กระแส “ผบ.ตร.ฮีโร่” รีเทิร์น ไลก์รัวๆ! ปีนดอยผาหมีช่วย “13 หมูป่า” เกราะป้องกันเก้าอี้แน่นเปรี๊ยะ! แล้วใครมีแนวโน้มเป็นว่าที่ “พิทักษ์1”

กระแส “ผบ.ตร.ฮีโร่” กลับมากระหึ่ม! อีกครั้ง

หลังจากการคลี่คลายคดี 8 ศพ จ.กระบี่ เมื่อปีกลาย

ภาพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขึ้นดอยผาหมี เหนือถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อสำรวจและหาปล่องช่วยเหลือเยาวชนทีมนักฟุตบอล “หมูป่า อะคาเดมี” 13 ชีวิตนั้น

โลกโซเชียลกดเลิฟ กดไลก์รัวๆ ให้ “บิ๊กแป๊ะ”

แสดง “ภาวะผู้นำ” ได้ใจชาวสีกากีและประชาชนชาวไทยไปเต็มๆ

สมกับวลีของเจ้าตัว “ผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง ไปตรงไหนจะเจริญงอกงาม ไม่ใช่ไปที่ไหน ที่นั่นตาย”

ผบ.ตร. เดินทางมาถึงถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ่ายวันที่ 28 มิถุนายน

ด้วยชุดเวสต์ตำรวจพลร่ม เข้าถึงพื้นที่พร้อมคณะของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ

ก่อนขอแยกตัวอยู่ต่อทำงานในพื้นที่ ร่วม “ปฏิบัติการ” หาหนทางช่วยเหลือ 13 ชีวิต “หมูป่า” ด้วยตัวเอง

รุ่งเช้า 29 มิถุนายน นำตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจสื่อสาร ตำรวจภูธร พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ขึ้นดอยผาหมี สำรวจพื้นที่และปฏิบัติการหาทางเข้าโพรงถ้ำ นำกล่องยังชีพ ข้างในบรรจุอาหาร น้ำ ไฟกะพริบ ดินสอ พร้อมแผนที่ หย่อนลงไปในปล่องถ้ำ เพื่อให้ถึง 13 ชีวิต

ภาพการทำงานทั้งหมดปรากฏทางโซเซียล เคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกน้อง ทั้งการขึ้นดอยผาหมีเพื่อหาโพรงถ้ำ ส่ง “พลร่ม” หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองร้อยกู้ชีพจากค่ายนเรศวรโรยตัวจากปากปล่องเข้าสู่ภายในปล่อง

ในฐานะ “ผู้นำหมายเลข 1” พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้แสดงภาวะผู้นำองค์กรสูงสุดของชาวสีกากี

ถือว่าได้ใจผู้ใต้บังคับบัญชาและคนไทยอย่างยิ่ง ในการร่วมบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขา ตากฝน คลุกคลีลูกน้อง ให้ขวัญกำลังใจอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง

จนได้รับการยกย่องว่า หัวใจผู้นำสีกากีนาทีนี้ช่างยิ่งใหญ่!!

สําหรับชุดเวสต์เครื่องแบบตำรวจพลร่มที่สวมวันนั้น แสดงให้เห็นความไม่ธรรมดาของนายพลตำรวจผู้นี้ ติดเครื่องหมาย “U.S. Secret Service-Counter Assault Team” แสดงการผ่านหลักสูตรการสืบราชการลับจากหน่วยงานซีเคร็ตเซอร์วิสของสหรัฐอเมริกา

อีกทั้งยังมีเครื่องหมายผ่านหลักสูตรต่อต้านก่อการร้าย นเรศวร 261 และอรินทราช 26 การันตีฝีมือเฉียบ!!

ชื่อชั้นโปรไฟล์ พล.ต.อ.จักรทิพย์จัดเป็นนายตำรวจสายบู๊มือดี จบโรงเรียนวชิราวุธฯ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 36 ผ่านหลักสูตรอบรมการสืบสวนสอบสวนของเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา

เส้นทางสีกากีเติบโตในกองบังคับการปราบปราม ถนัดงานสืบสวน ปราบปราม สมัยปัญหาชายแดนใต้ลุกลาม เป็นหนึ่งในนายตำรวจที่ลงพื้นที่สืบสวนคลี่คลายคดีรุนแรง

เคยเป็นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อขึ้นมาสู่ระดับบังคับบัญชา เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สร้างหน่วยปฏิบัติการพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นระบบ

ผลงานการสืบสวนคลี่คลายคดีใหญ่ๆ มีมากมาย ครั้งระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ “บิ๊กแป๊ะ” ซึ่งตอนนั้นเป็นรอง ผบ.ตร. สืบสวนนำทีมตามจับกลุ่มมือระเบิดชาวต่างชาติได้

หลายคดีใหญ่ หากถึงมือบิ๊กแป๊ะ คนร้ายไม่มีทางหลุด!!

