึงเด็ก

เด็กที่เกิดขึ้นมาจะมีโอกาสดีกว่าเด็กปัจจุบัน เพราะเขามีพ่อถึงสามคน และแม่สี่คน ความเงียบเหงา ความอ้างว้างของเด็กกำพร้า จะเกิดขึ้นได้ยาก

ในโลกอนาคต คนที่ต้องการจะเป็นผัวเดียวเมียเดียว ก็มีสิทธิ ก็ยังมีอยู่ เหมือนคนโสด ก็ยังมีอยู่

จำนวนคนที่ชอบวิธีแบบเก่านี้ ฉันไม่รู้ อาจจะยังเยอะอยู่ หรืออาจจะมีเพียงคนกลุ่มน้อย ก็ไม่เป็นไร เพราะมนุษย์มีสิทธิในการเลือก

ในโลกอนาคต การอยู่กันผัวเดียวเมียเดียว อาจยากลำบาก และน้อยไป ผู้คนหากจับตัวกันเป็นกลุ่ม กลับจะได้ประโยชน์กว่า

แต่กลุ่มดังกล่าวก็ต้องมีขนาดจำกัด

จะต้องมีกฎหมายที่เข้มงวด รัดกุมในการแต่งงานหมู่ กฎหมายที่ออกมาจะต้องเกิดจากการถกเถียง การวางแผนเป็นอย่างดี

แต่ในความเห็นของฉัน มันควรมีขนาดพอสมควร เช่น ไม่ควรเกินสิบสองคน กลุ่มที่ใหญ่สุด คือมีสิบสองคน จะเป็นชายหรือหญิงเท่าไรก็แล้วแต่ความเหมาะสม แต่ควรจะใกล้เคียงกัน

ดังนั้น การที่ชายหนึ่งคนต้องการแต่งงานกับหญิงสิบเอ็ดคน ความเป็นไปได้ จะยากมาก เพราะมันเป็นการแต่งงาน ที่มองไม่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์อะไรกับสมาชิกแต่ละคน นี่เป็นเพียงการที่ชายคนหนึ่งอยากมีเมียมาก ยกเว้นแต่ว่าในสังคมวันนั้น หรือที่นั้น ชายน้อย หญิงมาก ก็อาจเป็นไปได้

แต่ฉันมองโลกในคอนเซ็ปต์ธรรมดา คือชายหญิงมีจำนวนใกล้เคียงกัน และความต้องการของพวกเขาแต่ละคนเป็นประชาธิปไตย

ดังนั้น หากเกิดกลุ่มใหญ่สุดสิบสองคน สัดส่วนก็ไม่ควรทิ้งกันมากนัก

เช่น ชายเจ็ด หญิงห้า หรือชายห้า หญิงเจ็ด ก็ถือว่าแตกต่างกันมากแล้ว แต่ละครอบครัว จะต้องสามารถสะท้อนสังคมภายนอกในมุมกว้างได้ ไม่ใช่ชายหนึ่ง หญิงสิบเอ็ด มันสะท้อนสังคมไม่ได้เลย หรือหญิงหนึ่ง ชายสิบเอ็ด ก็เช่นกัน ครอบครัวดังกล่าว เป็นศัตรูกับสังคม ตั้งแต่วันแรกเริ่ม กฎหมายคงไม่อนุญาตให้เกิดขึ้น

แต่ชายห้า หญิงเจ็ด เกิดขึ้นได้ ไม่ต้องพูดถึงชายหก หญิงหก ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่เกิดขึ้นได้

เรามาดูตัวอย่างชายห้า หญิงเจ็ด ว่าพวกเขาจะอยู่กันอย่างไร

พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเดียวกัน พวกเขาย่อมแยกกันอยู่ได้ตามสะดวก การแต่งงานหมู่ไม่ได้หมายถึงการอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งอาจทะเลาะกัน หรือเป็นบ้านที่วุ่นวาย ที่จริงพวกเขาควรแยกกันอยู่ ตามหน้าที่การงานของแต่ละคน

