กาละแมร์ พัชรศรี : ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40! (ตอน1)

ก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าใครพูดไว้ แต่ได้ยินมาตั้งนานละ เมื่อก่อนก็ไม่ได้อินอะไร แต่พอเริ่มใกล้ ก็แอบคิดในใจว่า “ชีวิตตรูจะมาเริ่มต้นที่ 40 ได้ไง ในเมื่อตรูผ่านเรื่องอะไรมาตั้งมากมาย”

แล้วอยู่ดีๆ ชีวิตมันก็เริ่มต้นใหม่ของมันจริงๆ!

ในวันที่ชีวิตที่พร้อมทุกอย่าง ขาดแต่เรื่องความรักที่ยังไม่เคยจะลงตัวสักที เราก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องบุญกรรม บุพเพสันนิสวาส ตบมือข้างเดียวไม่ดัง วันหนึ่งมันคงจะเจอเองนั่นแหละ

แต่คุณรู้ไหมว่าในใจฉันไม่เคยเชื่อว่าความรักแท้มีจริง ผู้ชายดีๆ มีอยู่จริง คนดีที่เหมาะสมกับเรามันจะมีเหรอ ผู้ชายที่จะรักเราคนเดียว เข้ากันได้ เสมอกันทั้งทางโลกทางธรรมจะมีอยู่เหรอ

เพราะตลอดเวลาของการมีความรักมา 20 ปี ชีวิตรักของฉันเหมือนหนังเรื่องเดิมที่เปลี่ยนตัวแสดง เหตุการณ์เดิมๆ ซ้ำๆ มักเกิดขึ้นเสมอ จนเพื่อนรอบข้างคุ้นชินไม่แปลกใจ

และในวันหนึ่งฉันได้เจอคลิปใน youtube ของ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง พูดเรื่องว่า “เหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำๆ กับชีวิตเรา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันมีเหตุ”

จริงๆ แล้วฉันกับครูอ้อย เรารู้จักกันมานานแล้ว เคยไปหาครูที่บ้านแถวบางปะกงพร้อมอาตุ่ยและทราย (ซึ่งตอนนั้นทำงานอยู่รายการเจาะใจแล้วฉันกับอาตุ่ยไปออก) เรารักกันเหมือนพี่น้อง แล้วฉันก็ไม่ค่อยได้เจอ

ครูอ้อยอีก ได้แต่อ่านหนังสือเข็มทิศชีวิต และรู้ว่าครูอ้อยสอนเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก แต่ก็ยังไม่ได้สนใจอะไร

จนเมื่อทุกอย่างถึงเวลาของมัน ฉันกับครูอ้อยจึงมาบรรจบเจอกันอีกครั้งหนึ่ง ฉันอยากรู้ว่าเรื่องราวในวัยเด็กของฉันมันส่งผลต่อชีวิตรักของฉันอย่างไร แล้วฉันต้องแก้มันอย่างไร ตอนแรกฉันอยากรู้แค่นี้ และฉันก็อยากรู้ว่าวิธีของครูอ้อยคืออะไร ทำไมดูในคลิปแล้วทุกคนต้องร้องไห้ เขารู้สึกตัวหรือไม่ ฉันจึงอยากสัมผัสด้วยตัวเอง

แต่เมื่อได้เข้าไปในห้องเรียนเข็มทิศแล้ว ฉันได้รับคำตอบมากกว่านั้น

ครูอ้อยให้เราลงนอนบนพื้น ซึ่งคนในห้องประมาณ 200 คนก็จะทำพร้อมกัน ครูจะเป็นคนนำทางเราให้ไปสู้จิตใต้สำนึกของเราเอง ต่างคนต่างไปในที่ของตัวเอง เหมือนกับการจูงมือครูอ้อยที่มีไฟฉายส่องทางไป

เมื่อครูพาเราย้อนไปในวัยเด็ก ไปบ้านหลังเดิมที่เราอยู่ มันเหมือนในตัวเรากลับไปเป็นเด็กคนนั้นอีกครั้ง พาเราไปเจอเหตุการณ์ที่เราไม่ชอบใจในวันนั้น สำหรับฉันแล้วการที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน พูดกันเสียงดัง ทำให้เด็กอย่างฉันตกใจ ไม่ชอบ โกรธพ่อกับแม่ และไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่อยู่ในห้องตัวเอง แต่พูดอะไรออกไปไม่ได้ ทำให้ฉันไม่เชื่อการแต่งงานหรือมีชีวิตคู่มันเป็นเรื่องดีมีความสุข พ่อกับแม่เรายังเถียงกันแทบทุกวัน

ครูให้เราได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจตอนนั้นแต่เพราะยังเด็กเลยพูดไม่ได้ แต่ตอนนี้เราโตแล้วให้พูดมันออกไป มันเหมือนการได้ปลดปล่อยในสิ่งที่ค้างคาใจเรามาตลอดชีวิตออกมา แล้วครูก็ให้เราไปเป็นพ่อและแม่ในเหตุการณ์นั้นดู

