ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
สายน้ำ การเมือง
รัฐประหาร กับพลังดูด
คนละเรื่องเดียวกัน
ไม่ว่าเรื่องทำหนังสือขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากอังกฤษในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ไม่ว่าเรื่องจดหมายเปิดผนึกของนายนคร มาฉิม พร้อมกับกล่าวคำขอโทษต่อนายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าเรื่อง คสช.แจ้งความกล่าวโทษรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ของพรรคอนาคตใหม่
เหมือนกับเป็นคนละเรื่อง คนละสถานการณ์ แต่หากพิจารณาอย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้นจะค่อยๆ ประจักษ์ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
นั่นก็คือ สืบเนื่องมาจากกรณี “รัฐประหาร”
ไม่เพียงแต่จะเป็นสถานการณ์ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 หากแต่ยังเป็นสถานการณ์ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
จากยุคของ “คมช.” มายังยุคของ “คสช.”
ในที่นี้จึงต้องยอมรับว่าจดหมายเปิดผนึกของนายนคร มาฉิม มีส่วนอย่างสำคัญในการฉายภาพแห่งปัญหาและความขัดแย้งนับแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ออกมาได้อย่างเด่นชัดว่าเป็นองค์ประกอบอย่างไร
ผ่านการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผ่านการเคลื่อนไหวขององค์กรพิทักษ์สยามเพื่อการแช่แข็งประเทศไทย และผ่านการเคลื่อนไหวปฏิรูปก่อนเลือกตั้งของ กปปส.
เหมือนกับจะรุก
สะท้อนการตั้งรับ
ต่อปรากฏการณ์การขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเหมือนกับจะเป็นการรุกอีกก้าวต่อการถอยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่คำถาม 1 ก็คือ จากเดือนสิงหาคม 2560 ถึงเดือนสิงหาคม 2561 ทำไมจึงไม่มีการส่งตัว
อย่าว่าแต่จากอังกฤษ อย่าว่าแต่จากดูไบ อย่าว่าแต่จากรัสเซีย หากแม้กระทั่งเมื่อเดินทางไปยังจีน เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น และรวมถึงสิงคโปร์
ทำไมจึงไม่มีประเทศใดส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้กับรัฐบาลไทย
เหมือนกับรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะเป็นการรุกเข้าใส่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกถอดถอน ถูกอายัดทรัพย์ ถูดดำเนินคดี กระทั่งในที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศเช่นเดียวกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร
แต่ถามว่า ตราบ ณ วันนี้มีประเทศใดยินยอมส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ให้ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนบ้าง และถามว่า ตราบ ณ วันนี้มีประเทศใดยินยอมส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนบ้าง
สถานการณ์เช่นนี้เองทำให้สภาพการรุกในทางการเมืองแปรเปลี่ยนเป็นการรับในทางการเมืองไปได้โดยอัตโนมัติ
จาก นคร มาฉิม
ถึง อนาคตใหม่
ปฏิบัติการของ คสช. ในการแจ้งความกล่าวโทษรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ที่ดำเนินการโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่ากับเป็นการเตะสกัดขาพรรคอนาคตใหม่ผ่าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยความผิดที่เกือบจะเหมือนกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
ประเด็นอันเป็นเนื้อหาใหญ่ใจกลางคือ กรณีของ “พลังดูด”
หากนำเอากรณีของพรรคอนาคตใหม่และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปพิจารณาอย่างประสานกับกรณีของจดหมายเปิดผนึกของนายนคร มาฉิม ก็จะทำให้เข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา
ทุกอย่างล้วนอยู่บนมูลฐานบทสรุปที่ว่า รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นรัฐประหารเสียของ จึงจำเป็นต้องก่อรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
และทำให้ไม่ตกอยู่ในความล้มเหมือนกับรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ที่อยู่ในสภาพเสียของ ความหมายอย่างแท้จริงของคำว่าเสียของก็คือ ไม่สามารถบดขยี้พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยได้อย่างแหลกละเอียด
เลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชนชนะ เลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะ
จึงต้อง “รัฐประหาร” และจึงต้องใช้ “พลังดูด”
กรณีพลังดูด
ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
การกล่าวโทษพรรคอนาคตใหม่ที่ไปวิจารณ์ “พลังดูด” การยื่นฟ้องจดหมายเปิดผนึกนายนคร มาฉิม ที่เปิดโปงเบื้องหลังการรัฐประหารกำลังจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
เหมือนกับ คสช.เป็นฝ่ายรุก เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายรุก
แต่เมื่อประมวลเอากรณีของ “พลังดูด” ประสานและวิเคราะห์กับกรณีของ “จดหมายเปิดผนึก” ประสานและวิเคราะห์กับกรณีการทำหนังสือขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากทางการอังกฤษในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
ทั้งหมดล้วนเนื่องมาแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ด้วยการประสาน “รัฐประหาร” เข้ากับ “พลังดูด”
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การสืบทอดอำนาจต่อไปอีกอย่างน้อย 20 ปี เพื่อมิให้รัฐประหารต้องเสียของ