กาละแมร์ พัชรศรี : ภายใต้ความคู่จิ้น

เพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกันเป็นเวลานาน บางครั้งเราก็เจอเขามากกว่าญาติในครอบครัว และบางครั้งเขาก็เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน

“น้าเน็ก” ที่คนทั้งประเทศและนอกประเทศหลายๆ ประเทศรู้จักเขา

หลายคนบอกว่าเราเป็น “คู่จิ้น” และอีกหลายคนบอกให้เป็น “คู่จริง”

เราทำงานเหมือนไม่ทำงาน จนไม่รู้เลยว่าคนที่ดูรู้สึกอย่างไร มารู้อีกทีก็เวลาที่ไปไหนมาไหนแล้วคนถามว่า “น้าเน็กไม่มาเหรอ” ส่วนทางน้าเน็กก็โดนนะว่า “กาละแมร์ไม่มาด้วยเหรอ”

ซึ่งการตอบโต้ของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ฉันก็บอกไปว่า “อยู่คนละบ้านค่ะ”

ส่วนน้าเน็กจะตอบว่า “อ๋อ กาละแมร์ซักผ้าอยู่!!”

หลายคนจะขำ แต่ก็มีบางคนไม่ขำ และตอบกลับว่า…

“อ้าว ทำไมไปให้เขาทำอย่างนั้น เราทำงานได้เงินขนาดนี้ ทำไมไม่ไปจ้างเขาซัก”

และที่น่าแปลกใจคือคนที่เขามาทักมักเป็นคนรุ่นพ่อแม่เรา ที่ชอบดูรายการ Take me out Thailand

 

เราทำหน้าที่พิธีกรรายการนี้ด้วยกันมาหลายปีแล้ว รู้จังหวะ รู้ทาง รู้มุข รู้ใจ (เพราะบางทีก็พูดมุขออกมาพร้อมกัน) และรู้ว่าอีกคนรู้สึกอะไรอยู่เวลาทำงาน

ฉันเคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า ทำงานกับน้าเน็กแล้วเหมือนเจอคนที่เต้นด้วยแล้วสนุก รู้ว่าเขาจะมาทางไหน รู้ว่าเราต้องทำอย่างไร รู้ว่าเวลานี้จังหวะไหน รู้ว่าต้องเร็ว รู้ว่าผ่อน

และรู้ว่าเขาไม่มีทางทิ้งเรากลางทาง มันจึงเป็นการเต้นที่สนุกอยู่เสมอ

รายการนี้ไม่มีสคริปต์ จำได้ว่าเคยมีสคริปต์พิธีกรในช่วงแรกๆ แต่เราก็ไม่ได้อ่านมันเลยตั้งแต่การอัดครั้งที่ 3-4 มีโปรดิวเซอร์มาสรุปเกมและบอกรายละเอียดหนุ่มโสด สาวโสด แค่นั้นเอง

ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเรา

และระหว่างฉันกับน้าเน็ก เราก็ไม่เคยรู้เลยว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร มีบางมุขเท่านั้นที่เราเล่นกันก่อนจะทำงานแล้วมันตลกมาก เราเลยเอามันมาเล่นอีกครั้งบนเวที

นอกนั้นเราไม่รู้เลยว่า เปิดรายการเขาจะพูดอะไร ความสนุกมันจึงอยู่ที่เราคาดเดาอะไรไม่ได้นั่นแหละ

เมื่อเกมเริ่ม ทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น…

 

วันก่อน น้าเน็กให้น้องที่รู้จักกันมาดูงาน เขาอยากปั้นเด็กให้เป็นพิธีกรให้เก่งขึ้น เลยพามาเพื่อศึกษาและแนะนำงาน ซึ่งที่ผ่านมา เขาแทบไม่เคยพาใครมาดูงานแบบใกล้ชิดอย่างนี้

น้องคนนี้เคยทำงานพิธีกรอีเวนต์ร่วมกับฉันครั้งหนึ่ง เขาเป็นพิธีกรที่เก่ง นิสัยดี น่ารัก ตอนที่เราเบรกถ่ายรายการ เราคุยกันเรื่องการทำงาน

