เมื่อกล่าวถึง “พลังดูด” ผู้คนมักจะนึกถึงรายรับอันได้มา นั่นก็คือได้อดีตส.ส.มาเป็นพวก เสริมกำลังฝ่ายของตน

และมองข้ามรายจ่ายที่”เสีย”ไปในกระบวนการ”ดูด”

ขอให้ดูจากรายของ นายสกลธี ภัททิยะกุล เป็นตัวอย่างก็จะตระหนักในลักษณะอีกด้านของ”พลังดูด”

ลงทุนใช้”ทำเนียบรัฐบาล”เป็น”กองบัญชาการ”

บุคคลระดับ “รองนายกรัฐมนตรี”ลงมือดูดด้วยตัวเองพร้อมกับมอบตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.ให้

แต่พลันที่ นายสกลธี ภัททิยะกุล แจ้งต่อ”ประชาธิปัตย์”

ไม่ว่าหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเลขาธิการพรรค ล้วนรับรู้”ข้อมูล”ระดับ”ปฐมภูมิ”เลยว่าใครคือตัวการ

กระทั่ง ณ วันนี้ความฉาวโฉ่ก็ยังไม่จางจากหายไป

 

ก็ดังที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาแจกแจงรายละเอียดของการดูด เมื่อประสานเข้ากับที่พรรคเพื่อไทยสรุป

ก็จะมองเห็น”เนื้อใน”ของ”พลังดูด”

1 ใช้เงื่อนไขทางการเมือง เงื่อนไขของคดีความมาบีบ 1 เสนออามิสเป็นบรรณาการ

แน่นอนที่เห็นคือ “ตำแหน่ง” และ”เงิน”

เหมือนกับเงินซึ่งเป็นการลงทุนจะมองไปยังบรรดาหัวแถวที่ตระเวณเดินสายไปตามแต่ละจังหวัด ภาคอีสาน ภาคเหนือและกำลังเตรียมลงใต้

ไม่ใช่หรอก นั่นเป็นเพียง”การทดรอง”จ่าย

การถอนทุนจะตามมาในภายหลัง เป็นการถอนทุนทั้งในด้านของการได้”อภิสิทธิ์” สามารถเดินสายไปในพื้นที่ใดก็ได้โดยไม่ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช. ไม่ขัดกับประกาศคสช.

และที่สุดแล้วก็ถอนทุนมาจากต้นตอที่บรรดานักเดินสายใช้”พลังดูด”ให้สามารถต่อท่อแห่ง”อำนาจ”ต่อไป

เป็นใครที่ต้อง”จ่าย”ก็รู้กันอยู่

 

ไม่ว่าการใช้“ทำเนียบรัฐบาล”เป็นกองบัญชาการ ไม่ว่าการ”เดินสาย” และเปิดรีสอร์ทตลอดจนคลับเฮาส์ สนามกอล์ฟในการแสดงพลานุภาพแห่ง”พลังดูด”

มี “เจ้ามือ” ปรากฏตลอด 2 รายงาน

ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายในด้าน”อภิสิทธิ์”ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายในด้าน”เงินทุน”