ทราย เจริญปุระ : คิดถึง “แม่”

แม่,

มาถึงวันนี้ คุณแม่ก็ป่วยเกินกว่าจะเข้าใจความจริงในแต่ละวันอีกต่อไป

ลึกๆ ทรายคิดนะ ว่าจริงๆ แม่รู้ แต่หมดกำลังใจจะจัดการอะไรกับมัน

แม่ไม่เดิน ไม่อาบน้ำ ไม่แปรงฟัน ไม่ทำอะไรด้วยตัวเองอีกต่อไปแล้ว ร่างกายกับจิตใจของแม่แยกกันอย่างเด็ดขาด หมอบอกว่าทางกายแม่ไม่มีอะไรบกพร่องเลย นอกจากมวลกระดูกที่ลดลงเล็กน้อยตามวัย แม่ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นความดันผิดปกติ ไม่เป็นเบาหวาน ไม่มีก้อนเนื้อต่อมไตใดๆ เป็นส่วนเกิน

แม่แค่หมดกำลังใจ

และทรายก็กำลังได้เรียนรู้สิ่งที่เคยอ่านเจอแต่ในหนังสือ

ว่าการตรอมใจตายนั้นมีอยู่จริง

แม่ไม่ทำอะไรนั้นทรายไม่มีปัญหา ทรายหาพี่เลี้ยงให้แม่ได้ ซื้อกระโถน ซื้อผ้าอ้อม ทำห้องน้ำใหม่ ย้ายที่นอนให้แม่ได้ทุกอย่าง

แต่ทรายเดินแทนแม่ไม่ได้

และทรายก็มีความสุขแทนแม่ไม่ได้

มันเจ็บปวดเมื่อวันหนึ่งทรายก็ต้องมองแม่ที่ไม่มีแม้ความพยายามจะชักผ้ามาพันตัวปกปิดกายเปล่าเปลือย

แม่นอนอยู่อย่างนั้น รอให้โลกหมุนผ่าน

รอให้คนอื่นจัดการเป็นธุระให้

แม่ไม่ทำ ไม่ขยับ ไม่เขินไม่อายอีกต่อไป

มือของแม่ร้อนผ่าวทุกครั้งที่เรากุมมือกัน

แล้วแม่ก็ร้องไห้

ทรายสงสัยว่าข้างในตัวแม่นั้น ยังมีจิตวิญญาณของสาวน้อยช่างแต่งตัวคนเดิมอยู่ไหม

คนที่ตาเป็นประกายเมื่อเห็นผ้าสวยๆ ที่จะเอาไปตัดชุดใหม่

คนที่ซื้อทุกอย่างที่ซื้อได้เอามาจัดวางไว้ในอาณาจักรตัวเอง

ทรายเพิ่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบ

เดี๋ยวนี้ทรายอ่านช้าลงเยอะ ไม่เร็วปรื๊ดอย่างที่แม่เคยบ่นนักหนาเมื่อก่อน ว่าเปลืองเงินจริงเชียว เดี๋ยวจบ เดี๋ยวจบ หาเงินให้เร็วเท่าที่อ่านได้จะดีมาก

เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง เขาเขียนอะไรยากๆ สำหรับใช้ในวงวิชาการนะคะ แต่อันนี้เขาเขียนถึงภรรยา

มันเรียบง่าย เรียบง่ายเหมือนกับที่โลกหมุนไปทุกวัน เหมือนที่พระจันทร์มีผลต่อระดับน้ำ

เขาเล่าแบบนั้นว่าเขาเจอเธออย่างไร เธอสำคัญกับเขาอย่างไร เขารักความเป็นเธอมากเพียงใด

ความรักออกจะเป็นเรื่องประหลาด เราไม่มีวันได้รักคนที่ดีประเสริฐที่สุดในโลก คนที่เรารักล้วนมีข้อบกพร่อง มีจุดอ่อน มีจุดแข็ง เหมือนกับที่ตัวเราเองก็มี

เรารักความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

เราอาจจะแยกแยะได้ว่าอะไรคือข้อดีหรือข้อเสีย

แต่ถ้าเรารักเสียแล้ว ก็ไม่มีวันจะหยุดได้

ทรายอยากเล่าให้แม่ฟังเรื่องผ้าห่ม

ปกติแม่เป็นคนจัดการชีวิตทรายมาตลอด ทุกเรื่อง ทุกสิ่ง มีเรื่องเดียวที่แม่เปลี่ยนทรายไม่ได้จริงๆ คือเรื่องผ้าห่ม

