แมลงวันในไร่ส้ม/อ่านสัญญาณเข้ม จาก ครม.สัญจร 4 จว. ‘อย่าลืมไปเลือกตั้ง’

แมลงวันในไร่ส้ม

 

อ่านสัญญาณเข้ม

จาก ครม.สัญจร 4 จว.

‘อย่าลืมไปเลือกตั้ง’

 

แม้จะยังไม่มีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวเตรียมเลือกตั้ง

แต่การเดินทางไปประชุม ครม.สัญจรที่ภาคเหนือตอนล่าง 4 จังหวัด นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และอุทัยธานี นำโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่าง 11-12 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นชัดมากขึ้นว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่นายกฯ ได้เคยยืนยันไว้

ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำรัฐบาลเดินสายไปในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่บุรีรัมย์ที่มีการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่

กระแสข่าวการดูดและดึงนักการเมืองเข้าพรรค รวมถึงการตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ประกาศยอม “ตระบัดสัตย์” สนับสนุนด้วย

และยังมีการออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2561 เปลี่ยนแปลงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบ ประกอบด้วย 1.นายสถิรพร นาคสุข นายก อบจ.ยโสธร 2.นางมลัยรัก ทองผา นายก อบจ.มุกดาหาร 3.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ 4.นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร กลับไปดำรงตำแหน่งหน้าที่ตามเดิม

ซึ่งแวดวงการเมืองเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับแผนงานการเมืองของ คสช. และพรรคการเมืองใหม่ของ คสช. ด้วย

ในการเดินทางไปประชุม ครม.สัญจรที่ภาคเหนือตอนล่าง 4 จังหวัดครั้งนี้ นอกจากพบปะประชาชนแล้ว ยังพบปะกับนักการเมือง อดีต ส.ส. ด้วยท่าทีเป็นมิตรมากขึ้น

นายกฯ เองยังเอ่ยถึงการเลือกตั้ง และเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิหลายครั้งหลายวาระด้วยกัน

 

โดยในวันที่ 11 มิถุนายน ที่หอประชุมอาคารอเนกประสงค์ อบจ.บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวบนเวที ซึ่งมีอดีต ส.ส. ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนมารอรับจำนวนมาก ตอนหนึ่งว่า

“ขอบคุณบรรดาพี่ๆ นักการเมืองทั้งหลายที่มาต้อนรับในวันนี้ด้วย ถือว่าทุกคนเป็นประชาชนด้วยกัน ผมก็ประชาชนคนหนึ่ง แต่ผมไม่มีหน้าที่เป็นประชาชนในช่วงเวลานี้ แต่ก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมรับฟังผมในวันนี้ ทั้งบรรดานักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมดที่มาในวันนี้ แม้แต่ที่มาจากจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท และลพบุรี ถ้าถามว่าทำไมถึงมา ก็เพราะว่าเชื่อมโยงถึงทางรถไฟทางคู่ตั้งแต่ลพบุรีขึ้นมา เพราะวันนี้เราต้องทำทางคู่ให้มากขึ้น ทั่วทั้งประเทศ จากเดิมที่มีเพียง 300 ถึง 400 กิโลเมตร เราต้องเพิ่มขึ้นให้ได้ 4,000 กิโลเมตร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

และอีกตอน “ดีใจที่ได้มาทำงานที่นี่ วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศ สัญญานะพี่ๆ ผมไม่โทษใคร แต่เราจะใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างไร วันนี้ผมไม่ได้มาการเมือง เพราะถ้าลงไปนั่งข้างล่าง ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน วันหน้าผมก็เข้าคูหาไปเลือกตั้ง เลือกให้ดี เลือกให้ถูก เลือกรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล และวันนี้กลับบ้านไปขอให้ทุกๆ คนไปเปิดเว็บไซต์กระทรวงต่างๆ ดู และฝากถึงข้าราชการอย่าเขียนอะไรให้เยิ่นเย้อ อย่าไปเกรงกลัวว่าผมจะมาสืบทอดอำนาจ ผมไม่ได้อยากได้อะไรเลย แต่สิ่งที่ทำวันนี้ต้องไม่เสียเปล่า อย่ามากังวลกับผมมากนัก จนไม่ได้คิดว่าพวกเราจะช่วยกันทำอะไร”

“วันนี้มีต่างประเทศเข้ามาลงทุน และผมเองก็มีโอกาสไปต่างประเทศ เขาไม่รังเกียจผม เพราะผมก็มีศักดิ์ศรีของผมเหมือนกัน ผมทำเพื่อประเทศ ผมไปและชี้แจงได้ทุกเรื่อง วันนี้ เราต้องสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศให้ได้ ถ้ายังต่อยตี บิดเบือน ว่ากล่าวกันเหมือนเดิม ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นเราในเวทีโลก และจะทำอย่างไร มันไม่ใช่แค่เรื่องประชาธิปไตยอย่างเดียว เพราะมันเป็นเรื่องของประชาชนด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายประชาชน พร้อมกับแนะนำรัฐมนตรี และพูดคุยทักทายอดีต ส.ส.

ขณะเดียวกันนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้เข้าไปพูดคุยทักทายกับกลุ่มนักการเมืองด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย ซึ่งนายสมคิดพูดคุยด้วยนานเป็นพิเศษ

นายอนุชาให้สัมภาษณ์ว่า ภายในเดือนนี้จะมีข่าวใหญ่ เมื่อถามย้ำว่าจะไปร่วมงานกับใครหรือไม่ นายอนุชาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “มีงานทำ”

และในช่วงเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษจาก อ.ชุมแสง ไปยังสถานีนครสวรรค์ เพื่อตรวจการก่อสร้างรถไฟรางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ได้ตะโกนบอกประชาชนว่า “อย่าลืมไปเลือกตั้งนะ”

 

จากนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรมเมืองสี่แคว ที่บริเวณตลาดต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้จะเห็นว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือความสงบสุขของบ้านเมือง ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นไม่ได้ จึงขอให้ทุกคนสัญญาว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบ ส่วนจะเป็นประชาธิปไตยก็เป็นไป แต่ต้องมีธรรมาภิบาลและมีรูปแบบทำงาน

และยืนยันถึงกำหนดการเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562

“ผมเองก็อยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนทุกคน อย่าคิดว่ามีอำนาจมหาศาล คดีความมากมายรอผมอยู่ แต่ทุกอย่างก็สุดแล้วแต่ เพราะเข้ามาแล้วถอยหลังไม่ได้ ขณะเดียวกันหลายคนบอกรักนายกฯ แต่ก็อยากจะเลือกตั้ง ถึงเวลาเลือกตั้งก็เลือกให้ดี และพร้อมกันแล้วหรือยัง ซึ่งการเลือกตั้งก็เป็นไปตามกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน ถ้าอยากให้ประเทศมั่นคงแข็งแรงก็ต้องไปเลือกตั้ง ถ้าไม่เลือกใครเลยก็จะได้กลับมาเหมือนเก่า การบอกไม่เลือกตั้งแล้วให้ คสช. อยู่ จะอยู่ได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องไปคิดให้ดี แล้วผมจะไปยุ่งกับการเมืองทำไมให้เมื่อย ผมไม่ยุ่ง แล้วนี่ผมไม่ได้พูดการเมือง แต่ขอเรียกว่ามาเรียนรู้ประชาธิปไตยร่วมกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

และนั่นคือ “สัญญาณ” ที่ต้องถือว่า ชัดเจนมากขึ้น จากการเดินทางประชุม ครม.สัญจรของนายกรัฐมนตรีและคณะ

และทำให้ “ข่าวสาร” ของโรดแม็ปในช่วงสุดท้าย น่าจะมีความเข้มข้นมากขึ้น