เราได้ไปรู้ว่าพ่อของเราตอนเด็กเขาก็ไม่เคยได้รับความรักที่สมบูรณ์ เขาก็เพิ่งเป็นพ่อครั้งแรก เขาก็อยากได้ความรักจากครอบครัวเขาแบบไม่มีเงื่อนไขบ้าง บางครั้งที่เขาอาจทำอะไรไม่สำเร็จก็อยากให้รักเขาเหมือนเดิมแต่เขาแสดงออก ไม่ถูก และเราได้ไปเห็นว่าจริงๆ แล้วพ่อรักเรามากแค่ไหน พ่อทำอะไรดีๆ ให้เรามากมาย ทำกับข้าวให้กิน พาไปโรงเรียน ทำแตงโมทำเงาะแช่เย็นแบบไม่มีเมล็ดให้กิน พ่อรักเรามาเสมอ

และเมื่อครูให้เราได้กลับไปเป็นแม่ เราได้เห็นว่าวัยเด็กของแม่ก็น่าสงสาร แม่ต้องต่อสู้แค่ไหน แม่ต้องเสียสละชีวิตตัวเองแค่ไหน วันที่แม่ยอม นั่นเพราะแม่กล้าหาญที่จะยอมเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อเรา แม่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเรามากมาย ในชีวิตแม่มีแต่เราเท่านั้น เรารับรู้อย่างเต็มที่ว่าความรักที่แม่มีต่อเรานั้นมันท่วมท้นหัวใจจริงๆ

เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว เราจึงเปลี่ยนการตีความในวัยเด็กที่เราคิดไปเองว่าพ่อแม่ไม่รัก เราใส่ความทรงจำใหม่ลงไปในระดับจิตใต้สำนึก เหมือนการลบซีดีเก่าไปแล้วใส่ข้อมูลใหม่ลงไป เราตีความผิดๆ แบบเด็กๆ ที่คิดไม่เป็นแล้วเก็บมันมาเป็นสิบๆ ปี ทำให้เราคิดและแสดงออกต่อเขาไม่ดี ซึ่งเราก็ไม่ชอบตัวเองเลย เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเราต้องทำอย่างไร

พอคราวนี้เรารับรู้แล้วว่าเราเป็นที่รักแค่ไหน พ่อแม่รักเราแค่ไหน รักแท้มันมีอยู่จริงๆ เราได้รับความรักที่ดีมาตลอดชีวิตนี่ เราจึงไม่ได้ต้องไปตามหาความรักจากใครให้มาเติมเต็มเพราะเราไม่ได้ขาดหายอะไร

IMG_5635

เมื่อออกจากคลาสเรียน ฉันทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ฉันอยากทำมากก็คือกราบเท้าพ่อ ขอโทษพ่อ กอดพ่อ ขอให้พ่อยกโทษให้ พ่อบอกว่าพ่อจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย ฉันชะงักไปแล้วคิดในใจว่า “นี่พ่อจำอะไรไม่ได้ แต่ตรูนี่จำมาตลอดชีวิต เพื่อ…??!!” เหมือนภูเขามันถูกทำลายลง มันโล่งใจมาก ฟ้ามันสดใส มันไม่มีแบบอะไรแล้ว และฉันก็คุยกับแม่ บอกแม่ทั้งน้ำตาว่า “รู้แล้วว่าแม่รักเราแค่ไหน เราก็รักแม่มาก” แล้วแม่ก็หัวเราะ ฉันว่ากลบเกลื่อนความเขินนะ ฉันเล่าเรื่องเจอในคลาสเรียนและสิ่งที่รู้สึก แม่พูดกลับมาว่า “เอ่อ แต่แม่จำไม่ได้นะว่าแม่กับพ่อทะเลาะให้ลูกได้ยินกันตอนไหน” หะ!!! สตั้นไป 3 วิอีกแล้ว แม่จำไม่ได้ แล้วที่ตรูจำได้คืออะไร!!???

หลังจากนั้น การกระทำ คำพูด สิ่งที่รู้สึกที่มีต่อพ่อแม่ของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันพูดจาดีๆ กับพ่อแม่ กอดเขาอย่างสนิทใจ อยากเจอเขา อยากไปไหนมาไหนกับเขา ยิ้มแย้มใส่เขา อยากทำอะไรดีๆ ให้เขา และรู้สึกรักเขาแบบหมดใจ

ที่เขียนอยู่นี่น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุด ดูเอาเถิดจะไปแก้เรื่องความรัก แต่ฉันกลับได้ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกลับมา

คราวนี้เมื่อฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นที่รัก ฉันมีความรักที่ดีๆ มีความรักแท้จริงๆ ฉันจึงเชื่อแล้วว่า ความรักที่ดีๆ คนดีๆ นั้นมีอยู่จริง และฉันเหมาะสมและคู่ควรกับคนดีๆ ที่รักฉันเท่านั้น ใครที่ไม่ดีไม่คู่ควรเราจะไม่รับเข้ามาในชีวิต เพราะฉันอยากมีชีวิตดีๆ มีความรักดีๆ ให้พ่อกับแม่ได้ดีใจไปด้วย

ความหัศจรรย์ในชีวิตที่เราตอน 40 ยังไม่จบเพียงแค่นี้ จะขอเล่าต่อตอนหน้าค่ะ!