แม่ชอบผ้านวมชนิดหนานุ่มฟู มีปลอกผ้านวมแยกชิ้นได้ เวลาห่มแล้วเหมือนโดนโอบกอดไว้ด้วยก้อนเมฆ แม่มีผ้านวมดีๆ และปลอกสวยๆ ทอจากฝ้ายชั้นดีสี่ร้อยห้าร้อยเส้นเก็บไว้มากมาย รอให้แม่หยิบออกมาใช้

แต่ทรายกลับไม่ชอบ

ทุกวันนี้ทรายยังนอนเตียงเดิมนะ

เตียงที่คุณแม่สั่งมาแล้วไม่ชอบ เลยโละต่อให้นั่นแหละ

รถก็ขับคันเดิม คันที่แม่ไม่ชอบแล้วให้ทรายใช้

แล้วที่ยังเหมือนเดิมก็คือผ้าห่ม

มันเก่ามากแล้ว เปื่อยยุ่ยชนิดที่ถ้าพลิกตัวแรงไปสักนิด ใยผ้าบางๆ นั้นก็พร้อมจะขาดจากกัน โรยแรง สิ้นความสามารถในการรวมตัวเป็นผืน

ทรายชอบผ้าแบบนี้มาก มันเป็นควิลต์แบบไทยๆ ไม่บาง แต่ก็ไม่หนา บุเป็นช่องๆ ลายพร้อยอย่างที่แม่เกลียดว่ามันเร่อร่า แม่ซื้อมาใช้เพื่อห่มเล่นเวลาดูทีวีข้างล่าง แต่ทรายก็เอามันมาใช้ห่มนอนยามกลางคืน ผืนก่อนหน้านี้ก็ขาดเปื่อยไม่ต่างกันแล้ว

ทรายก็พยายามใช้ทักษะการฝีมือที่แสนจะห่วยของตัวเอง พยายามเย็บมันให้ติดกันเหมือนเดิม พยายามพลิกด้าน ซ่อนความปุปะนั้นไว้ แม่จะได้ไม่เห็น ทรายจะได้เก็บผ้านั้นไว้ใช้นานๆ

แต่แม่ก็เห็นอยู่ดี เพราะยังไงทรายก็ไม่เคยซ่อนอะไรจากแม่ได้สำเร็จสักครั้ง

และทั้งที่บ่น แม่ก็ยอมไปซื้อผืนใหม่มาให้ เหมือนเดิม ลายพร้อย บุเป็นช่องๆ ไม่บางไม่หนา และเลิกล้มความพยายามจะเอาผ้านวมฟูนุ่มของแม่มาให้ทรายใช้อีกต่อไป

ทุกวันนี้ทรายห่มผ้าขาดๆ นอนล่ะแม่

มันขาดเยินกว่าผืนที่แล้วด้วยซ้ำ

เวลาชักมาคลุมโปง บางทีก็มีรูอยู่ตรงลูกกะตาทรายพอดี

ไม่ได้จะช่วยกันร้อน กันหนาว หรือทำอะไรได้สักนิด

ถ้าแม่มาเห็นก็คงทำท่าขนลุกขนพอง แล้วบอกว่าแค่จะเอาไปใช้ต่อเป็นผ้าขี้ริ้วยังไม่คู่ควรกับพื้นบ้านของแม่ด้วยซ้ำ

ทรายมีเงินแล้วนะแม่

จริงๆ ทรายจะซื้อผ้าห่มอีกสิบผืน ร้อยผืนก็ได้

แต่ทรายก็ยังห่มไอ้ผ้าเน่าๆ นี่ล่ะ

แม่ก็รู้ว่าทรายไม่ชอบเปลี่ยนของ กระเป๋าผ้าที่แม่ซื้อให้ก็ยังอยู่อย่างนั้น ทรายไม่ถนอม

แต่ทรายก็ไม่เปลี่ยน

ทรายรอแม่มาซื้อผ้าห่มผืนใหม่ให้นะ

เพราะมันจะอยู่กับทรายไปอีกนาน

ทรายคิดถึงแม่จัง

คิดถึงมากๆ

จดหมายถึง D. “Lettre ? D.” เขียนโดย อ็องเดร กอร์ซ แปลโดย อุไรวรรณ กูร์โตด์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1, พฤษภาคม 2561 โดยสำนักพิมพ์พันหนึ่งราตรี