มาเรียนภาษาอังกฤษจากหนังกันเถอะ! : My Happy Family

ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ

 

My Happy Family

 

เธอจ๊ะ
My Happy Family เป็นหนังชีวิตจากประเทศจอร์เจีย ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศตุรกี ตัวแสดงพูดภาษาจอร์เจี้ยนทั้งหมด ได้รับการกล่าวขวัญและชื่นชมสุดๆ ทั้งจากเทศกาลหนังซันแดนซ์และเทศกาลหนังเบอร์ลิน
ดูจากโปสเตอร์หนังที่เป็นผู้หญิง แต่เราจะมองเห็นเธอจากด้านหลังของเธอ เห็นหน้าเสี้ยวเดียวจากเพียงด้านข้าง แต่ก็รู้เลยว่าไม่ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสอะไร
จึงพอเดาได้ว่า ไอ้ที่ชื่อหนังมีคำ happy แต่ที่จริงมันไม่ใช่
ฝาหรั่งเรียกกลวิธีนี้ว่า irony หมายถึง คำที่พูดมีความหมายนัยยะไปในทางตรงกันข้าม
My Happy Family หนังดีเยี่ยมของฉันเรื่องหนึ่งที่ได้ดูมาเลยในชีวิตนี้

เรื่องก็เริ่มที่ Manana ผู้หญิงวัย 52 ปี มีสามี มีลูกชายและลูกสาวโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว อาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับพ่อและแม่ของมานาน่าเอง แต่วันหนึ่ง มานาน่าก็ตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านไปอยู่คนเดียว!
หนังก็เริ่มต้นที่มานาน่าไปหาเช่าอพาร์ตเมนต์ คนพาดูห้องก็พูดเป็นต่อยหอย แนะนำ ชี้ชวนชมว่าห้องดีอย่างนั้นอย่างนี้ ถึงจะอยู่ชั้น 4 ไม่มีลิฟต์ แต่มีระเบียงที่มองออกไปจะเห็นยอดไม้ มันช่างคุ้มค่า คนที่อยู่เดิมก็มีความสุขดีก่อนที่จะย้ายไปอยู่เป็นบ้านๆ
It’s that kind of apartment.
It brings luck.
มันเป็นอพาร์ตเมนต์แบบนั้นแหละ
มันนำโชคดีมาให้
ขายเก่งนะ สรุปการขายได้ซึ้งใจ

มานาน่าก็เหมือนจะตัดสินใจแล้วว่าจะมาเช่าที่นี่ แต่เหมือนรอวันจะย้ายออกจากบ้านหลังเดิม
ชีวิตที่บ้านหลังเดิมมีกิจวัตรประจำวัน ทุกวันเหมือนเดิม เช้าไปทำงาน เย็นมาก็กลับบ้าน เช้าต่อไปก็ออกไปทำงาน, มานาน่าเป็นครูสอนนักเรียนชั้นมัธยม
ทำงานมาก็เหนื่อย กลับบ้านมาจะกินเค้กสักชิ้น แม่ก็พูดๆๆ
I cook dinner and
you’re eating cake?
ฉันทำอาหารเย็น
แต่เธอมากินเค้กเสียได้?
มานาน่าไม่พูดอะไร กินเค้กไป
เปิดตู้เย็นมา เจอน้ำหกเลอะเทอะ แม่ก็หันมาหามานาน่า
Manana, do you see this mess?
มานาน่าเห็นตู้เย็นสกปรกรกๆ นี่ไหม?
แม่หาเรื่องพูดต่อไป สั่งว่าเลิกงานแล้วให้ไปตลาดด้วย
Buy me some dill and new potatoes,
also some cheese for Khachapuri.
ซื้อผักชีลาว มันฝรั่ง
และชีสมาใส่ขนมปังกาจาปุริ
มานาน่ารู้เลยว่าจะจัดงานวันเกิดให้ตนเอง ทั้งๆ ที่ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่ให้จัดงานวันเกิด ไม่เชิญใครที่ไหนมาทั้งนั้น แต่พอเย็นกลับบ้านมา เขาก็จัดงานให้อยู่ดี
เป็นเหตุให้สามีมีเรื่องมาต่อว่า ก็มานาน่าไม่สนใจนี่นะ
They came to show their respect
for you, sang songs.
You let them leave without saying goodbye.
เขาอุตส่าห์แสดงความนับถือ ร้องเพลงให้
แต่เธอให้เขากลับไปโดยไม่กล่าวอำลา
ก็ไม่ได้อยากให้จัดงานแต่แรกแล้วเหอะ

