รายงานพิเศษ/’บิ๊กป้อม’ ส่งสัญญาณ จัดโผส่งท้าย คสช. ‘บิ๊กแดง-บิ๊กบี้’ เข้าวิน วงศ์เทวัญ ‘สายพันธุ์เป๊ะ’ ‘บิ๊กกบ-บิ๊กต่าย’ ใจชื้น และความเงียบงันของบ้านสี่เสาฯ

รายงานพิเศษ

‘บิ๊กป้อม’ ส่งสัญญาณ จัดโผส่งท้าย คสช.

‘บิ๊กแดง-บิ๊กบี้’ เข้าวิน

วงศ์เทวัญ ‘สายพันธุ์เป๊ะ’

‘บิ๊กกบ-บิ๊กต่าย’ ใจชื้น

และความเงียบงันของบ้านสี่เสาฯ

 

กองทัพเข้าสู่โหมดของการแต่งตั้งโยกย้ายทหารนายพลครั้งใหญ่ เพราะ ผบ.เหล่าทัพมีการจัดโผโยกย้ายของแต่ละเหล่าทัพกันแล้ว

ทั้งนี้ บิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทหารสูงสุด ได้หารือ ผบ.เหล่าทัพ เรื่องการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายทหารปลายปีกันแล้ว โดยมีกำหนดเสร็จโผแรกในกลางเดือนกรกฎาคมนี้

โดยมีการหารือกันในเบื้องต้นแล้วว่า ใครจะเป็นตำแหน่งอะไร

ส่วนคนที่ไม่ได้ตำแหน่ง จะได้ถูกส่งชื่อไปที่ บก.กองทัพไทย

ทั้งนี้ บิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร จะขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด โดยมีบิ๊กนะ พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด รอง เสธ.ทหาร ขึ้นเป็นเสนาธิการทหาร

บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เปิดศักราชทหารวงศ์เทวัญที่กลับมาคุมกองทัพบก ยึดเก้าอี้ ผบ.ทบ. หลังจากที่นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ เป็น ผบ.ทบ. ต่อเนื่อง ตั้งแต่บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มาบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ก่อนที่จะถึงบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ที่เป็น ผบ.ทบ. จากทหารรบพิเศษ

และถือเป็นการนับ 1 ของทหารสายวงศ์เทวัญ ที่มีสถานะพิเศษ ที่ได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี
พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

 

ไม่ว่าจะเกิดกระแสข่าวลือใดๆ แต่ พล.อ.อภิรัชต์ ก็นิ่ง และทำงานในหน้าที่สำคัญต่อไปตามปกติ หลังจากที่ผ่านหลักสูตรการฝึกสำคัญและได้สัญลักษณ์สำคัญมาแล้ว

ขณะที่บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จะยังคงทำหน้าที่ เสธ.ทบ. คู่ใจให้ พล.อ.อภิรัชต์ เพื่อน ตท.20 ต่อไป

และต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ณัฐพลยังมีอายุราชการถึงกันยายน 2564 จึงสามารถที่จะเป็น ผบ.ทบ. ต่อได้

โดยบิ๊กอ้อม พล.อ.วีรชัย อินทุโศภน ผช.ผบ.ทบ. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราพลเอกพิเศษ หรืออัตราจอมพลเดิม ที่เพิ่งถูกยกเลิกไป

ส่วนเก้าอี้ ผช.ผบ.ทบ. อีกเก้าอี้หนึ่งนั้นมีแคนดิเดตที่ชิงกันอย่างเข้มข้น ทั้งบิ๊กแบล็ค พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ทหารอีสานน้องรักของ พล.อ.ประวิตร และบิ๊กตี๋ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3

จึงทำให้บิ๊กนัย พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) ที่เป็นรุ่นน้อง ตท.21 เสียเปรียบ อาจจะต้องรอไปก่อน

อีกทั้ง พล.ท.สุนัยมีอายุราชการถึงกันยายน 2563 พร้อม พล.อ.อภิรัชต์ จึงทำให้โอกาสที่จะลุ้นเป็น ผบ.ทบ. จึงน้อยลง ยกเว้นในอนาคตอันใกล้มีการขยายอายุเกษียณราชการ จาก 60 ปี เป็น 63 ปี

