รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว / “ศ. ดุสิต”/เรื่องเล็กที่ต้องรู้ในวิชาพยากรณ์ (ต่อ)

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว “ศ. ดุสิต”

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

 

เรื่องเล็กที่ต้องรู้ในวิชาพยากรณ์ (ต่อ)

เกณฑ์กาลกิณี

เกณฑ์กาลกิณี  (ระบบโหราศาสตร์)

 

“เกณฑ์กาลกิณี” นี้ เป็นสูตรเล็กๆ สูตรหนึ่งในวิชาพยากรณ์และอยู่ในแขนงวิชาทักษา แต่เรานำเอามาใช้ในวิชาโหราศาสตร์และเลขเจ็ดตัวได้

เป็นวิชาสำหรับใช้ในกรณีที่เราต้องการจะรู้ถึงความดีร้ายของชาตาชีวิตในช่วงเวลานั้นๆ

เกณฑ์กาลกิณีเป็นเรื่องที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องร้าย แต่จะร้ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน

คำว่าเกณฑ์หมายถึงการกำหนดว่าจะต้องใช้ในกรณีใดกรณีหนึ่ง

เช่น เราอยากรู้ว่าปีนี้ถ้าเราจะทำอะไรสำคัญขึ้นมาสักอย่าง ผลของมันจะดีหรือร้ายประการใด เราก็สามารถนำเอาเกณฑ์กาลกิณีนี้มาใช้ตรวจชาตาของเราว่าจะดีหรือร้ายอย่างไร

ถ้าเกณฑ์บอกว่าดี เราจะทำกิจนั้นได้อย่างสบายใจ

แต่ถ้าเกณฑ์บอกว่าร้าย เราก็อาจจะหยุดการทำกิจนั้นไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เรา

นี่คือประโยชน์ที่เราจะได้จากเกณฑ์กาลกิณีนี้

วิธีทำเกณฑ์กาลกิณีนี้ไม่ยาก แต่วิธีอ่านอาจจะซับซ้อนนิดหน่อย ผู้ใช้จึงควรจะมีพื้นฐานในการอ่านดวงที่แข็งแรงพอสมควร มือใหม่อาจจะสับสนอยู่บ้าง ต้องใช้ความรอบคอบและพิจารณาให้ละเอียดก็จะทำได้

ผมจะบอกวิธีทำเดี๋ยวนี้แหละ

 

วิธีทำ

เอาดวงชาตาของผู้ที่มาให้พยากรณ์ตั้งขึ้น ถามอายุของเจ้าชาตาตกถึงปีนี้เท่าใด และตรวจดูว่าวันนี้เป็นวันอะไร (วันที่นั่งดูอยู่นี่แหละ) แล้วตรวจดูว่ากาลกิณีของวันนี้คือดาวอะไร เอากำลังของดาวนั้นบวกเข้ากับอายุ ได้เท่าไรเอา ๑๒ หาร ลัพธ์ทิ้งไปเอาแต่เศษมา เศษเป็นเลขใดวางกาไว้ที่ราศีเลขนั้น กานั้นเปรียบเสมือนว่าเป็นตัวกาลกิณีที่จะส่งโทษให้กับภพนั้นราศีนั้น

สมมุติว่าเจ้าชาตามีดวงตามรูปนี้และมีอายุ ๓๖ ปี มาดูดวงวันพุธ ดาวกาลกิณีของวันพุธคือดาวอังคาร อังคารมีกำลัง ๘ จึงเอา ๘+๓๖ จะได้ ๔๔ เอา ๑๒ หาร ได้ลัพธ์ ๓ เศษ ๘ ลัพธ์ทิ้งไป เอาเศษ ๘ วางกาไว้ที่ราศี ๘ (ธนู) จะเป็นรูปดังนี้

 

สรุปวิธีทำคือ วางดวงชาตาของผู้ที่มาให้ดูตั้งไว้ ตั้งอายุแล้วเอากำลังของกาลกิณีวันนั้น (วันที่มาดู) มาบวก ได้เท่าไรเอา ๑๒ หาร เศษเป็นเลขใดวางกาไว้ที่ราศีหมายเลขนั้นตามรูปที่แสดงไว้

 

วิธีอ่าน

สมมุติว่าดวงที่แสดงอยู่นี้เป็นดวงของคุณ และวันนี้เป็นวันพุธ เราจึงเอากำลังกาลกิณีของวันพุธ คือดาวอังคาร มาบวกกับอายุของคุณซึ่งมี ๓๖ ปี ดวงนี้ลัคนาอยู่ราศีตุล กาตกที่ราศี ๘ (ธนู) เป็นภพสหัชชะของลัคนา

