ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์
JURASSIC WORLD : FALLEN KINGDOM
‘สัตว์โลกล้านปี’
กำกับการแสดง J. A. Bayona
นำแสดง Chris Pratt Bryce Dallas Howard Rafe Spall Jeff Goldblum James Cromwell
Toby Jones Geraldine Chaplin
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียว ก็ตั้งยี่สิบห้าปีแล้วนะคะ นับแต่ครั้งแรกที่ฝูงไดโนเสาร์ออกมาเพ่นพ่านให้เราดูใน Jurassic Park (ค.ศ.1993) ฉบับดั้งเดิม ส่งผลให้วัฒนธรรมไดโนเสาร์แพร่ระบาดไปทั่วโลกจนถึงเดี๋ยวนี้
จากหนังสือขายดีของนักเขียนยอดนิยม ไมเคิล ไครตัน (Congo, Sphere, ER, Westworld) ที่ทิ้งอาชีพแพทย์มาเป็นนักเขียนเต็มตัว ซึ่งทำให้หนังสือของเขาเป็นเรื่องอิงวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่
Jurassic Park ที่มีสตีเว่น สปีลเบิร์ก เป็นผู้กำกับฯ และสร้างกระแสเปรี้ยงปร้างไปทั่วโลก จนทำให้หนังเรื่องนี้สร้างประวัติการณ์ในด้านรายได้ และครองแชมป์หนังรายได้สูงสุดอยู่หลายปี จนมาเสียตำแหน่งให้แก่ Titanic ในอีกหลายปีต่อมา
แล้วยังกวาดรางวัลด้านเทคนิคการถ่ายทำไปมากมาย ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการสรรค์สร้างสัตว์โลกล้านปีตัวมหึมาให้มาเพ่นพ่านอยู่กับคนจริงในโลกปัจจุบันอย่างสมจริงน่าตื่นตาเวลาวิ่งปุเลงๆ กันเป็นฝูง และน่าหวาดเสียวเวลาไล่ล่าเหยื่อมนุษย์
ถือเป็นต้นแบบของการถ่ายทำหนังสัตว์ประหลาดทั้งหลายต่อมาจนบัดนี้
เรื่องดั้งเดิมคือ ด้วยเงินทุนมหาศาลและจินตนาการเยี่ยงเด็กแบบวอลต์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งดิสนีย์แลนด์ มหาเศรษฐีจอห์น แฮมมอนด์ ให้การสนับสนุนการค้นคว้าทดลองตรวจสอบดีเอ็นเอของไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แต่ยังทิ้งดีเอ็นเอไว้ในตัวยุงที่กัดไดโนเสาร์แล้วบังเอิญโดนยางไม้ไหลมาหุ้มตัวไว้จนกลายเป็นซากยุงในก้อนอำพัน จากนั้นก็นำมาเพาะพันธุ์เชื่อมต่อกับดีเอ็นเอของกบ จนฟักไข่และเติบโตมาเป็นไดโนเสาร์ตัวโตๆ หลากหลายพันธุ์
ความฝันของแฮมมอนด์คือสร้างเกาะกลางมหาสมุทรให้เป็นสวนสนุกแบบโลกล้านปี ซึ่งมีไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ อยู่ในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ แต่ก็ถูกจำกัดบริเวณไว้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด
และเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ ไดโนเสาร์ทั้งหมดที่เพาะขึ้นล้วนเป็นตัวเมียทั้งนั้น เพื่อจำกัดประชากรไดโนเสาร์ให้อยู่ในจำนวนที่ควบคุมเท่านั้น
ยังไม่ทันได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมก็เกิดปัญหาขึ้น แฮมมอนด์ส่งนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำเข้าไปทดสอบ พร้อมทั้งให้หลานสาวหลานชายไปทดลองนั่งรถไฟเพื่อดูไดโนเสาร์ในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ
เจฟฟ์ โกลด์บลัม เป็น ดร.เอียน มัลคอล์ม นักคณิตศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีความอลวน (chaos theory) ที่ว่าความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจะส่งผลถึงความเปลี่ยนแปลงไม่รู้จบที่มีผลมหาศาลอย่างที่ไม่คาดคิด
และมัลคอล์มเป็นคนที่ไม่เชื่อในการเข้าไปปรับปรุงแก้ไขวิถีที่เป็นไปตามธรรมชาติแบบนี้ เนื่องจากมองเห็นอันตรายมหาศาลที่จะตามมา