เช่น ชายหญิงคู่หนึ่งอาจอยู่ที่อเมริกา ชายหญิงคู่หนึ่งอาจอยู่ที่อังกฤษ หนึ่งชายสองหญิงอาจอยู่ที่ฝรั่งเศส สองชายสามหญิงอาจอยู่ในเมืองไทย

พวกเขาเป็นสัญชาติใดก็แล้วแต่ ไม่ว่ากัน อาจเป็นคนไทยล้วน หรือมีคนต่างชาติผสมผสาน สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องรู้จักกันดี รักกัน สนิทสนม และพร้อมจะรับผิดชอบร่วมกัน พวกเขาจะไปมาหาสู่กัน แล้วแต่ความเหมาะสมของกาลเวลา พวกเขาเป็นมากกว่าเพื่อน แต่พวกเขาควรเริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อน

ในโลกอนาคต การเดินทางย่อมต้องเกิดขึ้นได้ง่าย

ชีวิตแต่ละคนจะได้รับความสมดุล ดีขึ้น จากการรวมกันเป็นหมู่นี้

ทุกคนได้รับความพอเพียงจากเรื่องเซ็กซ์ เพราะชายหญิงจำนวนมาก โดยเนื้อแท้แล้วมีความต้องการสูง และทุกชีวิตจะมีลูกได้ เพราะในสิบสองคนจะต้องมีหญิงอย่างน้อยคนสองคนที่มีลูก มันต้องเกิดจากการวางแผนล่วงหน้าก่อน ไม่ใช่หญิงเจ็ดคนเป็นหมันหมด หรือหญิงเจ็ดคนเป็นพันธุ์ลูกดกหมด

การแต่งงานหมู่ ต้องมีการวางแผน การตรวจสอบ เพื่อหาความพอดี เพื่อให้เกิดข้อดีมากกว่าข้อเสีย ใครที่ไม่รับผิดชอบในการเลี้ยงลูก กฎหมายจะกำหนดให้เป็นคนที่ต่อไปนี้จะหาคู่ไม่ได้

เพราะเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก หากหย่าร้างไป ก็แต่งงานใหม่ไม่ได้ ประวัติของเขาด่างพร้อยเสียแล้ว

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีผลกว้างใหญ่ เพราะสังคมมนุษย์เราตั้งแต่เริ่มมีมนุษย์ ยังไม่มีการจัดวางแบบนี้มาก่อนเลย นี้เป็นวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ มนุษย์คล้ายหนึ่งจะเป็นมากกว่ามนุษย์ หรือเป็นน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับว่า เราจะทำยังไง

ทำได้ง่าย เทคโนโลยีของโลกอนาคต เป็นเพียงตัวช่วยส่งเสริมมัน

ปัญหาที่สำคัญคือเรื่องของศีลธรรม ที่จะต้องถูกพิจารณา เอาใจใส่ แต่ไม่ใช่เอาใจใส่จนลืมเลือนส่วนอื่นของมนุษย์ไป

เช่น มนุษย์จะต้องไม่มีความหึงหวง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ไหม สำหรับฉันเกิดขึ้นได้ ทุกวันนี้ฉันไม่มีความหึงหวง แต่คนอื่นล่ะ นี้คือจุดตัดสินที่สำคัญ หากมนุษย์ยังใจแคบ ยังหึงหวงกัน คอนเซ็ปต์ของการแต่งงานหมู่ก็เกิดขึ้นไม่ได้

คนที่แต่งงานหมู่เพียงเพราะอยากมีเซ็กซ์เท่านั้น ก็เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะขาดความรับผิดชอบ ขาดหน้าที่ ชีวิตการแต่งงานหมู่ หัวใจคือการมีลูก

หากไม่อยากมีลูก ก็ไม่ควรแต่งงาน หรือไม่ก็แต่งงานแบบเรียบง่าย คือเป็นผัวเดียวเมียเดียว พยายามเลือกวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด