กาละแมร์ พัชรศรี : ปันเรื่องราวบททดสอบหลังปฏิบัติธรรม

ครั้งที่แล้วเล่าเรื่องไปปฏิบัติธรรมมา พอออกจากปฏิบัติธรรมมีเรื่องให้ได้ทดสอบเราจริงๆ ค่ะ แทบทุกครั้ง ทุกทีสิน่า

กลับมาบ้าน แม่บ้านมือขวาผู้ทำขนมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา กำลังทำขนม Powerballs อย่างขะมักเขม้น วันรุ่งขึ้นจะออกรสชาติใหม่ นั่นก็คือ Peanut Butter

ออกจากปฏิบัติธรรมมาก็รู้ว่าคนสั่งเข้ามาอย่างถล่มทลาย เราก็ตื้นตันใจอย่างยิ่งที่คนให้การตอบรับดีขนาดนี้

ขนมถูกจัดวางไว้บนโต๊ะกินข้าวเหมือนทุกครั้ง เพราะพรุ่งนี้จะต้องเตรียมแพ็กใส่กล่องไปรษณีย์เพื่อส่งให้ลูกค้า

กะด้วยสายตาน่าจะอยู่ที่ประมาณสี่ร้อยกว่ากล่อง

ฉันยิ้มดีใจและไปดูแม่บ้านที่กำลังทำขนมอยู่ เหลือบไปเห็นกระปุกเกลือที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เลยถามว่า “นี่คืออะไร”

นางตอบว่า “เกลือจากหลังบ้านค่ะ เพราะเกลือที่คุณแมร์ใช้มันหมดแล้วค่ะ”

ฉันไปดูชั้นที่วางของก็เห็นอีกกล่องวางอยู่ ฉันเลยบอกว่า “นี่ไงอีกกล่องหนึ่งยังมี”

นางบอกว่า “มันเป็นสีน้ำตาลเลยไม่กล้าใช้ มาใช้สีขาวหลังบ้าน”

ที่มันเป็นสีน้ำตาลเพราะมันเป็น smoked sea salt

ฉันเริ่มตงิดๆ หยิบขนมที่กำลังทำมาชิม ฉันนิ่งไป 3 วิ

แล้วตัดสินใจเปิดกล่องขนมที่แพ็กไว้แล้วชิมดู กล่องที่หนึ่ง กล่องที่สอง กล่องที่สาม ฉันบอกกับแม่บ้านเลยว่า นี่ไม่ใช่รสชาติที่เราคิดไว้ในวันแรกที่เราทำกัน

นางเลยบอกว่า กลัวจะเค็มไปเลยใส่อินทผลัมเพิ่มเข้าไปอีก

ฉันรู้เลยว่า “งานเข้า” ให้แล้ว

เพราะรสชาติที่กินไปทั้ง 3 กล่อง มันไม่ได้เลย ไม่ได้จริงๆ

ฉันยังมึนกับสิ่งที่เจออยู่ตรงหน้า เดินขึ้นห้องนอน อาบน้ำ จะล้มตัวลงนอน มันไม่หลับ และเฝ้าวนคิดว่า เราจะปล่อยไปอย่างนี้เหรอ แล้วเราจะทำอย่างไร ขนมต้องส่งพรุ่งนี้เช้าแล้ว แต่รสชาติมันไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ ไม่อร่อยอย่างที่ตั้งใจไว้ นี่เป็นขนมล็อตแรกที่คนเขาตั้งใจสั่งมา

ฉันยอมไม่ได้ที่จะให้มันผ่านไปอย่างนี้

 

ฉันดีดตัวขึ้นมาจากที่นอน เดินลงไปข้างล่าง บอกแม่บ้านว่า

“เราจะต้องทิ้งขนมทั้งหมด แล้วทำใหม่ ตอนนี้เลย”

แม่บ้านอึ้ง และเครียดขึ้นมาทันที

ฉันลองเอาขนมที่ทำไว้แล้วมาแก้ไข ใส่อันนั้น อันนี้เพิ่ม มันก็ไม่ได้จริงๆ

มันไม่มีเวลาที่จะแก้ไขแล้ว ลงมือทำใหม่เลยดีกว่า

ฉันถามแอดมินว่าเราส่งขนมได้ช้าที่สุดกี่โมง

เขาบอกว่า 4 โมงเย็น

ในหัวฉันตอนนั้น กำลังประเมินว่าเราจะทำอย่างไรดี ประกาศไปว่าขอเลื่อนส่งขนมไปก่อน แต่เราเป็นคนคำไหนคำนั้น เรามีสัจจะ เราเป็นมืออาชีพ เราทำแบบนั้นไม่ได้

