จากภารกิจบินล่าข้ามโลก อดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำทีมตามตัวถึงเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และนำทีมกลับไทยโดยไม่มีอดีตพระเถระกลับมาด้วย

ทำให้ความเคลื่อนไหวของผู้นำสีกากีถูกจับตาเป็นพิเศษ

กลับจากเยอรมนี เหยียบแผ่นดินไทยเมื่อ 6 มิถุนายน “บิ๊กแป๊ะ” สวมวิญญาณนักสืบ ไปไหนมาไหนไร้ร่องรอย เก็บตัวเป็นพิเศษ ไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน

เรียกว่าไม่เปิดโอกาสให้ไมโครโฟนจ่อปากพูดถึงเรื่องตามจับอดีตพระพรหมเมธี

มีให้ข้อมูลบ้างเป็นลักษณะการเลี่ยงเบี่ยงประเด็น เช่น ที่เยอรมนีอากาศดี เรื่องตามพระเถระที่เดินเกมขอลี้ภัยก็โยนให้เป็นเรื่องของผู้ใต้บังคับบัญชาการที่อยู่ระหว่างประสานงานและรอ

กระทั่งปลายสัปดาห์ มีข้อมูลว่า ผบ.ตร. เดินทางแบบเงียบๆ ไปประเทศฝรั่งเศส ก็ถูกผูกโยงว่าที่หมายคือเมืองลียง ที่ทำการขององค์การตำรวจสากล เพื่อไปเดินเรื่องขอให้ช่วยใช้ช่องตำรวจสากลติดตามจับกุมอดีตพระพรหมเมธี เถระรูปสำคัญ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด

พูดกันโยงไปถึงขนาดว่า “บิ๊กแป๊ะ” ไปประสานงานด้วยตนเอง ใช้ช่องบิ๊กตำรวจไทยเดินเรื่องเอง เพื่อหาช่องทางให้ได้ตัวอดีตพระเถระมาดำเนินคดีโดยเร็ว หลังจากผู้ต้องหาขอลี้ภัยทางการเมืองที่เยอรมนีและเรื่องก็อยู่ในกระบวนการพิจารณาที่อาจต้องใช้เวลานานแรมเดือน โดยโอกาสได้ตัวนั้น 50:50

ทว่าข่าวการเดินทางไปฝรั่งเศสของบิ๊กแป๊ะแพร่ไปไม่กี่ชั่วโมง ทีมงาน ผบ.ตร. ก็ออกมาต่อต้านข่าวลือ ปล่อยภาพเป็นหลักฐานยืนยันเป็นชุด ผู้นำสีกากีเดินทางไปชมงานอาวุธนานาชาติ ไม่เกี่ยวกับตำรวจและการประสานคุมตัวอดีตพระพรหมเมธีแต่อย่างใด!?

ย้อนไปเมื่อตั้งแต่การข่าว การสืบสวนปรากฏชัด อดีตพระพรหมเมธีหลบหนี เลาะชายโขง จ.นครพนม ไปยัง สปป.ลาว วันนั้น ผบ.ตร. ระดมทีมนักสืบ มือวางใจได้ ตามล่าตัวทันที ก่อนลัดฟ้าไล่ตามไปถึงเมืองแฟรงก์เฟิร์ต

สแกนทีมงาน “บิ๊กแป๊ะ” แท็กทีมนักสืบมือดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติสะกดรอยจากลาว กัมพูชา และทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บินล่าถึงเยอรมนี ใครเป็นใคร เช็กโปรไฟล์แต่ละคนไม่ธรรมดา

หัวหน้าทีม พล.ต.อ.จักรทิพย์ งานนี้ลงมือเอง แสดงภาวะผู้นำขั้นสูงสุด เดินหน้าล่าเต็มที่สุดกำลัง แต่เรื่องอำนาจอธิปไตยของชาติอื่น เกินกว่าอำนาจ ผบ.ตร. ไทยจะไปล้วง ก้าวล่วง

สำหรับ “บิ๊กแป๊ะ” ชื่อชั้น ผบ.ตร.นักสืบ เส้นทางสีกากีโลดแล่นสายบู๊ มือสืบ โด่งดังสมัยอยู่กองปราบฯ

ตอนเป็น ผบ.ตร.แล้ว ไว้ลายนักสืบงานถนัดกัดไม่ปล่อย ทำผลงานสร้างชื่อสางคดีใหญ่เหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ทำงานกับนักสืบรุ่นน้องคู่ใจ ทีมนครบาล “เดอะแมน” พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนกองบัญชาการนครบาล พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. แกะรอยมือบึ้มจนจับกุม “วัฒนา ภุมเรศ” อดีตวิศวกร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หัวรุนแรงการเมืองได้