ที่ทำงานก็ใช่ว่าจะราบรื่น มานาน่ามีลูกศิษย์ให้ต้องเป็นห่วง ขาดเรียนไปหลายวันแล้ว
แล้วก็พบว่า นักเรียนหญิงเพิ่งจะหย่ากับสามี นักเรียนนี่ก็อายุไม่ถึง 20 ปีเลย สามีก็อายุ 21 ปีแค่นั้น หย่ากันเสียแล้ว เพราะความต้องการไม่เหมือนกัน มาพบความจริงข้อนี้ก็แต่งงานกันไปแล้ว จึงต้องหย่ากันด้วยประการฉะนี้
แต่นักเรียนก็แบ่งปันความจริงในชีวิตให้คุณครูได้ตระหนัก
If you say no, you should mean it.
You shouldn’t look like you’re hesitating.
Otherwise, it makes no sense.
ถ้าพูดว่าไม่ ก็ควรต้องหมายความตามนั้น
ไม่ควรต้องลังเลแล้ว
ไม่งั้นไม่รู้จะเอาเหตุผลใดมาเข้าใจนะ
นั่นสิ จะเลิกกันก็เลิกไปเลย เลิกกันแล้วมาดีกันใหม่ ทำเช่นนั้นซ้ำๆ วนๆ ไป จะมีความหมายใดให้ชีวิตเราเข้าใจได้

พอถึงวันสะดวก มานาน่าก็เก็บข้าวเก็บของ ทำเอาครอบครัวตกใจ
Mom, has someone hurt you?
มีใครทำร้ายแม่หรือเปล่า?
ลูกๆ รบเร้าถาม
จะมีข้อหาใหญ่หน่อยที่ได้จากผู้คนรอบกาย ก็เรื่องประเพณีนิยม
You disgrace your husband,
your parents and children.
เธอทำให้สามี พ่อ-แม่ และลูกๆ
เสื่อมเสียเกียรติ
ก็ตามประเพณีนิยมนะ แต่งงานแล้วจะย้ายออกไปอยู่คนเดียว ไม่ได้หย่าด้วย คนเขาไม่ทำกัน
I don’t need anyone to protect
or control me. I’m a grown woman.
ฉันไม่ต้องให้ใครมาคุ้มครองหรือควบคุม
ฉันโตแล้ว
แต่ไม่มีใครเข้าใจ มีแต่ “ดูเหมือนจะเข้าใจ” แม้แต่พี่ชายมานาน่าเอง เมื่อมาพยายามยามเกลี้ยกล่อมให้มานาน่าย้ายกลับ แต่ล้มเหลว เลยถึงกับไปรวบรวมเหล่าบรรดาญาติโกโหติกามารวมตัวกันชี้แจง
In this world, there are no families
without any problems.
โลกนี้ ไม่มีครอบครัวไหนไม่มีปัญหาหรอก
ขึ้นต้นมาดี แต่ลงท้าย ย้ายกลับสิ น่าไม่อาย ย้ายออกจากบ้านไปทำไม?
ทำไมไม่เห็นแก่ลูก? ก็ลูกโตแล้ว
ทำไมไม่เห็นแก่สามี? ทิ้งสามีไว้บ้านพ่อตาแม่ยายได้ไง? สามีก็โตแล้วจะย้ายออกไปอยู่เองก็ได้นี่นา
There are elderly people here.
I beg you to listen to them.
They might say something wise.
มีคนเฒ่าคนแก่อยู่ ฟังเขาบ้างสิ
เขาอาจจะพูดอะไรฉลาดๆ บ้างก็ได้
มานาน่าถูกตำหนิในทุกมุมมองของครอบครัว และเป็นครอบครัวขนาดใหญ่เสียด้วยสิ แล้วมีใครพูดอะไรฉลาดๆ ไหม? ไม่!
กลับบ้านมาทีไรเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ แต่มานาน่ารับได้และรับสถานการณ์ได้ดี เพราะท้ายสุดในแต่ละวัน เราจะได้เป็นตัวเอง สุขสงบใจ ในรังน้อยๆ ที่เราสร้างขึ้นมาแต่พอตัว
ให้เราได้พักใจ

หนังเรื่องนี้เขาใช้ long takes มันช่างเหมาะเจาะ สร้างเรื่องให้เกิดอารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มันไม่เหมือนดูหนังเลย เหมือนได้รู้จักชีวิตคน ได้รู้ความจริงจากชีวิต
ชอบฉากมานาน่านั่งเก้าอี้โซฟาหันหน้าออกไปทางระเบียง บนโต๊ะเล็กๆ ข้างๆ มีหนังสือที่อ่านค้าง มีถ้วยชาร้อน มองออกไปเห็นยอดไม้ใบหนา ได้ยินเสียงลมเสียดสีใบไม้และเสียงเพลงบรรเลงจากวิทยุตั้งโต๊ะในครัว
อ่านหนังสือ จิบชา สบายใจ ความสุขหาได้ง่ายดาย และอยู่ในรอบกายเรา
จะเอาอะไรจากชีวิตนี้อีกไหม ไม่มี ไม่ต้อง แค่นี้ดีถมแล้วเลย
ฉันเอง