ปกติแล้ว “แรงดึงดูดโลก” เป็นสนามพลังที่เกิดจากมวลของโลก มีแรงโน้มถ่วง “ดูด” ได้แรงกว่า “เครื่องดูดฝุ่น” ที่ใช้แรงดันอากาศ ด้วยมอเตอร์ขับลม ดูดอากาศและฝุ่นเข้าไปตามด้ามถือ ผ่านท่อยางเข้าไปในถุงเก็บ

สรุปง่ายๆ “เครื่องดูดฝุ่น” ก็คือพัดลมที่หันด้านหลังเข้ามาหาเรา และไม่สามารถใช้ใน “สุญญากาศ” ได้

คนละเผ่า คนละพันธุ์ ไม่มีพันธะเกี่ยวดองข้องแวะกันแต่อย่างใดกับ “พลังดูด” ที่กำลังบูมสนั่นลั่นทุ่งอยู่ในขณะนี้ อย่านำมาปะปนระคนกัน

“พลังดูด” ที่ว่าเยี่ยมวรยุทธ์ ผิดมนุษย์มนา นิ้งเนี้ยบเฉียบขาดกว่าหลายกิโลขีด แม้บ้านเมืองกำลังตกท้องช้าง อยู่ระหว่าง “สุญญากาศ” แต่ยังแจ๋วไปทุกองค์ประกอบ เดินสายไล่ “ดูด” ได้ไม่บันยะบันยัง ต้องบันทึกไว้บอกลูกบอกหลาน

กลับไปที่ “ข่าวฮ็อต” ที่อดีตแกนนำ “กลุ่มวังน้ำยม” ซึ่งสถาปนาชื่อกลุ่มขึ้นมาใหม่ ด้วยคนเก่า “สามมิตร” ชิงออกตัวนำร่อง ระหว่าง “สองมิตร” ประกอบด้วย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และว่าการอีกหลายกระทรวง หัวหน้ามุ้งมัชฌิมา ซ่อนไพ่อุบไต๋ไว้ “หนึ่งมิตร” แต่ผู้คนทั่วไปทราบกันดีว่า “เป็นไผ”

“สุริยะ-สมศักดิ์” พร้อมน้องเลิฟ “อนุชา นาคาศัย” อดีต ส.ส.ชัยนาท นำทีมบุกจังหวัดเลย เหยียบรัง “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

มี “นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข” ภริยา และ “นายวันชัย บุษบา” อดีต ส.ส.เลย สังกัดพรรคเพื่อไทยด้วยกันให้การต้อนรับขับสู้

หลังรับประทานอาหารร่วมกันที่ภูเรือคีรีรีสอร์ทก็เกิดข่าวลือหึ่งว่า 3 อดีต ส.ส. ถูกเกลี้ยกล่อม “ม่อยกระรอก” โยกย้ายศูนย์สังกัด ผละเพื่อไทยเข้าซบ “พลังประชารัฐ”

แม้ว่าการนำคณะบุกจังหวัดเลยของสองเพื่อนรักจากเทคโนฯ พระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จะมาในนาม “กลุ่มสามมิตร” ที่ออกตัวว่ายังไม่ได้ตัดสินใจย้ายพรรค ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

ทุกอย่างยังอยู่ระหว่างขั้นตอนเดินสายสอบถามเพื่อนสมาชิก ที่เคยร่วมงานกัน มีอุดมการณ์เดียวกัน แล้วนำแนวคิดมาแปลงโฉมเป็นนโยบาย เพื่อตัดสินใจเข้าสังกัดพรรคต่อไปในอนาคต

พร้อมกับแย้มไต๋ ด้วยไฮไลต์ของวรรคตอนที่ว่า “แนวคิดของทั่นสมศักดิ์-สุริยะ ในเบื้องต้น วิเคราะห์กันแล้วว่า รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในเรื่องของโครงสร้างมันน่าจะจบ คงเหลือแต่โครงสร้างพื้นฐานกับนโยบายที่จะเข้าถึงรากหญ้า ซึ่งนโยบายรัฐบาลนี้เริ่มออกมาให้เห็นจากฝีมือของ “คุณสมคิด” (จาตุศรีพิทักษ์)

โดยสรุปคือ แม้ไม่หงายไพ่ บอกอะไรให้ตรงๆ โต้งๆ ว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่ “คู่สนทนา” ไม่ได้หูดับ จมูกริดสีดวง ย่อมได้ยินเสียงคลื่นสาดซัด ได้กลิ่นสาหร่าย ได้ยินเสียงเรือ รู้แจ้งแทงทะลุว่า “มาชวนไปทะเล”

และระดับ “สุริยะ-สมศักดิ์” มาชวนไปล่องทะเล คงไม่นำพาไปเป็น “ตังเก” …ต้องได้กินอาหารทะเล

 

ด้วยประการดังกล่าว พูดจาเกี้ยเซียะกันยังไม่ครบสามจบ โผรายชื่ออดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร-วุฒิสมาชิก ก็ไปปรากฏแพลมโผล่เป็นหนึ่งในลูกข่าย “ผู้ถูกดูด” เข้าสังกัด “พรรคพลังประชารัฐ” เรียงร้อยเหงือกแถวยาวเป็นหางว่าว ดังที่ทราบ