งานไล่จับอดีตพระชั้นพรหมหนนี้ทีมงานคู่ใจก็แท็กทีมตามสืบสวนเช่นกัน

อีกผลงานสมัยเป็น ผบ.ตร. คลี่คลายคดีสะเทือนขวัญสังหารหมู่ 8 ศพ ครอบครัวผู้ใหญ่บ้านที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่

คีย์แมนคนสำคัญ “บิ๊กบัว” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กแป๊ะ” ร่วมคลี่คลายคดีกันมาตั้งแต่ตำแหน่งยังไม่ใหญ่โตเท่านี้ ถือเป็นเพื่อนที่เป็นมือทำงานรู้ใจ รู้มือกับบิ๊กแป๊ะอีกคน

เมื่อบิ๊กแป๊ะเป็น ผบ.ตร. “เดอะบัว” ได้รับวางใจขยับจากรองผู้บัญชาการ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และขยับนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กองบัญชาการพรีเมียมแบบเหนือความคาดหมาย ด้วยบุคลิกและความถนัดที่อาจไม่ใช่สเป๊กของ ผบช.สตม. ยุคนี้

แต่ด้วยความวางใจและเชื่อมือ ยุคบิ๊กแป๊ะ เดอะบัวเพื่อนเลิฟจึงปักหลักเก้าอี้ ผบช.สวนพลู งานนี้ ด้วยตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานคนเข้าเมืองในปัจจุบัน ทำให้มีบทบาทและหน้าที่เกี่ยวข้องกับภารกิจตามจับพระครั้งนี้

จึงเป็นทีมล่วงหน้าและปิดท้ายในการเดินทางไปแฟรงก์เฟิร์ต

อีกหนึ่งคีย์แมน ทีมสะกดรอยที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ออกชื่อ ออกนาม ไม่ได้ร่วมเดินทางข้ามทวีป แต่เป็นคนสำคัญช่วยบิ๊กแป๊ะคลี่คลายคดีสำคัญมานับไม่ถ้วน “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 อดีตผู้บัญชาการสันติบาล มือสอบสวนฝีมือดี นรต.36 ร่วมรุ่น ผบ.ตร.

ขณะที่ในภารกิจตามตัวข้ามทวีป จากข้อมูลที่ปรากฏมีทีม ตร. ร่วมคณะ ผบ.ตร.

คนแรก พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช หรือ “เดอะก้อง” รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) นรต.50 ตัวแทนจากสอบสวนกลาง มือทำงานคลี่คลายสางคดีสำคัญของกองบังคับการปราบปราม นายตำรวจที่ยุคนี้สีกากีน้อยคนจะไม่รู้จัก เป็นคนสำคัญที่ร่วมทีม

อีกคน พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ อดีตรอง ผบก.สืบสวน สตม.ปัจจุบัน เป็นรอง ผบก.สันติบาล 2 ทีมงานคนสำคัญ

และอีกคนสำคัญ ร่วมคณะลัดฟ้า โฆษกและล่ามพิเศษ ประจำตัว ผบ.ตร. “เดอะแจ๊ค” พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ตม.จันทบุรี นรต. 48 สวมหมวกรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทว่าบทบาทเสมือนโฆษกประจำตัว ผบ.ตร. เดินขนาบข้างกายเป็นคนสนิท งานนี้ร่วมคณะไปไหนไปกัน

เปิดหน้า เปิดโปรไฟล์ทีมงานคนสำคัญ ผบ.ตร. ในภารกิจสุดสำคัญครั้งนี้?!

อย่างไรก็ตาม แม้จะระดมทีมสืบสวนระดับมันสมองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แท็กทีมประสานงานระดับไฮโปรไฟล์ ทว่าคนไล่มักตามหลังคนหนี ยิ่งระดับอดีตพระพรหมเมธี งานนี้กุนซือดี วางแผนหนีแยบยลแยบคาย จึงทำให้การไล่ล่ากระชั้นแต่ยังคว้าได้เพียงเงา

ทั้งนี้ทั้งนั้น ภารกิจตามจับอดีตพระเถระรูปนี้ ยังคงจัดลำดับเป็นภารกิจสำคัญสุดยอด ที่บิ๊กแป๊ะลงมือเอง และทำทุกช่องทางที่เป็นไปได้