เหตุใดสังคมจึงให้ความสนใจต่อกรณีการพ้นโทษของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นอย่างสูง

ไม่ว่า “หนังสือพิมพ์” ไม่ว่า “โทรทัศน์”

อาจเป็นเพราะสถานะในทางการเมืองของ นายจตุพร พรหม พันธุ์ คือ ประธานนปช.

ขณะเดียวกัน นปช.ก็กำลังอยู่ในความสนใจ

เพราะว่านอกเหนือจาก “พรรคเพื่อไทย” ที่ตกอยู่ในเป้าหมาย ของ “พลังดูด” ปรากฏว่า “นปช.” ก็เป็นอีกแขนงหนึ่งที่ “พลังดูด”กำลังออกอาละวาด

แต่ที่แน่นอนอย่างยิ่งก็คือ ตัวตนของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์

มีสถานะเป็น “ผู้นำ”ในทางความคิด ในทางการเมือง

 

ถามว่าอยู่ๆ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะทะยานมาอยู่ในจุดอันเป็นที่สนใจในระดับนี้ได้หรือไม่

ไม่ได้อยู่แล้ว

ตรงกันข้าม เขาผ่านการต่อสู้ในทางการเมืองตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง แสดงบทบาทโดดเด่นในการต่อสู้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

จากนั้น เขาก็ยืนอยู่ในปีกทางด้าน”ประชาธิปไตย”ด้วยความกล้าหาญ

ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อปี 2549 ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อปี 2557

ยิ่งในสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ยิ่งพิสูจน์ตัวตนและความเป็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ อย่างเด่นชัด แน่วแน่และมั่นคง

ไม่ว่าการต้องติดคุกติดตะราง ไม่ว่าเบื้องหน้าห่ากระสุนและความตาย

ที่สำคัญก็คือ ยังมั่นคง แน่วแน่ ไม่แปรเปลี่ยน

 

การแปรเปลี่ยนอย่างชนิดพลิกผันของหลายคนในพรรคเพื่อไทยและจำนวนหนึ่งในนปช.กลับกลายเป็นฐานทำให้ภาพของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มีความโดดเด่น

สังคมให้ความเคารพให้ความเชื่อมั่นกับคนที่ยืนหยัดในหลักการ เรื่องของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จึงอยู่ในความสนใจ

สื่อจึงต้องนำเสนอ การเคลื่อนไหวทุกการเคลื่อนไหวเพื่อสนองความต้องการของสังคม