ล่าสุดที่คนยังจำได้ คือสวมเสื้อกั๊กนักสืบตัวเก่ง นำ “ดรีมทีม” สืบสวนลงไปทำคดีสังหารหมู่ยกครัว 8 ศพ ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จนตามจับกุมคนร้ายได้ยกทีม

ได้รับการยอมรับในฝีมือ “แบรนด์จักรทิพย์” กระแสความนิยมไม่ต่างจากช่วย 13 ชีวิต “หมูป่า” ในครั้งนี้

แน่นอนว่าส่งผลให้เก้าอี้ ผบ.ตร. ที่สั่นคลอนจากปฏิบัติการชำระ “ดงขมิ้น” ที่ฟอร์มหลุดบ้าง กลับมาแข็งแกร่งดุจเดิม

ผลงานชัดเจนในสถานการณ์ช่วย 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวงอีกคนคือ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา หรือบิ๊กต้อย แม้กระแสจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่า ผบ.ตร. ที่เป็น “พระเอก”

แต่คนก็ชื่นชมในความเอาจริงเอาจัง นำทีมนักประดาน้ำฝรั่ง ผู้เชี่ยวชาญจีพีเอสและโพรงถ้ำ เดินสำรวจบนดอยผาหมี เพื่อหาช่องทางเข้าสู่ถ้ำหลวง

“บิ๊กต้อย” อยู่ข้างกาย “บิ๊กแป๊ะ” ทำงานแวดล้อมไปด้วยตำรวจตระเวนชายแดน

ทุกเช้า พล.ต.อ.วิระชัยจะประชุมกับทีมงานเพื่อวางแผนก่อนปฏิบัติการ ทุกอย่างมีขั้นตอน สมกับดีกรี “ด๊อกเตอร์”

พร้อมทีมงานโซเชียลที่เข้มแข็งของเพจเฟซบุ๊ก “ดร.วิระชัย ทรงเมตตา” ที่มีผู้ติดตามกว่า 8.3 หมื่นราย อัพภาพและภารกิจลงพื้นที่ทุกวัน

สถานะ “บิ๊กต้อย” นั้นถือเป็นเบอร์ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติยุคนี้

เพราะนั่งรอง ผบ.ตร. เก้าอี้หลัก ได้รับการคาดหมายว่าจะคว้าเก้าอี้ผู้นำอีก 2 ปีข้างหน้า หลัง “เบอร์ 1” เกษียณ

พล.ต.อ.วิระชัยจัดว่าเป็นนายพลโตเร็ว เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 37 ที่เติบโตนำรุ่น จบปริญญาเอก Ph.d สาขาการบริหารการพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และปริญญาเอก สาขาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

สวมบทโฆษก ตร. เป็นตำแหน่งหัวโขนให้สร้างโอกาสบทบาทโดดเด่น เปิดพื้นที่แสดงผลงาน เพิ่มแต้มให้เข้าใกล้เก้าอี้ใหญ่ได้ไม่ยาก

อีกทั้งมีครอบครัวเป็นทีมหนุนดี ศิริวรรณ ทรงเมตตา เจ้าของธุรกิจกลุ่มชัยโย ทริปเปิ้ลเอ

ผลงานสร้างชื่อสมัยเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการบ้านเกิด และสมัยเป็นผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ในตำแหน่งหลังเคยมีเรื่องมีราวกล่าวหา เป็นจุดที่ทำให้เส้นทางการเติบโตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่าใดนัก

แต่ถึงอย่างไร พล.ต.อ.วิระชัยก็มาไกล แถมยังเหลืออายุราชการอีก 4 ปี

สะสมบารมีสร้างผลงาน จาก “พระรอง” ขึ้นเป็น “พระเอก” ตัวจริงต่อไป