ภพสหัชชะมีความหมายว่าเพื่อนฝูง, สังคม, การติดต่อสื่อสาร, การเดินทางใกล้ๆ ฯลฯ

กาที่วางไว้นั้นคือความหมายของความเสียหาย (กาลกิณี) ที่จะเกิดขึ้น

จึงอ่านได้ว่าธุรกิจที่คุณกำลังติดต่อเจรจากันอยู่ในขณะนี้อาจประสบอุปสรรค หรือความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนฝูงบางคนอาจบกพร่อง

หรือช่วงนี้คุณอาจถูกติฉินนินทาอะไรบางอย่างจากสังคม

แม้แต่การเดินทางในระยะใกล้ๆ (เช่น กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องระมัดระวัง เพราะกานี้เป็นเครื่องแสดงให้คุณรู้ว่าชาตาช่วงนี้ของคุณมีกาลกิณีแฝงอยู่นั่นเอง

คำว่า “กาลกิณี” นี้เรามักได้ยินคำแปลว่า ชั่วร้าย ซึ่งบางคนตีความหมายไปในทางรุนแรงมาก

เช่น หมายถึงความพินาศฉิบหายหรือการล้มหายตายจาก

บางคนถึงกับถือว่ากาลกิณีคือความล่มจมของชีวิตไปโน่นเลย

ซึ่งความจริงมันไม่ได้รุนแรงถึงอย่างนั้น

กาลกิณีหมายถึงสิ่งที่โบราณท่านใช้คำว่าเสนียดจัญไร

ซึ่งถ้าใครรู้จักความหมายนี้ดีก็จะเข้าใจในความหมายของกาลกิณีได้อย่างดีด้วย

กาลกิณีคือความไม่ดีในระดับที่แสดงถึงความเดือดเนื้อร้อนใจ

เช่น ซื้อรถยนต์มาคันหนึ่ง พอได้รถคันนี้มาใช้ก็มีเรื่องเดือดร้อนเกิดขึ้นกับเราเรื่อยๆ

แบบนี้แหละเราก็มักจะเรียกว่ารถคันนี้ป็นกาลกิณี

หรือบางคนซื้อเสื้อตัวใหม่มาใส่ ใส่เสื้อตัวนี้ทีไรก็มักไปพบเหตุเดือดร้อนแทบทุกครั้ง

อย่างนี้ก็ถือว่าเสื้อตัวนี้เป็นกาลกิณี

แบบนี้แหละครับคือความหมายของกาลกิณีอันแท้จริง

 

ก็มีเหมือนกันในบางครั้งที่กาลกิณีมีความหมายรุนแรงถึงขั้นคอขาดบาดตาย เช่น ซื้อปืนกระบอกใหม่มาแล้วบังเอิญมีเรื่องกับอันธพาล

เลยเอาปืนกระบอกนั้นยิงอันธพาลจนบาดเจ็บสาหัสหรือถึงกับเสียชีวิต ทำให้ตัวเองถูกจับกุมคุมขังอันเป็นโทษที่รุนแรงมาก

แต่ในกรณีอย่างนี้ดวงชาตามักจะมีสิ่งบอกถึงความรุนแรงเอาไว้ด้วย

อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการอ่านดวงชาตาของผู้พยากรณ์นั่นแหละ

กาลกิณีเป็นเพียงตัวบอกถึงวาระที่ชีวิตช่วงนั้นจะพบกับสิ่งไม่ดีเท่านั้นเอง และบางคนก็เรียกกาลกิณีนี้ว่ากาลี ซึ่งก็เป็นคำเดียวกันนั่นเอง

นอกจากที่ว่ามานี้แล้ว กาลกิณีก็อาจมีความหมายในทางให้คุณแก่ดวงชาตาด้วยก็ได้ เช่น ถ้ากานี้ไปตกในทุสถานะภพ (อริ, มรณะ, วินาศ) แล้ว ฟังดูเผินๆ เราอาจจะนึกว่าไม่ดี แต่ความจริงกลับเป็นสิ่งดี เพราะกานี้แสดงความเสียหาย (กาลกิณี) ที่จะเกิดขึ้น เมื่อกาไปตกที่ภพวินาศ มันจึงกลายเป็นกานั้นไปช่วยบ่อนทำลายความวินาศให้ลดลง อย่างที่เราเรียกกันว่า ลบบวกลบเป็นบวก หรือแสดงว่าความวินาศที่จะเกิดขึ้นถูกกาลกิณีบ่อนทำลายลง

จงจำเอาไว้ว่า เกณฑ์กาลกิณีนี้บ่งถึงความเสียหายเดือดร้อน ถ้าเกณฑ์นี้ไปตกที่ภพภูมิใด ก็หมายถึงภาวะของภพภูมินั้นมีโอกาสที่จะพบกับความเสียหายเดือดร้อน ถ้าเกณฑ์นี้ไปตกที่ทุสถานะภพ (อริ, มรณะ, วินาศ) แล้ว ก็เท่ากับเกณฑ์นี้ไปบ่อนทำลายความเสียหายที่จะเกิดขึ้น จึงนับว่าเป็นสิ่งดีแก่เจ้าชาตานั่นเอง

นี่เป็นวิธีที่นักพยากรณ์จะได้ใช้เป็นประโยชน์ในการที่จะหาผลดีร้ายที่เจ้าชาตาถาม เกณฑ์นี้ไม่ใช่เป็นเกณฑ์หักโค่นหรือปฏิเสธผลอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลานี้ชาตาของเจ้าชาตานั้นยังไม่ราบรื่นนัก ยังเป็นช่วงที่เจ้าชาตามีอุปสรรคบางอย่างอยู่บ้าง อุปสรรคอย่างไรก็ให้ดูตามภพที่กานั้นครองอยู่ว่าเป็นภพใดของลัคนา

อุปสรรคหรือความไม่ราบรื่นที่จะเกิดขึ้นก็เป็นไปตามความหมายของภพภูมินั้นแหละ ถ้าคุณอ่านและทำความเข้าใจกับสูตรนี้ให้ดี ก็จะเป็นประโยชน์แก่การพยากรณ์ของคุณได้ไม่น้อยเลย

ก็ขอจบบทเกณฑ์กาลกิณีไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ

 

เกณฑ์กาลกิณี (ระบบเลข ๗ ตัว)

 

เกณฑ์กาลกิณีนี้สามารถนำมาใช้ในระบบเลข ๗ ตัวได้ด้วย เพียงแต่ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการบ้างเล็กน้อย ซึ่งมีวิธีทำดังนี้

วิธีทำ

นับอายุเจ้าชาตาว่าเท่าใด แล้วขึ้นต้นที่ภพอัตตะเป็นหนึ่ง แล้วไล่เรื่อยไปจนถึงภพสุดท้าย (ทาสา) เป็นยี่สิบเอ็ด ถ้าอายุเกินก็วนไปนับต่อที่ภพอัตตะเป็นยี่สิบสอง แล้วไล่เรื่อยไปจนถึงทาสาเป็นสี่สิบสอง

ถ้าอายุยังเกินอยู่ก็วนไปขึ้นที่อัตตะต่อไปอีก ทำอย่างนี้ไปจนครบอายุว่าไปตกที่เลขใดฐานใดในดวงชาตา ให้ถือว่าเลขนั้นคือดาว แล้วเอากำลังของดาวกาลกิณีนั้นมาบวกกับอายุ ได้เท่าใดเอาเจ็ดหาร ลัพธ์ทิ้งไป นำเศษมากาไว้ที่เลขเดียวกันนั้นในฐานที่อายุตกอยู่

เพื่อความเข้าใจผมจะทำดวงตัวอย่างให้ดูดังนี้

 

สมมุติว่าเจ้าชาตานี้อายุ ๓๖ ปี นับไล่จากอัตตะ อายุ ๓๖ จะตกที่ภพมรณะซึ่งมีดาวศุกร์ (๖) ครองอยู่ ตรงนี้เรียกว่าจุดอายุ ต่อไปหาดาวกาลกิณีของดาวอายุซึ่งก็คือราหู (๘) ราหูมีกำลัง ๑๒ จึงเอา ๑๒+๓๖ ได้ ๔๘ เอา ๗ หารจะได้ ๖ เศษ ๖ เศษเป็นเลขใดนำกาไปวางเหนือเลขนั้นในฐานเดียวกับที่อายุตกอยู่

ตามตัวอย่างนี้อายุตกที่ภพมรณะจึงใช้ฐานที่ ๓ (ฐานปี) เป็นที่วางกา มีเศษ ๖ จึงวางกาไว้ที่เหนือดาว ๖ ในฐานที่ ๓ ซึ่งก็คือภพมรณะนั่นแหละ (ดวงนี้อายุกับกาตกที่เดียวกัน) ตามรูปที่เห็นนี้

 

เรื่องยังไม่จบแต่เนื้อที่หมดแล้ว ขออภัยที่ต้องให้คุณติดตามต่อไปในฉบับหน้า ของดีๆ มีอยู่ในนั้นเต็มไปหมดเลยครับ