กาละแมร์ พัชรศรี : จริงจังให้สมดุล

ทางสายกลางคือศิลปะ มันอาร์ต มันไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีการคำนวณเป๊ะๆ เพราะทางสายกลางของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่ละคนต้องหาเจอด้วยตัวของตัวเอง

จุดสมดุล บาลานซ์ จุดสบาย กำลังดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป

มันอาร์ตมากสำหรับฉัน และมันเร้าใจในการค้นพบมาก

นั่นหมายความว่า กว่าที่ฉันจะเจอจุดนั้น ฉันต้องผ่านการหย่อนไป และตึงเกินไป เพื่อจะได้รู้ว่าจุดพอดีของตัวเองอยู่ตรงไหน

 

ฉันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่ทำอะไรแล้วตั้งใจมาก ทุ่มเทมาก ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ย่อท้อ อดทน พยายาม ขยัน สู้ไม่ถอย อันนี้พูดได้เต็มปากว่าเป็นคนเช่นนั้น

อยากสอบอะไรก็สอบได้ เพราะตั้งใจเรียน ตั้งใจทำการบ้าน ตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจไปเรียนพิเศษ ตั้งใจทำข้อสอบย้อนหลัง จัดตารางเวลาให้ตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก มีวินัย เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ทำกิจกรรมเต็มที่

จำได้ว่าตอนจะเอ็นทรานซ์ แล้วออกจากห้องมานั่งดูการ์ตูน แม่พูดขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ไปอ่านหนังสือ” โกรธมาก ไม่พอใจแม่ เพราะเราเพิ่งอ่านเสร็จ นี่คือเวลาของการพักผ่อน เราจัดเวลาของเราแล้ว แต่แม่ไม่รู้ แม่งงมากว่า มรึงโกรธบ้าอะไรเนี่ย

ตอน ป.6 หาเสียงจะเป็นประธานนักเรียนก็ตั้งใจมาก ทำป้ายหาเสียงเอง แปะเอง เดินหาเสียงตามห้องนักเรียนต่างๆ ไม่เหนื่อย ไม่ท้อ

 

และยิ่งตอนทำงานไม่ต้องพูดถึง ทำแทบจะทุกตำแหน่งแล้วในช่อง 3 (ยกเว้นผู้บริหารอ่ะนะ) เสิร์ฟน้ำ รับแขก ถ่ายเอกสาร ชงกาแฟ ถือเทปไปห้องออกอากาศ วางสคริปต์ให้ผู้ประกาศข่าว ออกไปทำข่าว สัมภาษณ์ ทำสกู๊ปข่าว ตัดต่อ ลงเสียง ฝึกอ่านวนไป ทำรายการ โดนด่าบ้าง โดนชมบ้าง สลับกันไป

ใช้ความอึดทึกทน พัฒนาตนทุกวัน อะไรต้องปรับก็ทำให้มันดีขึ้น เพราะเรามีเป้าหมายว่า จะทำให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน

เวลามีความรัก ก็รักมาก รักเยอะ ทุ่มเท คิดอยากให้เขาได้ดี กดดันสารพัดสารเพให้เขาฮึดสู้ ผลักดัน สนับสนุนทุกหนทาง

ตอนอ้วนๆ หุ่นพัง ร่างพัง เยิน ก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าเราตั้งใจจะทำให้เรามีรูปร่างที่ดี สุขภาพที่ดี สวยขึ้น เราจะต้องทำอะไรบ้าง มันมีวิธีไหนบ้าง

หาหนทาง หาความรู้ หาคนช่วย ลงมือทำๆๆๆๆ ทำจนเป็นนิสัย ทำจนเกิดผล ทำจนเข้าใจ ทำจนสำเร็จ ระหว่างทางฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่เรารู้ว่าถ้าเราจริงจัง เราทำได้แน่นอน