ขณะที่บิ๊กตู่ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ของ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. อีกเก้าอี้หนึ่ง แม้จะไม่มีโอกาสลุ้นเป็น ผบ.ทบ. เพราะเกษียณกันยายน 2563 พร้อม พล.อ.อภิรัชต์ เพื่อน ตท.20 ก็ตาม แต่อนาคตก็ไม่มีอะไรแน่นอน

แต่ที่แน่ๆ คือ บิ๊กบี้ พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รองแม่ทัพภาคที่ 1 นายทหารสายวงศ์เทวัญ ที่เดินตามรอยเท้า พล.อ.อภิรัชต์ ก็จะขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แบบฉลุย และเชื่อกันว่า เตรียมจ่อขึ้น 5 เสือ ทบ. และเป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์

อันจะเป็นการแจ้งเกิดของทหารวงศ์เทวัญ สายพันธุ์ใหม่ หรือเรียกว่าเป็นสายพันธุ์ “เป๊ะ” ที่จะได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในกองทัพบก เป็นเหล่าทัพแรก อันจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนบทบาทของกองทัพ โดยเฉพาะ ทบ. เรื่อยไป

 

ขณะที่กองทัพเรือนั้น บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. ที่จะเกษียณ จะเสนอชื่อบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2563

แต่ก็มีข่าวสะพัดว่า อาจถูกบิ๊กตุ๋ย พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ์ เสธ.ทร. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.18 อาจแซงโค้ง แถวบ้าน ร.1 รอ.

จะเห็นได้ว่า ในระยะหลังๆ นี้ พล.ร.อ.พิเชฐ ดูมีความหวังอย่างมาก และเร่งสร้างผลงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ร่วมคณะ พล.อ.ประวิตรไปเยือนสหรัฐอเมริกามา

พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน
พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม

 

ขณะที่กองทัพอากาศนั้น ชื่อของบิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผช.ผบ.ทอ. กลับมาเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รับการเสนอชื่อจากบิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ที่จะเกษียณ เพราะถือว่ามีความชอบธรรม และเติบโตมาตามลำดับ แบบที่เรียกว่า เส้นทางเหล็กของเสืออากาศ

โดยคาดกันว่า บิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม เสธ.ทอ. จะถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป เพราะเกษียณกันยายน 2563

แต่กระนั้น ตามประสาทหาร ย่อมเป็นที่รู้กันดีว่า ตราบใดที่โผยังไม่ประกาศออกมา ทุกคนก็ยังคงมีความหวัง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ให้แนวทางในการจัดทำโผโยกย้ายทหารปลายปีกับ ผบ.เหล่าทัพ ในเบื้องต้นแล้ว และกำชับในเรื่องขั้นตอน เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล เพราะหวั่นเกิดปัญหาการวิ่งเต้นต่อสู้กัน

พล.อ.ประวิตรมีการพูดคุยหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ทุกเช้าวันศุกร์ ที่มีประเพณี “กินข้าวบ้านพี่ป้อม” ที่ทั้งปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพจะมารับประทานอาหารเช้ากันที่บ้านพัก ร.1 รอ. ที่เป็นมูลนิธิป่ารอยต่อฯ กันตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ส่วนตำแหน่งปลัดกลาโหมนั้น บิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกลาโหม ลูกเลิฟของ พล.อ.ประวิตร ก็จะขึ้นเป็นปลัดกลาโหมเลย แม้จะเกษียณกันยายน 2564 ก็ตาม

ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐเป็นเพื่อน ตท.20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.ท.กู้เกียรติ

พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา
พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ์

 

การจัดโผโยกย้ายทหารครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาล คสช.และของ พล.อ.ประวิตร ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า เพราะหากเลือกตั้งไม่ใช่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่เลื่อนเป็น 28 มีนาคม หรือ 28 เมษายน หรือ 5 พฤษภาคม 2562 พล.อ.ประวิตรก็จะได้จัดโผทหารกลางปีเป็นการส่งท้ายจริงๆ อีกครั้งหนึ่ง

แต่ภาพรวมกองทัพก็ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรก็จะสามารถคุมอำนาจกองทัพได้อย่างเบ็ดเสร็จ เช่นที่เคยเป็นมาในช่วงหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนมาถึง 22 พฤษภาคม 2557

