ดาว 24 มิ.ย. “หม่น” : โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

———————

ดาว 24 มิ.ย. “หม่น”

———————

อีก 14 ปี จะครบ 100 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นประชาธิปไตย

ที่พูดไปถึงอนาคตเสียไกล

ทั้งที่เราเพิ่งมาถึง 86 ปี ของ 24 มิถุนายน 2475ในปีนี้

ว่าที่จริง ไม่ไกลเลย

เนื่องเพราะ รัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีเนื้อหา”สำคัญ”ผูกมัดไปถึง100ปีนั้น

นั่นก็คือ”ยุทธศาสตร์ของชาติ” 20 ปี

ซึ่งหากมีการเลือกตั้งขึ้นจริง ในปี 2562

รัฐบาลใหม่ ย่อมมีภาระผูกพันที่จะต้องเดินตามยุทธศาสตร์ ที่รัฐบาลทหารร่วมวางไว้ ไปถึง 2562+20 =2582

เกิน ร้อยปี แห่งการเปลี่ยนแปลงการ 24 มิถุนายน 2475 ในปีพ.ศ. 2574 ไปอีกหลายปี

นั่นก็หมายความว่า แม้จะผ่าน 100 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงการไปสู่ประชาธิปไตย

ประเทศไทยก็ยังต้องตกอยู่ใน”พันธะ”ของวงจรการปฏิวัติรัฐประหารอยู่เช่นเดิม

แม้ ตอนนี้ จะมีพรรคอนาคตใหม่ ประกาศ “สร้างดาว”ดวงใหม่

ด้วยการ “ฉีกรัฐธรรมนูญ 2560”

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะอย่างที่ทราบ “กลุ่มเนติบริกร”ได้ร่วมกันออกแบบ ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ยากถึงยากที่สุด

วางกลไก ปกป้อง รัฐธรรมนูญ ปี 2560 อย่างซับซ้อน

และพร้อมจะก่อวิกฤตให้เกิดกับประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา

ซึ่ง ตรงนี้เป็น จุดที่ คนไทยส่วนใหญ่เบื่อหน่าย

ที่ไม่อยากมีวิกฤตการณ์เมืองเกิดขึ้นอีก

พากันรู้สึก ว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ เอาไว้ก่อนได้ไหม เพราะเราเสียเวลากันมันมามากแล้ว สู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

ความรู้สึกเช่นนี้เอง ทำให้มีโอกาสสูง ที่เราจะต้องมาเถียงเรื่อง รัฐธรรมนูญ เป็นประชาธิปไตย หรือไม่เป็น ในวาระ 100 ปี 24 มิถุนายน 2475

ดังนั้น การพูดถึง 100 ปี 24 มิถุนายน จึงไม่ใช่ เรื่องที่ไกลเลย

ที่สำคัญไม่ใช่เกี่ยวเนื่องเฉพาะ”รัฐธรรมนูญ”เท่านั้น

สิ่งที่เราได้ฟังกันจนเอียน คือ เรื่อง”ปฏิรูป” เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหน

“ธงปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง” มีคนเก็บเข้าลิ้นชักไปแล้วแบบอายๆ

เพราะไม่เห็นมีอะไร ที่เป็นการปฏิรูปเลย

ตรงกันข้าม คนที่เคยเรียกร้องการปฏิรูปอย่างเอาเป็นเอาตาย จะโดยรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม ได้ไปช่วยปูทางให้ มี “ปฏิวัติ” ไม่ใช่ปฏิรูป แล้ว

ในวันนี้ ยังไปช่วย กลุ่มคณะปฏิวัติ ร่วมกัน สืบทอดอำนาจ ออกไป “นาน-นาน”อีกด้วย

และ ที่ขำ จนขื่น “วิธีการ”ที่ช่วยกันสืบทอดนั้น คือ สิ่งที่เคยเรียกร้องให้ปฏิรูปนั่นแหละ

ไม่ต้องอื่นไกล เรากู่ตะโกนถึง การปฏิรูปการเมือง

ถามว่า วันนี้ “ปฏิรูป”อะไร นอกจากเห็นการงัดวิธีเก่าๆสนิมเกรอะมาใช้

“การดูด”อดีตส.ส. เอามาเป็นฐานเสียงเพื่อสืบทอดอำนาจ

ถูกยกเป็นวิธีการอันเยี่ยมยอด

ทั้งที่ “การดูด” เป็นพื้นฐานของ การซื้อตัวส.ส. ,การค้ำชู อุปถัมน์

ใครดื้อ หรือขัดขืน ก็อาจจะถูกข่มขู่ในเรื่องคดีความ หรือถูกบีบคั้นด้วยกลไกรัฐหรือผู้มีอิทธิพล

สิ่งเหล่านี้ ล้วนเคยเป็น”วิชามาร”ที่จะต้องถูกชะล้าง

แต่พอเอาเข้าจริง การจะสืบทอดอำนาจ หรืออยู่นานๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการดูด

ทำให้สิ่งที่เนรมิตรขึ้นอย่างไพมารี่โหวต กลายเป็นตลกร้ายในทันที

และหลังจากนี้ ก็คงมีการถกเถียงกันต่อไป เกี่ยวกับ ความเป็นธรรม ในการหาเสียง

การคงอยู่ตามอำนาจมาตรา 44 รวมถึง อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่จะทอดยาวไปจนถึงวันที่จะมีรัฐบาลใหม่

ล้วนแต่ถูกมองว่าจะนำไปสู่ ภาวะ “สีเทา”ทางการเมืองทั้งสิ้น

แน่นอน ย่อม ไม่ใช่ การปฏิรูป อย่างที่ทุกคนหวัง

และพลอยทำให้ 86 ปี 24 มิถุนายน ผ่านไปอย่างหงอยเหงา

เป็นอีกความรู้สึกสูญเปล่าของชาติ

ทั้งที่เจตนารย์ 24 มิถุนาฯ น่าจะกระตุ้นให้เรา”ฝันถึงดวงดาวประชาธิปไตย”ร่วมกัน

แต่ก็ไม่ใช่