ทำไม ‘มติชนสุดสัปดาห์’ ฉบับ1981 ประจำวันที่ 3-9 ส.ค.61 ถึงพาดปกว่า “JACK นคร มาฉิม”

ประมวล คุณสมบัติ ทุกอย่างแล้ว
แม้ นคร มาฉิม จะเป็น “แจ๊ค”

แต่ ก็คงเป็น “แจ๊ค” ที่ไม่มีฤทธิ์เดช มากถึงขนาด “ฆ่า”ยักษ์ ได้
กระนั้น การเป็นส.ส.ติดต่อกัน 4 สมัย ก็คงไม่ถึงขนาด “ไร้รูปไร้ตน”จนเกินไปนัก
ยัง พอมีแรง เขย่าให้ต้้นถั่วไหวเอนได้
ไหวเอน ด้วยจดหมายเปิดผนึกที่ทำให้หลายคน เข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา ดียิ่งขึ้น
เข้าใจว่าทุกอย่างล้วนอยู่บนมูลฐาน “การสมคบคิดกัน” เพื่อโค่นล้มนายทักษิณ ชินวัตรกับพวก
อันนำไปสู่การรัฐประหาร ทั้ง เดือนกันยายน 2549 ทั้งเดือนพฤษภาคม 2557
จนนำมาสู่ความเข้าใจ อีกขั้นตอนหนึ่ง คือเสียของ
อันมีความหมายว่าไม่สามารถบดขยี้พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยได้อย่างแหลกละเอียด
เลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชนชนะ
เลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะ
จึงต้อง “รัฐประหาร” อีก
และจึงต้องใช้ “พลังดูด”อยู่ตอนนี้ เพื่อไม่ให้เสียของ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

น่าแปลกใจ ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ ก็เผชิญ “แรงดูด”อยู่บ้าง
แต่ก็อาจไม่ สั่นไหวเท่ากับ เผชิญเนื้อหา ในจดหมายเปิดผนึก ที่ระบุถึง “พวกเรา”
พวกเรา ที่มีส่วนผสานกับ เครือข่าย นายทุน กลุ่มขุนศึก และเครือข่ายข้าราชการ ระดมสรรพกำลังทุกองคาพยพเพื่อหยุดยั้งนายทักษิณ ชินวัตรและพรรคให้ได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประเมินการสั่นไหวนั้น ว่า
แม้ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ พวกตนและ นปช. แล้วอีกหลายคนก็พยายามอธิบายในมิติเหล่านี้
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการพูดโดยคนที่เคยเป็น”พวกเรา”
มันเพิ่มน้ำหนักต่อข้อเท็จจริงนี้ได้มากขึ้น

นี่เองจึงนำไปสู่ มติของฝ่ายกฎหมาย ประชาธิปัตย์ ให้ฟ้องร้องเอาผิดนายนคร มาฉิม
ด้วยความมุ่งมั่นถึงขนาด จะต้องติด “คุก”
ฐานมาใส่ร้ายทำลายพรรค
ผลอาจจะเป็นเช่นนั้น หรืออาจจะไม่เป็นเช่นนั้น
แต่ที่แน่นอนที่สุด ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งก็จะไปปรากฏอยู่บนศาล
และทำให้ ประชาชน ได้เข้าใจ “พวกเรา”และอาจจะลามไปถึง กองทัพ และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องมากขึ้นด้วย
นี่ย่อมเป็นผลมาจากการเขย่าต้นถั่ว
ของ แจ๊ค-นคร มาฉิม โดยแท้
———————