ฉันบอกเขาว่า ทำงานกับน้าเน็กนั้นสนุกและเขาก็เป็นคนเก่ง เราเรียนรู้อะไรจากเขาเยอะ และวิธีทำงานกับเขาก็คือ เรารู้ว่าเขาเป็นผู้เล่นแบบไหน เรารู้ว่าเขาจะมาทางไหน ให้เขาได้เล่นในแบบที่เขาชอบ เขาเป็น อย่างมาแรกๆ เขาบอกเลยว่า “ผมไม่ค่อยถนัดทำพิธีกรคู่ ผมชอบทำพิธีกรเดี่ยว”

เอ่อ…กรูคิดในใจ เออมรึงทำคนเดียวไปเลย แล้วเอาเงินให้กรูด้วย (ล้อเล่น)

เราก็ให้เขาทำอย่างที่เขาอยากทำ เราเป็นคนที่ปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์ เราทำงานได้กับทุกคน เพียงแต่ถ้าคนไหนไม่ได้จริงๆ เราก็แค่ไม่สนิทด้วยเท่านั้น ไม่ตีกับใคร

อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ

 

สําหรับน้าเน็กนั้น เขาเป็นคนเก่ง เขาเป็นตัวของเขาเอง ดังนั้น เราให้เขาทำอย่างที่ต้องการ

ส่วนเราจะเป็นซัพพอร์ตเตอร์ที่ดี และตีกลับอย่างรวดเร็ว ให้เขาสนุกและสบายใจ ไม่เป็นภาระ ไม่ต้องโอบอุ้ม ไม่ต้องคอยส่งอะไรให้ ไม่ต้องกังวล ให้เขาเป็นตัวของตัวเองเต็มที่

เดี๋ยวเรามีช่อง มีทางของตัวเองแบบที่ไม่ไปทับ line ของเขา ไม่แย่งเขา ไม่แข่งกับเขา แต่เรามีทางของเรา และเล่นรับส่งกับเขาแบบกลมกลืน

เราชอบเขาในแบบที่เขาเป็นเขา ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องคิดแก่งแย่ง ไม่คิดว่าใครต้องเด่น ต้องดี ต้องเก่งกว่าใคร เพราะเราเป็นทีม

นี่คืองานศิลปะ ทำไปเรื่อยๆ ศึกษา สังเกต เข้าอกเข้าใจ มันจะดีขึ้นเอง

 

นอกจากชีวิตการทำงานบนเวทีของเราจะเหมือนฟลอร์เต้นรำแล้ว ชีวิตจริงที่เราสัมพันธ์กัน มันก็เอื้ออาทร เข้าอกเข้าใจ พร้อมรับฟัง พร้อมช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน

เราสามารถเล่าเรื่องให้อีกฝ่ายได้แทบทุกเรื่อง การงาน ความรัก ครอบครัว ส่วนตัว เวลากินข้าวจึงเป็นเวลาที่เราชอบมาอัพเดตชีวิตกันเสมอ ว่าระหว่างที่เราไม่ได้เจอกัน เราไปทำอะไรกันมาบ้าง

เราหัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ให้กำลังใจกัน ปลอบใจกัน

ล่าสุดที่อัดรายการด้วยกัน น้าเน็กบอกว่าเหนื่อยหลายครั้ง แถมบ่นว่า แก่ๆๆ แล้วไหนยังรองเท้าบีบด้วยเลยเจ็บ เพราะในอาทิตย์นั้นเขาอัดรายการยาวๆ หลายวันแล้ว

ในเทปท้ายๆ ฉันจึงต้องดีดตัวขึ้นมา ทำเหนื่อยอ่อนไม่ได้ บางทีฉันจะร้องงอแง แต่คราวนี้เราทำไม่ได้ เราต้องเชียร์อัพเขา ให้กำลังใจ ทำร่าเริง สนุกสนานไป

ไม่มีใครรู้ว่าเวลาที่เราอยู่ในกระสวยก่อนที่เปิดรายการเราคุยอะไรกัน มันมีหลายๆ คำพูดอยู่ในนั้น ทั้งกำลังใจ ทั้งความเอื้ออาทร ทั้งพลังงานดีๆ ที่ถ่ายทอดให้กัน เมื่อกระสวยถูกเปิดขึ้น มันเหมือนสัญญาณปล่อยตัวให้เราได้ออกไปทำหน้าที่มอบความสุข สนุกสนานให้ผู้คน

และเรารู้เสมอว่าจะมีอีกคนเคียงข้างเสมอ…

เป็นเกียรติเสมอที่ได้ทำงานกับพ่อจ้ะ