ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 กรกฎาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | รักคนอ่าน |
เผยแพร่ |
ณวันที่ฉันเขียนอยู่นี้ ปฏิบัติการสำคัญและเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกกำลังเริ่มต้นขึ้น
นั่นก็คือการพาคน 13 คนออกจากถ้ำ
คงไม่ต้องเล่าย้อนหลังกันมากมายว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เข้าไปทำไม เจอกันเมื่อไหร่ สบายดีไหม
ดนตรีที่บรรเลงบทเริ่มต้นเข้าสู่จุดสูงสุดในวันนี้ นาทีนี้
ปฏิบัติการเริ่มต้นขึ้นเมื่อสาย หลังจากไตร่ตรองกันมาหลายวันว่าจะใช้ทางไหนดีในการลำเลียงคนออกมา
ตามข้อมูลที่แจ้ง คืนนี้เราจะได้รู้ผลกัน
และแน่นอน, ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน
ทุกกระบวนการในเรื่องนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนาน
“เรื่องที่ท่านเชื่อว่าเกิดกับกะลาสีบนเรือที่ท่านโดยสาร ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครหรอกครับ กะลาสีทุกคนต่างรู้จักเรื่องนี้ ทุกคนเล่าเรื่องนี้ และต่างก็หวังอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตนเอง ดังนั้น แต่ละคนจึงเล่าเรื่องนี้ราวกับมันเกิดขึ้นกับตนเอง แต่ไม่เป็นเช่นนั้นหรอกครับ”*
หนึ่งในตำนานที่ฉันชอบคือเรื่องของปมกอร์เดียน
ปมกอร์เดียนเกิดขึ้นในอาณาจักรฟรีเจีย (Phrygia) ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรีก เมื่อกษัตริย์ที่ปกครองอยู่สวรรคตโดยไม่มีการแต่งตั้งผู้สืบทอดไว้ ศาสดาพยากรณ์ได้พยากรณ์ว่ากษัตริย์องค์ใหม่ของฟรีเจียจะเป็นผู้ที่ขับเกวียนเข้าเมืองมา
กระทั่งครอบครัวของกอร์เดียส (Gordias) และลูกชาย อาไมดาส (Ahmidas) นั่งเกวียนเข้ามาในเมือง อาไมดาสจึงได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของฟรีเจีย
อาไมดาสผูกเกวียนที่เขานั่งมาไว้กับเสาวิหารในเมืองกอร์เดียม (Gordium) เมืองซึ่งถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับบิดาของเขา
ปมเงื่อนที่อาไมดาสผูกนั้นแน่นมาก กระทั่งศาสดาพยากรณ์ได้มีคำทำนายออกมาอีกว่า ผู้ที่แก้ปมนี้ได้จะเป็นผู้ที่ได้ครอบครองเอเชีย
เมื่อ 333 ปีก่อนคริสต์ศักราช อเล็กซานเดอร์มหาราชเสด็จมาที่กอร์เดียม และลองแก้ดูแต่พระองค์ก็แก้เชือกไม่ได้ อเล็กซานเดอร์คว้าดาบมาฟันเชือกขาดออกเป็นสองท่อนทันที ซึ่งในภาษาอังกฤษนำมาใช้สื่อถึงการแก้ปัญหายุ่งยากแบบฉับไวว่า Cutting the Gordian knot (อ้างอิงจากข้อมูลเรื่องปมกอร์เดียนในวิกิพีเดีย)
ในเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า ที่มาของปมนั้นก็เป็นตำนานในตัวของมันเอง ความแน่นหนาและบุญญาภินิหารต่างๆ ถูกผูกเอาไว้กับปม
ฉันไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีใครคิดจะลองแกะแก้ปมนี้บ้างหรือเปล่า หรือถูกตำนานข่มทับเสียจนไม่กล้าแม้จะลอง
จนการมาถึงของอเล็กซานเดอร์
และวิธีแก้ปมแบบฉับไว
การปล่อยเรื่องเล่าให้ถูกบ่มด้วยเวลา ก็เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างตำนาน
แต่การทำลายเรื่องเล่าและเอาความจริงเข้ามาทดแทน
สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้น
นั่นก็คือการสร้างตำนานเช่นกัน
ก่อนจะถึงวันนี้เป็นเวลาร่วมสองสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความอึมครึมและสารพันเรื่องเล่าจากหุบเขานางนอน
ความเป็นจริงปะทะกับความน่าจะเป็น
หลายคนฉวยโอกาสนี้เพื่อสร้างบางอย่าง
บ้างก็ชื่อเสียงตัวเอง
บ้างก็ต้องการสปอตไลต์
บ้างก็…แค่เพื่อเซลฟี่ตัวเองซักรูปให้คนได้รู้ว่าได้ไปถึงตรงนั้นแล้ว
แต่ฉันก็ยังเชื่อในมนุษยธรรม
เชื่อว่าอุปสรรคและสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระตุ้นให้บางคนหาทางก้าวผ่านให้ได้
แม้จะมีชีวิตเป็นเดิมพัน
ทั้งชีวิตของตัวเองและผู้รอคอยความช่วยเหลือ
เชื่อว่าเพราะมนุษย์คือมนุษย์
และเราย่อมไม่ยอมรอเพียงโชคชะตา
“ถ้าหากว่าเรื่องนี้-เขากล่าว-ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉันก็จะทำให้มันเกิดขึ้นในเวลานี้ ฉันไม่ชอบการเสแสร้ง ไม่ชอบคำพยากรณ์ การหมกมุ่นอยู่กับสิ่งลวงเป็นเรื่องผิดเพี้ยนและผิดศีลธรรม ฉันชอบข้อเท็จจริง ฉันจะเปลี่ยนเรื่องยกเมฆนี้ให้กลายเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง”*
เหมือนกับอีกหลายคนในเวลานี้
ฉันรอผลลัพธ์จากถ้ำหลวง
เราเขียนตำนานขึ้นมาก่อน
จากนั้นจึงมองหาพื้นที่สำหรับมัน
จัดวางลงไป ถักทอบรรยากาศห่อหุ้ม
รอเวลาให้เรื่องเล่ากลายเป็นตำนานที่จะรับใช้เรา
เพื่อจะทำลายมัน
และทำให้การทำลายนั้น เป็นตำนานในตัวของมันเอง
——————————————————————————————————————-
*ข้อความจากในหนังสือ