ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / TULLY ‘ซูเปอร์แม่’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์

 

TULLY ‘ซูเปอร์แม่’

 

กำกับการแสดง Jason Reitman

นำแสดง  Charlize Theron Mackenzie Davis Ron Livingston Mark Duplass

 

Tully เป็นหนังฮือฮาเรื่องหนึ่งจากเทศกาลซันแดนซ์ในปีนี้

เทศกาลซันแดนซ์ซึ่งก่อตั้งโดยนักแสดงหนุ่มรูปหล่อที่สุดคนหนึ่งในอดีต โรเบิร์ต เรดฟอร์ด โดยใช้ชื่อตัวละครที่เขาเคยเล่นกับพอล นิวแมน ใน Butch Cassidy and the Sundance Kid ทำให้ “ซันแดนซ์คิด” โด่งดังกว่า “บุตช์ แคสซิดี้” เสียอีก

ถือว่าเทศกาลนี้มีคุณูปการอย่างยิ่งยวดต่อคนทำหนังทั่วโลก จากการสนับสนุนให้เป็นเวทีแจ้งเกิดสำหรับหนังนอกกระแส ซึ่งโดยมากเป็นหนังฟอร์มเล็กที่มุ่งทำเพื่อศิลปะ

ไม่ใช่บล็อกบัสเตอร์ที่จำต้องเฮละโลเอาใจตลาดเพื่อเหตุผลทางธุรกิจ

Tully เป็นฝีมือกำกับฯ ของเจสัน ไรต์แมน (Juno, Up in the Air, Young Adult) โดยร่วมงานกับนักเขียนบทมือรางวัลที่ชื่อ “ดิอาโบล โคดี้”

ตอนแรกก็นึกในใจว่าคนอะไรใช้ชื่อชั่วร้ายว่า “ดิอาโบล” ซึ่งเป็นภาษาสเปน แปลว่า ปีศาจร้ายหรือซาตาน แต่ปรากฏว่านี่เป็นนามปากกา โดยที่ตัวจริงเป็นสาวสวยหน้าตาไร้พิษสง เธอถนัดการเขียนเรื่องราวดราม่า-คอเมดี้แบบแสบๆ คันๆ และจี้จุด ตรงใจและโดนใจคนดูเกินคาดทุกเรื่อง

เรื่องที่เคยได้รับการกล่าวขวัญเป็นพิเศษคือ Juno ที่พูดถึงสาวรุ่นฉลาดเป็นกรดและแก่แดดเกินวัย ซึ่งตั้งท้องด้วยความผิดพลาดทางเทคนิค แต่ก็มีพ่อผู้แสนดีและเข้าอกเข้าใจลูกทุกอย่างโดยไม่ได้ดุด่าลูกสาวสักคำ

จูโนต้องอุ้มท้องไปเรียนหนังสือขณะพยายามหาทางยกลูกในท้องให้แก่พ่อแม่คนอื่นที่อยากมีลูกแต่มีไม่ได้

เป็นหนังตลกแสบๆ คันๆ ที่โดนใจมากค่ะ

เช่นเดียวกับ Up in the Air ที่มีจอร์จ คลูนีย์ แสดงเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่แทบไม่เคยอยู่ติดที่ เขาทำงานที่ต้องบินไปโน่นไปนี่ตลอดเวลา และตั้งเป้าการสะสมระยะทางบินไว้ให้เกินมนุษย์คนไหนในโลกทั้งนั้น โดยกำลังจะถึงจุดหมายอยู่รอมร่อแล้ว แต่ก็เกิดเหตุการณ์ผันแปรไป…

ขอพูดถึงอีกเรื่องคือ Young Adult ซึ่งมีชาร์ลีซ เธอรอน นำแสดงเหมือนกัน และเผอิญเพิ่งได้ดูอีกหนทางทีวี

โดยมาพ้องพานกับ Tully ที่เพิ่งดูในโรงพอดี

 

ชาร์ลีซเล่นบทสาวงามชวนสังเวชโดยไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์เลย เธอเป็นอดีตคนเด่นคนดังในไฮสกูลของเมืองเล็กๆ ที่โผบินออกไปสร้างชื่อเสียงในเมืองใหญ่ ชีวิตส่วนตัวล้มเหลว และกลับมาเยี่ยมบ้านเพื่อมาเอาแฟนเก่าคืนจากชีวิตแต่งงานที่มีความสุขดี

บทหนังของดิอาโบล โคดี้ เขียนอย่างจริงใจกับตัวละครที่เป็นคนอย่างที่เราจะประสบพบเห็นได้ทั่วไปและมีปัญหาแบบที่กระทบใจ หรือทำให้เราสะท้อนใจ

Tully นำเสนอเรื่องราวของตัวละครแบบที่เห็นได้ทั่วไป โดยเป็นเรื่องของแม่ลูกอ่อนผู้สามารถและต้องรับมือกับชีวิตที่เปลี่ยนไปนับแต่มีลูกคนแรก คนที่สอง และกำลังจะมีเป็นคนที่สาม