เพื่อที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้ลงสู่ถนนสายการเมืองแบบเดินหน้าโดยไม่ต้องพะวงหลัง ห่วงว่ากองทัพจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ และไม่ต้องกลัวการถูกปฏิวัติล้มล้างอำนาจ

ตรงกันข้าม จะมีกองทัพเป็นเครื่องมือสำคัญ แม้แต่การปฏิวัติซ้ำหรือปฏิวัติตัวเอง เมื่อจำเป็น

ด้วยเพราะ พล.อ.ประยุทธ์นั้นพร้อมที่จะลงสู่ถนนสายการเมืองแล้ว หลังมีการตรวจเช็กสัญญาณต่างๆ ในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

รวมทั้งการประกาศว่า ให้คนไทยทุกคน ทุกฝ่าย ร่วมกันสร้างบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ เพื่อเตรียมการไปสู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่จะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้ง

อีกทั้งการเปิดเผยว่า “ร.10 รับสั่งกับผมว่า ทรงอยากให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีระเบียบวินัย อย่าให้เกิดเรื่องแบบเดิมๆ น่าอายต่างชาติเขา”

รวมทั้งการที่ พล.อ.ประวิตรได้หารือกับตัวแทน 74 พรรคการเมืองเรื่องการคลายล็อกนั้น พล.อ.ประวิตรก็ระบุว่า มีความพอใจที่นักการเมืองเข้าใจ คุยรู้เรื่องดี เข้าใจ บรรยากาศดี เป็นสัญญาณที่ดี นำไปสู่ความปรองดอง

แม้ว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง จะได้ระบุว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ปัจจัยหนึ่งจะต้องดูด้วยว่า พระราชพิธีสำคัญจะผ่านไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่

“ไม่มีอะไร ไม่มีความเคลื่อนไหว เราจะต้องทำให้เกิดความสงบไปจนถึงวันเลือกตั้ง” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ดังนั้น รัฐบาลและ คสช.จึงเดินหน้าสู่การจัดพระราชพิธีสำคัญ และต่อด้วยการเลือกตั้ง

 

ขณะที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ยังคงเงียบสงบ หลังจากที่มีรายงานว่า ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ วัย 97 ปี ไม่สบาย เป็นระยะๆ ทั้งปวดศีรษะและเป็นไข้ แม้จะไม่ได้หนักหนาขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ก็ทำให้ พล.อ.เปรมงดการออกงานต่างๆ

บางครั้งก็ไม่ได้ไปร่วมประชุมคณะองคมนตรี ที่ประชุมกันทุกวันอังคาร ที่ทำเนียบวังสราญรมย์ โดยมอบให้บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ลูกป๋า ทำหน้าที่แทน

ทั้งนี้ ลูกป๋าเผยว่า พล.อ.เปรมไม่ได้ป่วยหนักอะไร แต่ก็มีแพทย์มาตรวจร่างกายเป็นระยะๆ ที่บ้าน และต้องพยายามดูแลป๋าเวลาไปงานต่างๆ หากต้องเดินไกล ก็จะให้ป๋าเปรมนั่งรถเข็น แต่ทว่า พล.อ.เปรมยังคงเดินได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผบ.ทหารสูงสุดเมียนมา ที่เดินทางมาเยือนไทย และต้องการเข้าพบ พล.อ.เปรม ในฐานะลูกบุญธรรม เช่นที่เคยมาหาทุกครั้งที่มาเมืองไทย แต่ปรากฏว่า มาครั้งนี้ไม่ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม เพราะ พล.อ.เปรมป่วย จึงไม่อยากจะรับแขก และเกรงว่า พล.อ.มิน อ่อง หล่าย จะป่วยไปด้วย

พล.อ.เปรมที่จะมีอายุเกือบร้อยปีแล้วยังคงพำนักในบ้านสี่เสาฯ คอยมองดูความเป็นไปของบ้านเมืองอย่างเงียบๆ

พร้อมๆ กับการเป็นแรงใจและกองหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ในการดูแลชาติบ้านเมืองต่อไป

และพร้อมๆ กับการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะตามมา…