ยิ่งการต่อต้านต่อความพยายามของ 36 สนช.ในการแก้ไขพรป.ว่า ด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อประเด็น”ผู้ตรวจการเลือกตั้ง”ดัง กึกก้องมากเพียงใด

ยิ่งส่งผลสะเทือนต่อยุทธศาสตร์ ยื้อ หน่วง ถ่วงโรดแมป”การ เลือกตั้ง”มากเพียงนั้น

นี่คือผลกระทบต่อยุทธศาสตร์เมื่อยุทธวิธีผิดพลาด

ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจ “คว่ำ” ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นาย

บวรศักดิ์ อุวรรโณ ในที่ประชุมสปช.เมื่อเดือนกันยายน 2558 ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม

เพราะทำให้ยุทธศาสตร์”เขาอยากอยู่ยาว”ทอดเวลาจนมาถึงเดือนสิงหาคม 2561 ได้

แต่กับกลยุทธ์”ผู้ตรวจการเลือกตั้ง”กลับสะดุด หยุดชะงัก

 

ถามว่า “ยุทธวิธี” ที่ผิดพลาดอาจส่งผลกระทบต่อ”ยุทธศาสตร์”หรือไม่และมากน้อยเพียงใด

คำตอบของเรื่องนี้ต้องอาศัย”เวลา”

ต่อกรณีอาศัยเทคนิคทางกฎหมายในประเด็นว่าด้วย”ผู้ตรวจ การเลือกตั้ง” อาจมีการเน้นและพุ่งปลายหอกไปยังคณะกรรมการ เลือกตั้งชุดเก่าอย่างเป็นด้านหลัก

แต่ก็ต้องยอมรับว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดเก่าก็เป็นผลผลิตของ”รัฐประหาร”

หายใจร่วมรูจมูกเดียวกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557

ผลงานและความสำเร็จมีไม่มากนักและเกือบจะถูกเซ็ต ซีโร่ ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่บังเอิญที่มี”บางคน”ปล่อยระเบิดพลีชีพออกมาก่อน

จุดอ่อนเป็นอย่างมากจากกรณี 36 สนช.เคลื่อนไหวก็คือ เป็นการเผยกระบวนการยื้อ ถ่วง หน่วงโรดแมป”เลือกตั้ง”ออกมา อย่างล่อนจ้อน

 

การถอยของคสช. การถอยของสนช.ส่วนใหญ่ อาจทำให้สภาพ การณ์ทางการเมืองผ่อนเบา คลี่คลายลงไปได้

แต่เมื่อ”เปลือยกาย”ออกมาแล้วก็ย่อมไม่เหลืออะไร

ทุกอย่างดำเนินไปในแบบ ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน มองผ่านลิ้นไก่ทะลุไปยังคอหอย ตับไต ไส้พุงของคสช.และรัฐบาลวางแบอยู่ในสายตาหมดสิ้น

การยื้อ ถ่วง หน่วงจะยากลำบากมากเป็นทวีคูณ