 

มาร์โล (ชาร์ลีซ เธอรอน) เป็นคุณแม่คนนั้น เราเจอเธอในสภาพท้องแก่อุ้ยอ้ายใกล้คลอด รับมือกับลูกสองคนในวัยที่ยังต้องการการดูแลใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อลูกชายวัยหกขวบมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์เหมือนเด็กที่เป็นออทิสติก และกำลังจะถูกขอให้ออกจากโรงเรียนเพื่อไปหาที่เรียนใหม่ที่ดูแลเด็กพิเศษแบบนี้

ด้วยภาระหนักอึ้งในครอบครัวที่ล้นมือเกินกว่าจะทำได้คนเดียว โดยสามีที่แทบไม่ช่วยแบ่งเบาไปได้เลย มาร์โลเป็นลูกระเบิดเวลาที่ใกล้จะระเบิดอยู่รอมร่อ…ทั้งจากในท้องและในเส้นประสาท

เมื่อพี่ชายผู้มีฐานะการเงินมั่นคง หวังดียื่นข้อเสนอจะช่วยด้วยการจ้าง “พี่เลี้ยงกลางคืน” มาช่วยดูแลทารก เพื่อที่มาร์โลได้นอนเต็มตาและรับมือกับชีวิตอันเหน็ดเหนื่อยได้ดีขึ้น ปฏิกิริยาแรกของมาร์โลคือ “แม่ประเภทไหนหรือที่ทำแบบนั้น”

แต่แล้ว คืนแล้วคืนเล่าที่เธอตื่นขึ้นกลางดึกเมื่อลูกร้อง…ปั๊มนมใส่ถุงและทำหกเลอะเทอะด้วยสมองที่ตื้อไปหมดและร่างกายที่มีสภาพเหมือนผีดิบ ขณะที่ช่วงกลางวันต้องจัดการกับชีวิตประจำวัน ที่ต้องพาลูกไปโรงเรียน และดูแลปัญหาสารพัดสารพันที่รุมเร้าเข้ามา

มาร์โลก็ตัดสินใจโทร.เรียก “พี่เลี้ยงกลางคืน” ตามคำแนะนำของพี่ชาย

 

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันแสนวิเศษและแน่นแฟ้นระหว่างมาร์โลกับสาวสวยวัยยี่สิบห้าที่มีชื่อว่า “ทัลลี่” (แม็กเคนซี เดวิส)

มาร์โลนอนหลับเต็มอิ่มเป็นครั้งแรกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และกลับกลายเป็นตัวของตัวเอง และประกายตาแห้งแล้งกลับกลายมาสู่ความรื่นรมย์กับชีวิตอีกครั้ง

มาร์โลได้ชีวิตของตัวเองคืนมา โดยที่ยังคงจัดการกับความเป็นแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าประทับใจ

แต่ทัลลีก็มีความพิเศษที่ไม่เหมือนใครที่ไหนเลย เธอเก่งเกินไป ฉลาดเกินไป และเข้าใจความต้องการทุกอย่างของมาร์โล แบบที่เรียกว่าบางฉากดูเป็นเรื่องวิตถารด้วยซ้ำ

นี่เป็นเงื่อนงำที่แฝงอยู่ในความสัมพันธ์พิเศษนี้

และนำไปสู่การค้นพบเหนือคาด ที่ทำให้ทุกอย่างลงตัวและเข้าใจได้

ชาร์ลีซ เธอรอน เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทอุทิศตัวแก่บทบาทของตัวละครที่เธอสวมบท ในหนังเรื่องนี้ เราเห็นเธอปล่อยตัวจนอ้วนเผละแทบไม่เหลือรูปลักษณ์ของนักแสดงสาวสวยที่สุดคนหนึ่งในโลกภาพยนตร์

และรายละเอียดทุกบกทุกตอนของความสัมพันธ์ระหว่างมาร์โลกับทัลลีเป็นสิ่งที่ชวนจับตาน่าชมที่สุดในเรื่องนี้ ทั้งชาร์ลีซและแม็กเคนซีมี “เคมี” ระหว่างกันแบบที่ทำให้เรื่องทั้งหมดลงตัวเหมาะเจาะพอดี

หนังนำเสนอประเด็นชวนคิดในเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้หญิงสูญเสียตัวตนให้กับความเป็นแม่ และดุลยภาพระหว่างหน้าที่กับความปรารถนาส่วนบุคคล

แต่ไม่ใช้หนังที่หนักจนต้องใช้ความคิดอะไรมากนะคะ ตามสไตล์ของดิอาโบล โคดี้ และเจสัน ไรต์แมน นับเป็นหนังชีวิตที่สอดแทรกความขบขันของสถานการณ์ไว้ทุกบททุกตอน

น่าดูนะคะ