บทความพิเศษ/จิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” ในรัชกาลที่ 10 ขยายตัว-มั่นคง-สืบเนื่อง

ในประเทศ

จิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” ในรัชกาลที่ 10

ขยายตัว-มั่นคง-สืบเนื่อง

โครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ”

เชื่อว่าเข้าไปอยู่ ณ ดวงใจคนไทยทุกคนแล้ว

ที่มาโครงการนี้ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ

พระองค์จึงทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง

และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ประกอบกับมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่างๆ ของรัชกาลที่ 9 ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า

ดังนั้น ในปีที่แล้ว โอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ ร่วมกับหน่วยราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชน ปัญหาการจราจร และอื่นๆ

เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

โดยเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”

ปรากฏว่า โครงการจิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” มีประชาชนสมัครเข้าร่วมจำนวนมาก

จนเสื้อยืดคอโปโลสีดำ “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” ที่พระราชทานให้ประชาชนจำนวน 770,000 ตัว ถูกแจกจ่ายจนหมด

นั่นหมายความว่า มีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 770,000 คน และยอดอาจจะถึง 1 ล้านคน เพราะมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการแม้จะไม่ได้รับเสื้อ

ถือเป็นโครงการที่มีประชาชนเข้าร่วม และประสบความสำเร็จสูงยิ่ง

ที่สำคัญ

ทำให้คนไทยรู้จักจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” อย่างเป็นรูปธรรม

จากความสำเร็จดังกล่าว

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จึงทรงโปรดให้เปิดรับสมัคร โครงการ “จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ” ขึ้น

ด้วยเพราะทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

และทรงรับรู้จากพระราชหฤทัยของพระองค์ถึงพลังแห่งคุณค่าของความรัก ความศรัทธาเทิดทูนและความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

ดังนั้น เพื่อทรงสนองตอบต่อความรัก และน้ำใจอันประเสริฐสุดของประชาชนทั้งหลาย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมถวายความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคม 2560

เพื่อเป็นการรวมพลังความรักอันมีค่า รวมพลังน้ำใจของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนเสด็จสู่สวรรคาลัย

ปรากฏว่า ระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน

ประชาชนไทยทั่วประเทศและที่พำนักอยู่ต่างประเทศ สมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจฯ เพื่อปฏิบัติงานตามความสามารถและความสมัครใจ

โดยแบ่งงานเป็น 8 ประเภท ได้แก่ งานดอกไม้จันทน์, งานประชาสัมพันธ์, งานโยธา, งานขนส่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน, งานบริการประชาชน, งานแพทย์, งานรักษาความปลอดภัย และงานจราจร

ปรากฏว่า ยอดรวมผู้สมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ทุกประเภท นับตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2560

มีจำนวนทั้งสิ้น 4,006,825 คน

เติบโตขึ้นหลายเท่าตัว

และได้ร่วมปฏิบัติเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9 อย่างสมพระเกียรติ เรียบร้อย งดงาม ตามราชประเพณี

ณนาทีนี้ ต้องถือว่า จิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

ได้กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ

และมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง

อย่างล่าสุดเมื่อเกิดปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง-น้ำขุนนางนอน จ.เชียงราย

นอกเหนือจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคนแล้ว

อาสาสมัครในโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ได้เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือตามที่ถูกร้องขออย่างเต็มที่

ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน อาหาร เครื่องดื่มแก่จิตอาสาและผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จโดยสวัสดิภาพ

และเมื่อปฏิบัติการกู้ชีวิตประสบความสำเร็จ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระราชกระแส ความว่า

“น่าชื่นชมยินดียิ่งนัก ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องสุดวิสัย และไม่มีผู้ใดคาดคิด ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ จึงต้องกระทำอย่างปัจจุบันและเร่งด่วน

แต่ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

และทุกภาคส่วนก็ระดมสรรพกำลังกันมาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ต่างยอมเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา กำลังทรัพย์ และยอมสละแม้ชีวิตของตน

ส่วนผู้ประสบภัยนั้นต่างก็ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุ ประกอบกับการที่ประชาชนทั่วโลกก็ส่งกำลังใจมายังผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างท่วมท้น

จึงกล่าวได้ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้แม้จะมีความยากลำบาก แต่ก็มีสิ่งที่ดีและมีคุณค่าบังเกิดขึ้นอย่างไม่อาจประมาณได้

ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกคนทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การบริหารจัดการที่ดี การใช้ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ให้พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ การปฏิบัติตนและปฏิบัติการอย่างรอบคอบ มีวินัย มีสติ

ตลอดจนการรู้หน้าที่ของตน และปฏิบัติหน้าที่ให้ประสานส่งเสริมกับทุกคนทุกฝ่ายโดยเต็มกำลัง เป็นเครื่องมืออย่างสำคัญ ที่จะสามารถนำไปใช้แก้ไขอุปสรรคปัญหา รวมทั้งพัฒนาบ้านเมืองของเราได้ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อกันนั้น เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกยั่งยืนตลอดไป”

ถือเป็นกระแสรับสั่งที่ทรงย้ำถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความร่วมมือร่วมใจ

ซึ่งนั่นก็คือ จิตอาสา นั่นเอง

และจิตอาสาเหล่านี้ ก็ได้อุทิศตนปฏิบัติภารกิจจนกระทั่งเสร็จสิ้น

โดยเหล่าจิตอาสาอีกกว่า 4,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่ ต่างเข้ามาช่วยทำความสะอาดในกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ถ้ำหลวง

เพื่อคืนความสมบูรณ์ของวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

นี่คือ ความงดงาม “ทำความดีด้วยหัวใจ”

จากความสำเร็จงดงามดังกล่าว ประกอบในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2561 นี้

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จึงทรงโปรดให้เปิดรับสมัคร โครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ขึ้นอีกครั้ง

โดยเปิดรับสมัครระหว่าง 12-30 กรกฎาคม 2561

คุณสมบัติผู้สมัคร ยังเหมือนเดิมคือ เป็นข้าราชการ (ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ) รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชนทุกกลุ่มอายุ นำหลักฐานการสมัครบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำเอกสารหลักฐานที่ปรากฏเลขรหัสบัตรประจำตัวประชาชน เช่น สูติบัตร หรือทะเบียนบ้าน มาด้วย

ผู้สมัครทุกคนจะได้รับสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ บัตรประจำตัวจิตอาสาสีฟ้า โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงเป็นหลักฐานการสมัคร ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ใช้สูติบัตร หรือทะเบียนบ้าน ซึ่งจะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นี้

ซึ่งคาดหมายว่า ยอดผู้สมัครคงจะเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก

นั่นก็หมายความว่า โครงการจิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” จะขยายตัวออกไปทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

เป็นกำลังแห่งความดี ที่สืบเนื่องมั่นคงในรัชกาลที่ 10