วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร/หมัดสูญจำรัส คงเม้งคุ้งฮวบ (150)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร

 

หมัดสูญจำรัส คงเม้งคุ้งฮวบ (150)

 

กิมย้งบรรยายการประลองยุทธ์ระหว่างจิวแป๊ะทง เฒ่าทารก กับเอี้ยก่วย ตามสำนวนแปล น.นพรัตน์ อย่างค่อนข้างละเอียด
เมื่อจิวแป๊ะทงใช้ออกด้วย 72 ท่าเพลงหมัดสูญจำรัส (คงเม้งคุ้งฮวบ)
เอี้ยก่วยฟาดมือซ้ายตอบโต้พลันพบว่าพลังหมัดของฝ่ายตรงข้ามคล้ายมี คล้ายไม่มี หากใช้พลังฝ่ามือถึงที่สุดมาตรว่าไม่ถูกต้อง แต่หากแม้นใช้อย่างเลื่อนลอยก็ล่อแหลมต่ออันตราย
อดลอบตื่นตระหนกมิได้
ยามนั้นใช้เพลงฝ่ามืออันคร่ำเคร่งฝึกปรือท่ามกลางเสียงคลื่นลมอันบ้าคลั่งเป็นเวลา 10 กว่าปีออก กราดฟาดดังหวืดหวือออกไป 3 ฝ่ามือ
ลมฝ่ามือพลุ่งพล่านปั่นป่วน กลีบบุปผาของต้นไม้ดอกรอบข้างร่วงพรั่งพรู ทั้งกลีบสีแดง เหลือง ม่วง ขาว คล้ายกับบุปผาพิรุณโปรยปรายลงจากฟ้า
เป็นภาพอันสวยงามน่าดู
เอี้ยก่วยพอฟาดกระหน่ำอีก 3 ฝ่ามือ รอบข้างบังเกิดเสียงดังกรอบ แกรบ ไม่ขาดหู กลับปรากฏกิ่งและลำต้นของต้นไม้ ดอก หักโค่นลง
นั่นย่อมมาจากการปะทะเชิงสังสรรค์ ระหว่างเพลงหมัดของจิวแป๊ะทงเมื่อประสบเข้ากับเพลงหมัดของเอี้ยก่วย

ในเบื้องต้น เอี้ยก่วยยังวิตกว่าจิวแป๊ะทงสูงวัยแล้ว เรี่ยวแรงย่อมอ่อนโทรมไม่อาจต้านทานรับลมฝ่ามืออันแกร่งกร้าวรุนแรงจากมัน
จึงขณะที่ฟาดฝ่ามือพอปล่อยออกก็รั้งเข้า
แต่พอผ่านพ้นไป 6 กระบวนท่าก็ทราบว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังลมปราณอันลึกล้ำ เพลงหมัดยังพิสดารเหนือล้ำกว่า หากเพียงชะล่า เลินเล่อสักเล็กน้อยต้องพ่ายแพ้ภายใต้เพลงหมัดของเฒ่าทารกอย่างไม่ต้องสงสัย
ค่อยเร่งเร้าพลังใช้กระบวนท่าออก ไม่ออกกำลังแม้แต่น้อย
จิวแป๊ะทงต่อสู้จนกระหยิ่มยินดีร้องดังๆ ว่า “ฝีมืออันยอดเยี่ยม เพลงฝ่ามืออันยอดเยี่ยม การต่อยตีครั้งนี้สมอยากจริงๆ”
รัศมีลมหมัดพลังฝ่ามือของทั้ง 2 ขยายวงกว้างออกทีละน้อย
ต่อสู้เป็นเวลานาน 72 ท่าหมัดสูญจำรัส (คงเม้งคุ้งฮวบ) ของจิวแป๊ะทงค่อยใช้หมดสิ้น ด้านกระบวนท่าของเฒ่าทารกแม้ชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ แต่วิจารณ์ตามพละกำลังไม่อาจเทียบเปรียบกับเอี้ยก่วยที่ฝึกฝีมือท่ามกลางระลอกคลื่นโหมกระหน่ำ
โหมกระหน่ำอย่างชนิดไม่มีวันหยุดยั้งยุติได้

ก๊วยเซียงซึ่งถูกเพลงหมัดของ 2 จอมยุทธ์คุกคามต้องถอยกายไปทีละก้าวออกมายืนสังเกตการณ์อยู่ด้านข้าง
เห็นท่ามกลางบุปผาบินเวียนว่อน
เอี้ยก่วยกับจิวแป๊ะทงต่อยหมัด ฟาดฝ่ามือไม่หยุดยั้ง นางทราบดีว่าบุคคลทั้ง 2 ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีความคิดทำร้ายฝ่ายตรงข้าม แต่ยอดฝีมือประลองยุทธ์ต่อสู้ด้วยความคึกคักเช่นนี้ขอเพียงพลาดพลั้งสักเล็กน้อยจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต อดวิตกกังวลแทนเอี้ยก่วยมิได้
ใจกลางฝ่ามือทั้ง 2 ถึงกับชุ่มด้วยหยาดเหงื่อ
จิวแป๊ะทงเห็นหมัดสูญจำรัส (คงเม้งคุ้งฮวบ) ที่ตัวเองฝึกปรือมาเป็นเวลาหลาย 10 ปียังไม่อาจทำอย่างไรกับเอี้ยก่วยได้ ต้องร้องชมเชยอยู่ภายในใจ
“เด็กร้ายกาจยอดเยี่ยมยิ่ง”
ทันใด กระบวนท่าเปลี่ยนแปร ซ้ายหมัดขวาฝ่ามือ 2 มือรุกไล่พร้อมกัน ใช้ออกด้วยวิชาแบ่งภาคแยกจู่โจมที่บัญญัติคิดค้นขึ้น
เมื่อใช้ออกก็คล้ายกับเฒ่าทารกแปลงร่างกลายเป็น 2 กลุ้มรุมจู่โจมทั้งซ้ายขวา
เอี้ยก่วยใช้ฝ่ามือเดียวต่อสู้กับ 2 มือของจิวแป๊ะทง ความจริงเสียเปรียบอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งมีสภาพขัดข้อง ต้องลอบตื่นตระหนกได้แต่เพิ่มพลังที่มือซ้าย ส่วนแขนเสื้อข้างขวารับสภาวะจู่โจมครึ่งหนึ่งของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้
ก๊วยเซียงซึ่งเป็นฝ่ายชมดูต่างหากที่ลอบตื่นตระหนกแทนเอี้ยก่วย

แม้ไม่สามารถรับรู้ถึงความลึกล้ำพิสดารแห่งกระบวนท่าทั้ง 2 แต่ก็พออ่านออกว่าสถานการณ์ต่อสู้เปลี่ยนจากสภาพคู่คี่ ก้ำกึ่ง
กลายเป็นเอี้ยก่วยเสียเปรียบ
นางยิ่งชมดูยิ่งเกิดความกังวล วิตก พลันนึกออกว่าขณะที่บิดาถ่ายทอดวิชาฝีมือแก่นางบนเกาะดอกท้อเคยใช้วิชาฝีมือที่แตกต่างประกระบวนท่ากับนางและก๊วยพู่ลู่ผู้เป็นตี่ตี๋ จับกระบวนท่าอันจิวแป๊ะทงใช้ออกด้วยวิชาฝีมือของบิดานั่นเอง
อย่าโทษก๊วยเซียงเลยเพราะความรับรู้ของนางมีจำกัดและภายในใจก็มากด้วยฉันทาคติเอนไปทางเอี้ยก่วยมากกว่าจิวแป๊ะทง