เวลานั้น 4 ทุ่ม เราเริ่มทำตอนนี้น่าจะทัน ตอนเช้าส่งให้คนช่วยกันปั้น บ่ายสองเอามาแพ็กน่าจะทัน 4 โมงเย็น

ฉันหาซื้อเกลือที่ต้องใช้ในคืนนั้น ปรากฏว่าเขาจะมาส่งให้ตอนเช้าได้เลย

คืนนั้นฉันนอนไปตอนตีสี่กว่าๆ แม่บ้านน่าจะหลังฉันนิดหน่อย ตอนเช้าเราตื่นมาอีกครั้ง

วันนั้นฉันยกเลิกนัด และสำหรับใครที่นัดสำคัญก็ให้มาเจอกันที่บ้านเลย และคุยกันสั้นมาก รวดเร็ว กระชับ รู้เรื่อง จบ แยกย้าย

แม่ คนรถ แม่บ้าน แอดมิน มาช่วยกันหมด

และสุดท้ายเราเสร็จทัน 4 โมงพอดี

 

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะตลอดสัปดาห์เราต้องส่งอย่างมโหฬารมาก ก่อนหน้านี้ก็มีอันที่ใช้ไม่ได้ปั้นไว้แล้ว ก็ต้องทิ้งอีก และทำใหม่ทั้งหมด มันจึงเป็นการทำขนมแบบวันต่อวันจริงๆ ไม่มีเวลาให้หายใจเลย

แต่สุดท้ายเราฝ่าฟันกันไปได้

ในวันที่ฉันต้องให้เงินเดือนแม่บ้าน นางคุกเข่าร้องไห้ บอกว่าไม่ขอเอาเงินเดือน ให้ตัดเงินเดือนนางไป 5 เดือนเลย นางรู้สึกผิดมาก และรู้ว่าฉันต้องเสียหายไปเท่าไหร่ ฉันบอกว่า เอาไปเถอะ เพราะรู้ว่าต้องส่งไปให้พ่อ-แม่ ต้องใช้ มันจำเป็น

นางก็ยังไม่ยอมรับ นางบอกว่านางรู้สึกผิดมาก นางอยากรับผิดชอบ

ฉันบอกว่า “เอาจริงๆ นะ เราเองก็ไม่คาดคิดว่า แค่ใส่เกลือผิด ใส่คนละยี่ห้อมันจะได้ผลแตกต่างกันขนาดนี้ ตอนลองทำ เราก็ลองใส่เกลือแพงๆ นี้ไปเล่นๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะส่งผลให้รสชาติมันเปลี่ยนขนาดนี้ และที่สำคัญ เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ขนมมันออกมาไม่อร่อย ที่ผ่านมาเราเห็นความตั้งใจดีในการทำงานและขยันมาโดยตลอด เรื่องมันผ่านไปแล้ว และพวกเราก็แก้ไขมันได้ด้วยดี อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดี และให้มันเป็นบทเรียน พอแล้ว”

กว่านางจะยอมเอาเงินไป ก็ยื้อยุดกันอยู่นานสองนาน

 

เอาจริง ฉันก็แอบประหลาดใจในตัวเองเหมือนกัน ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในใจฉันสงบมาก ฉันไม่วี้ดบ้านแตก มีจะพยายามลองจะขึ้น แต่มันไม่ขึ้น เพราะมันมีสติรู้ตัวตลอดในตอนนั้น ไม่ได้ซึม เซ็ง เศร้า โกรธ เสียใจอะไร

มันนิ่งและสงบ และรู้ว่าเราจะผ่านมันไปได้

ในวันที่ขนมถึงมือมือลูกค้า แล้วพอเขาชิม และส่งคอมเมนต์มาถึงเรา

มันยิ้มอยู่ในใจ มันหมดคำถาม หมดข้อสงสัย

และบอกกับตัวเองว่า เราคิดถูกแล้วที่เราตัดสินใจทำอย่างนั้นลงไป

ขอบคุณบททดสอบนี้ที่เข้ามาในชีวิตค่ะ…