ตอนแรกทำอาหารไม่เป็นเลย เราก็ดูๆๆๆๆ ดูเยอะมาก แล้วลงมือทำ ลองผิดลองถูก ทำเอง กินเอง ล้างเอง ฝึกจนเชี่ยวชาญขึ้นเรื่อยๆ แสวงหาความรู้เรื่อยๆ ถามผู้รู้ อ่าน ดูไปเรื่อยๆ ลองทำอะไรใหม่ๆ ทำด้วยความสนุก เพลิดเพลิน

เมื่อก่อนเกลียดการออกกำลังกายมาก ทำไมต้องเหงื่อออก มันยี้ มันหยึย เดินก็เหนื่อยแล้ว เล่นอะไรก็ไม่เก่งสักอย่าง แต่พอมีเป้าหมาย เราลงมือทำไปเรื่อยๆ ไม่บ่น ไม่ท้อ ไม่ลังเลสงสัย ทำๆๆๆๆ ไม่ถึงเป้าหมายเราไม่หยุด

เมื่อถึงเป้าที่เราต้องการ เรายังทำมันต่อไป แต่หาจุดที่สมดุลมากขึ้น ไม่ผอมมากเกินไป ไม่ตึงมากเกินไป เอาที่กำลังดีและมีความสุข สุขภาพดี

 

ช่วง 10 ปีก่อนที่โหมงานหนักมากเพราะโอกาสในชีวิตเข้ามาเยอะมาก เราก็ทำๆๆๆ จนร่างกายไม่ไหว เข้าโรงพยาบาลวันเว้นวัน ฉีดยาให้มีเสียงขึ้นมา เราก็เริ่มรู้แล้วว่ามันตึงเกินไป ร่างกายมันประท้วงแล้ว ถ้าไม่ดูแลมันให้ดี เงินที่หามาได้ทั้งหมดก็คงหมดไปกับหมอ นี่ไม่ใช่วิถีที่เราต้องการ

การออกเดินทางจึงเกิดขึ้น ออกไปท่องโลกให้ตัวเองได้ออกจากตารางชีวิตเดิมๆ ความรับผิดชอบ หน้าที่ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายมากขึ้น ออกไปเห็นโลกที่ไม่เคยเห็น ให้โลกได้สอนชีวิต ให้คนที่ต่างจากเราให้คำตอบบางอย่าง ออกไปนอก comfort zone ที่เราคุ้นเคย ใช้ความกล้าเผชิญกับความกลัว

มาปีนี้ทำขนมขาย ว่าจะทำเล่นๆ แต่ในสารบบชีวิตคำว่าเล่นๆ คือจริงๆ

ทุ่มเทมาก ไม่หลับไม่นอน ดูๆๆ ศึกษาๆๆ คิดๆๆๆ ทำๆๆ เปิดโลกตัวเอง ถามผู้รู้คนมีประสบการณ์ ยอมรับเลยว่าเครียดแบบไม่รู้ตัว ผื่นขึ้นตัว จนคันไปหมด เรารู้แล้วว่า ข้างในคงร้อนมาก พอร่างกายมันเตือน เราก็ต้องผ่อนละ เพราะหัวก็ร้อนมาก นอกจากงานทำขนมแล้วยังมีงานอื่นๆ ที่ต้องทำด้วย ใช้สมองเยอะมาก เรารู้สึกถึงความหนัก ตึง มึนอย่างเห็นได้ชัด

ผ่อนสิคะรออะไร ต้องมีสติคอยช่วย อะไรที่มันเยอะเกินไป มากเกิน เราจะคอยเตือนตัวเอง บอกตัวเอง

ศิลปะแห่งความสมดุลสำคัญมากในชีวิต หย่อนไปก็ยานยืด ขี้เกียจ ตึงไปก็เครียดขึง ชีวิตต้องอยู่ในจุดสบายๆ ทำด้วยความสนุก เบิกบาน และกลับมาที่ความพอดีของตัวเอง

เป็นเรื่องที่ฉันต้องบอกตัวเองเสมอๆ ค่ะ…