การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ : ทวีปที่สาบสูญ แสงตะเกียงที่อยู่แสนไกล

ฝนหยุดตกหรือยัง…ยังสิ ยังมีเสียงเปาะแปะบนหลังคาอยู่เลย

พร้อมกันนั้น ก็มีความเย็นฉ่ำชื่นลอดผ่านช่องไม้กระดานเข้ามา ราวว่าค่ำคืนกำลังตกอยู่ในมนต์ขลัง

หากออกไปที่ชานเรือน เราคงจะมองไม่เห็นอะไร แต่ฉันก็นึกรู้ว่า ในหลายครั้งคราว มีกลุ่มดาวซ่อนอยู่หลังเมฆฝน บางจังหวะที่ตาคอยจ้องมอง เราอาจเห็นประกายวิบวับเหล่านั้นได้

เด็กผมขอดนอนซุกอยู่ในอ้อมอก หายใจแผ่วเบา ไล้มือไปยังท่อนแขน เนื้อนิ่มราวตุ๊กตาตัวหนึ่ง

แต่นี่ไม่ใช่ตุ๊กตา…

 

“ง่วงก็หลับไปนะ”

ฉันจรดจมูกลงกับหน้าผาก ทั้งๆ ที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากไปกว่าจำได้ว่า

“พวกมัน” มักจะทำเช่นนั้น

มีการขยับตัวเบาๆ แล้ววงหน้าที่ยังขาวผ่องในแสงสลัว ก็เงยขึ้นจนเกือบชนคาง

“พี่ยังไม่ง่วงเหรอ”

ฉันยังไม่ตอบในทันที ดูเหมือนเป็นสิ่งที่เคยชินไปแล้วว่า ควรจะตอบว่าอะไร

ฉันง่วงไหม…ถามตัวเอง ก็ยังไม่

หากปากตอบออกไป

“ง่วงแล้วเหมือนกัน”

“งั้นก็นอนนะคะ”

“อือ”

แขนนิ่มพาดเข้ามา และกอดรัดแน่นเข้าอีก

“ปิมรักพี่จังเลย รักที่สุด”

 

“พี่จะไปไหน!”

ปิมปาผุดลุกขึ้นจากสะลี ใบหน้างุนงงและเต็มไปด้วยความหวั่นไหว เมื่อจู่ๆ ฉันลุกพรวดขึ้นฉับพลัน ผลักคู่นอน แล้วเลิกชายมุ้งจะออกไป

“อย่ายุ่ง”

“พี่!”

เด็กหญิงร้องอย่างตกใจ และยิ่งฉันยังคงจะมุดตัวออก ก็รีบลนลานเข้ามาคว้าแขนไว้

“พี่เป็นอะไร!”

ฉันนิ่งอยู่ในท่านั้น ทอดระยะเวลาให้เนิ่นนาน จนกระทั่งวงแขนสอดเข้ามาทางข้างหลัง และน้องสาวของรอยก็เกลือกใบหน้าเข้าหา

รู้ได้ทันทีว่า น้ำตาเริ่มหยาดอีกแล้ว

“ปิมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ…พี่โกรธปิมเรื่องอะไร”

“…พี่ไม่ชอบ”

“ไม่ชอบ? ไม่ชอบเรื่องอะไรคะ”

ในความมืด เสียงฝนดังกราวอีกขึ้นเป็นครั้งคราว ฉันสลัดตัว เด็กผมขอดยิ่งรัดตัวแนบแน่นเข้ามามากขึ้น

“พี่บอกปิม…บอกปิมสิคะ!”

ฉันถอนหายใจแรงๆ อย่างตั้งใจให้เด็กหญิงได้ยินถนัดถนี่

“พี่ไม่ชอบให้ปิมพูดเกี่ยวกับความรัก”

“ทะ…ทำไมคะ”

เสียงของเด็กหญิงสั่น

“ปิมยังไม่รู้จักสักหน่อยว่าความรักคืออะไร!”

“…ปิม…ก็ปิมรู้ว่าตัวเองรักพี่ไงคะ”

“นั่นละ พี่ไม่ชอบ!”

 

เด็กหญิงกอดฉันจนแนบแน่น อ้อมแขนรัดแรงอย่างสะทกสะท้านใจ ไม่เท่านั้น น้ำตายังซึมออกมาไม่หยุดหย่อน จนเปื้อนเสื้อนุ่งนอน ชุ่มซึมเข้าถึงผิวเนื้อแผ่นหลัง แต่มันยังไม่เพียงพอ

“พี่จะให้ปิมทำยังไงคะ!”

