ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 สิงหาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
สัปดาห์ก่อนการเรียกประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบเร่งด่วนย่อมไม่ธรรมดา
และยิ่งเป็นการตัดสินใจใช้มาตรา 44 ย้าย พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ดำรงตำแหน่งนี้เพียง 1 เดือนครึ่งมาเป็นผู้ตรวจพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่องนี้ยิ่งผิดปกติ
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ทำผิดอะไรจึงต้องย้ายแบบ “ฟ้าผ่า”
ยิ่งมีกระแสข่าวว่า พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ขัดแย้งกับ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานกรรมการ ปปง.
และเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักการเมือง
“ควัน” คลุ้งขนาดนี้
คนจึงเริ่มมองหา “ไฟ”
พล.ต.อ.ชัยยะนั้นได้ชื่อว่าเป็น “คู่ปรับ” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” มานาน
เขาสนิทสนมกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
สมัย “ทักษิณ” พล.ต.อ.ชัยยะ ถูกโยกเข้ากรุ นั่งตบยุง
หลังรัฐประหารจึงค่อยได้รับตำแหน่งสำคัญ
ผลุบๆ โผล่ๆ ตามกระแสการเมืองมาตลอด
จน คสช.ยึดอำนาจ พล.ต.อ.ชัยยะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สุดท้าย “ทักษิณ” ก็มีคำนำหน้าว่า “นาย” แทน “พ.ต.ท.”
จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ ปปง.
หลังเกษียณอายุก็ได้ยกระดับขึ้นเป็นประธานกรรมการ ปปง.
ส่วน พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ เป็นรองเลขาธิการ ปปง. มาพักใหญ่
มีผลงานเข้าตาคือ เรื่องเงินทอนวัดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แต่พอได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ ปปง. ได้แค่เดือนเศษ
เขาก็ถูกเด้งด้วย ม.44
แบบไม่ต้องมีการสอบสวนอะไรทั้งสิ้น
สถานการณ์การเมืองตอนนี้กำลังเข้มข้น
ร่ำลือในกลุ่มนักการเมืองว่าเกมการ “ดูด” ครั้งนี้ของฝ่ายที่เชียร์รัฐบาลแรงกว่าการเลือกตั้งครั้งอื่น
ในอดีตพลังดูดจะมาจาก “อำนาจเงิน” และ “อำนาจรัฐ”
แต่ครั้งนี้มี “อาวุธ” ใหม่ที่รุนแรงยิ่งกว่า
คือ การใช้ “คดีความ” มาต่อรอง
เกมนี้ได้ผลสำหรับนักการเมืองที่เจอคดีหนักๆ หรือประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวยังไม่มากนัก
แต่คนที่ “เก๋า” พอ จะรู้ว่า “คดีความ” นั้นยังมีเวลา
และ “ลมการเมือง” อาจเปลี่ยนทิศหลังเลือกตั้ง
ไม่แปลกที่โฉมหน้า ส.ส. ที่เปิดตัวตาม “พลังดูด” จึงยังไม่ใช่ “ตัวจริง-เสียงจริง”
การเด้ง พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์แบบ “ฟ้าผ่า” จึงเป็นเกมที่ทุกฝ่ายจับตามอง
มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเพิ่ม “พลังดูด” ครั้งใหม่หรือเปล่า
เพราะอำนาจ ปปง. ล้นฟ้า
ตรวจสอบบัญชีการเงินและยึดทรัพย์ได้
แต่ทั้งหมดเป็น “ข่าวลือ” ที่มุ่งทำลายความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารของแกนนำรัฐบาล
อาจเป็นแค่ “ควัน” เท่านั้นเอง
เชื่อหรือไม่??