มหากาพย์ “เอ็มเอช 370” หายไปเป็นปริศนา สู่ผลสรุปที่ไม่มีบทสรุป

หลังการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 ที่หายไปพร้อมกับลูกเรือและผู้โดยสารรวม 239 คน

ล่วงเลยมา 4 ปีกว่า ที่สุดแล้วก็ได้ผลการสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยทีมสอบสวนความปลอดภัย เอ็มเอช 370 ที่มีเจ้าหน้าที่ 19 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากต่างชาติ และมีการเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยให้ญาติของเหยื่อบนเครื่องบินเอ็มเอช 370 เข้ารับฟังการสรุปรายงานการสอบสวนดังกล่าว พร้อมรับรายงานฉบับเต็มไป ที่กระทรวงคมนาคม เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย

หากแต่ความหวังที่จะได้รับรู้รายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจากการสอบสวนกลับล่มสลายลง หลังจากพบว่ารายงานดังกล่าวซึ่งมีความหนาถึง 1,500 หน้า ไม่ได้ให้คำตอบใดๆ เพิ่มเติมไปจากที่เคยมีอยู่เลยเกี่ยวกับการหายไปของเอ็มเอช 370

และสรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอ็มเอช370

 

นายกก ซู ชอน หัวหน้าทีมสอบสวนความปลอดภัย เอ็มเอช 370 บอกว่า เอ็มเอช 370 ได้บินออกนอกเส้นทาง และน่าจะเป็นอะไรที่มากกว่าผลของการทำงานที่ผิดปกติของระบบ ก่อนที่เครื่องบินจะกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมแบบธรรมดาที่ไม่ใช่อัตโนมัติ

และว่า คำตอบอย่างเดียวที่สรุปได้คือ มีการพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน 3 ชิ้น โดยทั้งหมดถูกพบบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย

รายงานของเจ้าหน้าที่สอบสวนยังระบุด้วยว่า สาเหตุของการหายไปของเอ็มเอช 370 ยังไม่มีการตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีสมคบคิด ข่าวลือ และเรื่องที่พูดๆ กันบนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งหมดนี้ถูกนำมาพิจารณาหาสาเหตุของการหายไปด้วย

นอกจากนี้ ในรายงานยังมีการระบุถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลายจุดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งรวมไปถึงศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่ไม่ได้มีการแจ้งเตือนฉุกเฉินตั้งแต่แรกเริ่ม การค้นหาและการช่วยเหลือที่ล่าช้า

ส่วนตัวของนักบินและผู้ช่วยนักบินพบว่ามีการพักผ่อนมาอย่างดี และไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน หรือแม้แต่แรงกดดันทางสภาพจิตใจแต่อย่างใด

โดยรวมๆ ในรายงานก็คือสิ่งที่มีการนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ และไม่ได้มีการสรุปใดๆ ออกมา นอกจากสรุปว่า ยังสรุปไม่ได้ว่าเหตุใดเครื่องบินจึงหายไป

 

ด้วยเหตุนี้ จึงได้สร้างความโกรธแค้นให้แก่ญาติพี่น้องของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินอย่างมาก บางคนถึงกับเดินออกจากห้องระหว่างการรับฟังสรุปรายงานดังกล่าว และได้แต่เสียใจกับรายงานที่ดูจะไม่ได้มีอะไร หรือให้ความหวังได้ว่าญาติบนเครื่องบินเอ็มเอช370 ที่หายไปนั้น หายไปไหน

นับตั้งแต่การหายไป ได้มีปฏิบัติการค้นหาในมหาสมุทรอินเดียที่กินพื้นที่ถึง 120,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีประเทศออสเตรเลียเป็นผู้นำในการค้นหา กลายเป็นปฏิบัติการค้นหาครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก ก่อนที่การค้นหาจะยุติลงในเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ด้วยการที่แทบจะไม่พบร่องรอยอะไรเลย ยกเว้นซากชิ้นส่วนเครื่องบินที่ไปพบอยู่ตามชายหาดต่างๆ แต่สูญเงินไปมากถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ทางการมาเลเซียก็ได้ว่าจ้างบริษัท โอเชี่ยน อินฟินิตี้ จากสหรัฐอเมริกา ให้ค้นหาเอ็มเอช 370 ต่อ แต่ก็ได้ยกเลิกในวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังการค้นหา 3 เดือนบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียไม่ประสบผลใดๆ เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียภายใต้การนำของนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด ต้องการจะตัดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง

โดยเฉพาะโครงการใหญ่ที่ต้องเสียเงินมาก จึงไม่ต่อสัญญากับโอเชี่ยน อินฟินิตี้

 

กระนั้นก็ตาม ปฏิบัติการค้นหาเอ็มเอช 370 ก็ดูเหมือนจะยังไม่สิ้นสุดลง

เพราะบริษัท โอเชี่ยน อินฟินิตี้ จากสหรัฐอเมริกาเตรียมที่จะเริ่มการค้นหาเอ็มเอช 370 ใหม่อีกครั้งในปีนี้

ด้วยนโยบาย “ถ้าไม่พบ ไม่คิดเงิน”

โดยจะใช้โดรนที่แสนจะไฮเทคในการตรวจสอบท้องทะเล ด้วยหวังว่าจะค้นพบซากเครื่องบินที่นอนอยู่ใต้ก้นทะเลอันแสนกว้างใหญ่

และหากหาไม่เจอ ปริศนาการหายไปของเอ็มเอช 370 ก็คงไร้คำตอบต่อไป