ปี2573จะมีผู้สูงอายุมากกว่า1ใน4ของประชากร ตั้งงบประมาณดูแลทะลุหลัก 3 แสนล้าน!

กระทรวงการคลังได้ประเมินสถานการณ์ผู้สูงอายุว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุในระยะไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า

โดยปัจจุบัน ผู้สูงอายุมีสัดส่วนราวร้อยละ 14-15

ส่วนในปี 2563 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 17.5 ในปี 2568 เพิ่มเป็นร้อยละ 21.2 และในปี 2573 จะขยับเพิ่มเป็นร้อยละ 25.2 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด

โดยประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุมาตั้งแต่ปี 2550

เมื่อพิจารณารายได้หลังเกษียณของผู้สูงอายุ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่เพียงพอ

โดยกลุ่มข้าราชการจะมีอัตรส่วนรายได้หลังเกษียณต่อรายได้ก่อนเกษียณเฉลี่ยร้อยละ 70 ผู้ประกันตนจะมีรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยร้อยละ 40 ของรายได้ก่อนเกษียณ ส่วนแรงงานนอกระบบมีรายได้ไม่เพียงพอเนื่องจากไม่มีการออมที่เหมาะสม

ทั้งนี้ รายได้หลังเกษียณที่เพียงพอจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 50-60 ของรายได้ก่อนเกษียณ

ผลกระทบต่อภาระการคลังนั้น ในปีงบประมาณ 2557 งบประมาณด้านสวัสดิการสังคมกรณีชราภาพอยู่ที่ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 ของจีดีพี และมีแนวโน้มเพิ่มเป็นประมาณ 7 แสนล้านบาท หรือราวร้อยละ 3 ของจีดีพีในระยะไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นภาระบำเหน็จบำนาญประมาณ 4.7 แสนล้านบาท เบี้ยยังชีพคนชรา 9 หมื่นล้านบาท กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 0.9 หมื่นล้านบาท ประกันสังคม 2.3 หมื่นล้านบาท และ กอช. 1 หมื่นล้านบาท

การที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุนอกจากผลกระทบที่จะมีต่องบประมาณที่จะรองรับการดูแลคนชราแล้ว ยังจะมีผลกระทบต่อฐานการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลด้วย เพราะวัยแรงงานจะน้อยลง

กระทรวงการคลังอาจจำเป็นต้องพิจารณาโครงสร้างภาษีที่เหมาะสมเพื่อรองรับสังคมสูงอายุด้วย