ทิ้งเวลาอีกครู่ใหญ่ จึงค่อยหมุนตัวกลับไปหา

ในแสงสลัว เห็นแววตาแฝงความตื่นตระหนก ความกลัว จนแทบเหมือนใกล้จะขาดใจ

ฉันยื่นมือออกไปลูบเบาๆ บนแก้มนวล

“ปิมแค่ไม่ต้องทำอะไร จนกว่าพี่จะเป็นคนบอกว่าอยากให้ปิมทำอะไร”

“…แต่เรื่องความรัก…”

“ปิมอย่าพูดถึงมันอีก ห้ามเอ่ยมันออกมา ปิมก็รู้ไม่ใช่หรือว่าถ้าใครได้ยินเข้า…”

“ก็ตอนนี้เราอยู่กันสองคน”

“หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง” ฉันบอกกับเด็กหญิง และจ้องลึกเข้าไปในตา “นอกจากเสียงครางแล้ว พี่ไม่ชอบให้ปิมพูดอะไร”

“พะ…พี่”

“ปิมยังไม่รู้หรอก ความรักคืออะไร”

“ปิมรักพี่!”

“ยังจะพูดอีก!”

“…ปิม…ระ…” เด็กหญิงกลืนคำพูดหายเข้าลำคอไปอย่างพยายามข่มกลั้นตัวเอง

“ดีมาก อย่าพูดจนกว่าพี่จะบอกให้พูด”

“…ค่ะ”

แผ่วเบาราวยอมจำนน

ฉันค่อยๆ ยกริมปากขึ้น เปิดยิ้ม เคลื่อนเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม คราวนี้ใช้สองมือประคองใบหน้า พูดเบาๆ

“ถ้าเชื่อฟังพี่…ปิมจะมีความสุขอย่างที่ปิมอยากได้”

 

เด็กหญิงสะอื้นฮัก น้ำตายังคงไหลออกมาจนชุ่มนอง ทว่าก็เจือปนไปด้วยความสุขที่หวนคืนมา

ฉันรู้สึกดีเสียจริงๆ ที่เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมง กับบทละครเสกสรรค์ปั้นแต่ง ก็ทำให้เด็กผมขอดกลัวฉันสุดใจ

และยิ่งกว่าความกลัวใดๆ เด็กหญิงหวาดหวั่นขวัญหาย กลัวจะไม่ได้รับความใส่ใจจากฉันอีก

ดี!

มันจะต้องดีได้ยิ่งกว่านี้

เวลาที่ฉันไม่ต้องเป็นฝ่ายรอคอยใคร

ไม่ใช่คนที่จะต้องหวั่นหวาดขลาดเขลา

ไม่ใช่คนโง่เง่าอีกต่อไป

 

[ในโลกใบนี้ที่ต้องอยู่

ทุกช่องประตูล้วนพาเราไปสู่สนาม

เข้มข้นบนสงคราม

อัปลักษณ์กับเลวทรามชิงชัยกัน

ปราศจากกติกา

ฉันรู้แล้วว่าไม่มีขีดคั่น

หากอยากขึ้นสวรรค์

มีแค่จะถากบั่นหรือเหยียบขึ้นขั้นบันได

ลืมเสียเถิดสิ่งสวยงาม

อย่าหวังจะลิดสิ้นหนามไหน่

เมื่อทุกถนนบนทางไป

มีแต่กองไฟเสมอมา

ปวงเปลวที่แลบเลีย

ไหม้เสียเสมือนว่า

นรกที่ชั่วช้า

ขนาบทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

ในโลกที่เราต้องอยู่

ในโพรงรูทุเรศทุรัง…]

 

“นอนเถอะ คนดี”

ฉันส่งจูบให้อีกครั้ง สัมผัสผะแผ่วบนแก้ม แน่ใจว่า นั่นจะทำให้เด็กหญิงรีบปิดเปลือกตา

แล้วน้ำตาก็จะเหือดหาย

“แค่จำไว้ ให้ฟังคำสั่งพี่”

ร่างนุ่มอ่อนขยับตัวในทันที อ้าวงแขนกอดรัดฉันอีก และซุกหน้าแทบว่าจะจมหายเข้าไปในอก นั่นคือคำตอบของสิ่งทั้งปวง

ในดวงใจของเด็กหญิง ขณะนี้ ฉันย่อมเป็นสิ่งที่พิเศษสูงค่าของเธอ

ในดวงใจของเธอ จะจดจำเพียงสัมผัสและการบอกกล่าวของฉัน

ส่วนในดวงใจของฉัน เพียงกำลังจดจำช้าๆ ตามรอยของสิ่งที่เคยผ่านมา ฉันแค่อยากรู้เหมือนกันว่า เวลาที่ทุกๆ คนกระทำกับฉัน มันคือความรู้สึกอย่างไร

ใช่อย่างที่กำลังรู้สึกอยู่ไหม

เหมือนจะพองอัดขึ้นมาได้ กับชัยชนะเหนือคู่ร่วมสะลี

แต่ก็คล้าย…จะมีวับแวมริบหรี่

ของ…

แสงตะเกียงที่อยู่แสนไกล…ไกลจนหนาวยะเยือกภายใน ท่ามเสียงฝนพึมพำเหนือหลังคาบ้าน