นอกจาก “ปรีชา-เปล่งมณี-วันชัย” ยกพวงทั้งจังหวัดเลยแล้วนั่น

ยังมีอดีต ส.ส. อีกหลายจังหวัด ถูกคัดเกรด แบ่งคลาส แยกเข่งกันเสร็จสรรพ

โผดูดที่ถูกมือดีปล่อยออกมา ยังประกอบด้วย 1. “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” 2. “ภิรมย์ พลวิเศษ” นครราชสีมา 3. “ประสงค์ ลีลวัฒน์” 4. “ณรงค์เลิศ สุรพล” ขอนแก่น 5. “วีระศักดิ์ จีนาภักดิ์” อุบลราชธานี 6. “วิเชียร อุดมศักดิ์” 7. “บวรศักดิ์ คณาเสน” 8. “ชัยศรี กีฬา” อำนาจเจริญ 9. “ยรรยง ร่วมพัฒนา” สุรินทร์ 10. “ปัญญา ศรีปัญญา” ขอนแก่น 11. “สุชาติ ศรีสังข์” มหาสารคาม 12. “สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม” หนองบัวลำภู 13. “อมรเทพ สมหมาย” ศรีสะเกษ 14. “กล่ำคาน ปาทาน” ศรีสะเกษ 15. “เกษม มาลัยศรี” ร้อยเอ็ด 16. “สมคิด บาลไธสง” หนองคาย 17. “อรรถสิทธิ์ ทรัพย์สิทธิ์” นครพนม 18. “ยุทธพงษ์ แสงศรี” บึงกาฬ 19. “วิสันต์ เดชเสน” ยโสธร

20. “พิทยา บุญเฉลียว” ศรีสะเกษ 21. “นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล” อุดรธานี 22. “วัฒนา แก้วศิริ” ชัยภูมิ 23. “ประณต เสริฐวิชา” ร้อยเอ็ด 24. “สมศักดิ์ คุณเงิน” ขอนแก่น 25. “เฉลิมชัย อุฬารกุล” สกลนคร 26. “วัชรินทร์ ศรีสถาพร” สกลนคร 27. “บวร ภูจริต” กาฬสินธุ์ 28. “มานะ คูสกุล” นครพนม 29. “สาคร พรหมภักดี” สกลนคร 30. “ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์” นครพนม

แค่ภาคอีสาน โผ ส.ส.เก่าที่ปรากฏชื่อว่าย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ มีประมาณ 40-50 คน มาจากหลายสังกัด แต่ “เพื่อไทย” แห่นาคกันมามากที่สุด ขออภัยบางรายที่ไม่ได้เอ่ยนาม

ก้าวต่อไป “สองมิตร” ชิดใกล้ระหว่าง “สุริยะ-สมศักดิ์” จะเดินสายโชว์พลังดูดในภาคเหนืออย่างเป็นเรื่องเป็นราวอีกระลอก จึงเท่ากับว่า “พื้นที่เข้มแข็ง” ของ “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งว่ากันว่า แกร่งดุจเดียวกับผนังทองแดงกำแพงเหล็ก

ส่อเค้าเล่าอาการว่า ไม่หนักแน่น มั่นคง ดั่งคำร่ำลือเสียแล้ว ฝีมือตีแตกของ 2 ส. “สุริยะ-สมศักดิ์”

ถือว่านายแน่มาก เพราะฐานที่มั่นในภาคอีสานผูกปีมาเนิ่นนาน 3 เจเนอเรชั่นแล้วจากไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย

สู้รบปรบมือ ชนะขาดมาตลอด “อำมาตย์” ก็แล้ว “มือตบ-นกหวีด” โค่นป่าราบมาหมดแล้ว และไม่มีวี่แววว่าฝ่ายตรงข้ามจะทลายห้างได้เป็นผลสำเร็จซักกะที

แต่ตอนนี้เจอฤทธิ์เดชของ “กลุ่มสามมิตร” แม้ชื่อจะละม้ายเหมือนร้านอะไหล่จักรยานย่านเซียงกง

แต่เหลือเชื่อมากๆ กลับมีพลังสูงส่ง “เพื่อไทย” ทำท่าจะรังแตก

นำอดีต ส.ส.เก่าจากภาคอีสาน ที่แหกด่านมะขามเตี้ยมาจากเพื่อไทย มามัดเข่งรวมกับของตายที่ “ดูด” ไว้ก่อนหน้านี้จาก “ภาคกลาง” และ “เหนือตอนล่าง”

ถึงตอนนี้ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่จะสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กลับมาเป็นนายกฯ รอบ 2 ตามสูตร “คนใน”

ฝันไปไกลว่า จะได้ที่นั่ง ส.ส. 2 ระบบ จากเขตเลือกตั้ง-บัญชีรายชื่อ 100 ที่นั่งขึ้น

ฝันจะเป็นจริงหรือไม่ “ชาวบ้าน” จะเป็นผู้ตอบโจทย์