ในภาคแรก ความโลภและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนเพียงไม่กี่คน ทำให้เกิดอันตรายอย่างคาดไม่ถึง และสวนสนุกแห่งนี้ต้องล้มกิจการไป เกาะอิสลานูบลาร์นอกชายฝั่งคอสตาริกา ถูกทิ้งร้างไว้
แต่แล้ว ความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ก็กลับมาใหม่ในภาคสอง ภาคสาม ภาคสี่และภาคห้าที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้
หลังจากความล้มเหลวแบบน่าตื่นเต้นลุ้นระทึกครั้งแล้วครั้งเล่า เกาะอิสลานูบลาร์ที่ยังเป็นดินแดนสัตว์โลกล้านปีอยู่ ก็เผชิญหน้ากับมหันตภัยครั้งใหม่ นั่นคือภูเขาไฟบนเกาะกำลังจะระเบิด และไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ บนเกาะตกอยู่ในอันตรายของการสูญพันธุ์อีกครั้ง
กลุ่มคนรักและรักษ์ธรรมชาติ รณรงค์ให้ทำการช่วยเหลือเหมือนช่วยสัตว์โลกชนิดหนึ่งไม่ให้สูญพันธุ์ไป
ขณะที่รัฐสภาสหรัฐเปิดอภิปรายอย่างเร่งด่วน ว่าควรช่วยรักษาพันธุ์สัตว์ให้คงอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือว่าควรปล่อยให้ธรรมชาติจัดการไปเองตามวิถีโลก
ดร.เอียน มัลคอล์ม นักทฤษฎีความอลวน ให้การว่าไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่งกับธรรมชาติ เพราะจะก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งอาจเป็นอวสานของโลกอย่างที่เรารู้จัก
ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐจึงตัดสินใจไม่ทำอะไรในกรณีนี้ ปล่อยให้ธรรมชาติจัดการกันไปเอง ถ้าไดโนเสาร์จะต้องสูญพันธุ์อีกครั้ง ก็ให้ถือว่าเป็นความต้องการของธรรมชาติไป
แต่ว่า…
ความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์กลับเข้ามาในหมู่คนบางพวกอีกครั้ง เมื่อพิสูจน์จากภาคที่แล้วว่ามนุษย์สามารถฝึกไดโนเสาร์ได้ ไดโนเสาร์จึงเป็นที่ต้องการของประเทศต่างๆ เพื่อนำไปสร้างแสนยานุภาพของตัวเอง มีความต้องการไดโนเสาร์เอาไปฝึกเพื่อใช้เป็นอาวุธต่อสู้กับข้าศึก
และขณะเดียวกันก็มีคนโลภที่จะหาประโยชน์จากสัตว์ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อโลกนี้
“บลู” ซึ่งเป็นแรปเตอร์แสนรู้ ตัวที่โอเวน เกรดี้ (คริส แพรตต์) เคยฝึกไว้ในภาคที่แล้ว และจำต้องทิ้งไว้ที่เกาะอิสลานูบลาร์ กลับมาอีกครั้ง ในขณะที่โอเวนก็ถูกตามตัวเพื่อไปค้นหา “บลู” และถูกดึงมาอยู่ในวังวนของความโลภของนักธุรกิจและทหารรับจ้าง
หนังภาคนี้ยังสืบเนื่องแนวคิดที่เริ่มไว้แต่ภาคแรก ที่ว่า “ชีวิตย่อมหาหนทางต่อไป” (Life always finds a way) ดังในภาคแรกไดโนเสาร์ถูกสร้างดีเอ็นเอมาให้เป็นตัวเมียทุกตัว เพื่อป้องกันการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ ทว่าได้รับดีเอ็นเอของกบมาเพื่อเชื่อมให้สมบูรณ์ เมื่อถึงเวลาจึงกลายเป็นสัตว์ที่มีสองเพศในตัวเช่นเดียวกับกบ
ในภาคนี้ ชีวิตก็หาหนทางต่อไปจนได้อีกนั่นแหละ
หนังมีคู่พระคู่นางคู่เดิมจากภาคสี่ (คริส แพรตต์ และไบรซ์ ดัลลาส เฮาเวิร์ด) และเด็กหญิงคนใหม่ (อิซาเบลล์ เซอร์มอน) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้แฟรนไชส์ชุดนี้จะยังอยู่ได้ต่อไป หากเรตติ้งยังดีอยู่ แม้ว่าผู้เขียนนิยาย คือไมเคิล ไครตัน จะเสียชีวิตไปตั้งแต่สิบปีที่แล้ว
สำหรับผู้เขียน เรื่องไดโนเสาร์มาชูคอเพ่นพ่านฟาดหัวฟาดหางคุกคามการอยู่รอดของมนุษย์ในยุคปัจจุบันแบบนี้ชักจะซ้ำซากเวียนวนเกินไปหน่อยแล้ว ความแปลกใหม่ของหนังภาคแรก ซึ่งสนุกเยี่ยมยอด ก็หมดรสชาติไปหมดแล้ว
ถ้าไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่านี้ ก็ไม่นึกอยากเห็นแฟรนไชส์จูราสสิกอีกแล้วค่ะ