การ์ตูนที่รัก : Takeru เล่ม 2

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ทาเครุ นักล่าค่าหัว พร้อม บุมบุคุ ทานูกิกระดองเหล็ก (ขออภัย อาจจะมิใช่สุนัข)

ทาเครุบุกวิหารองค์หญิง พบกับศัตรูมืดแมงมุมมหากาฬที่ย่องเข้ามาหมายสังหาร ทาเครุปล่อยฝ่ามืออักษรวิญญาณเป็นคำว่า สุริยัน และ จันทรา

แสงสุริยันและจันทรากวาดเงามฤตยูนั้นหายไป

ในตอนแรก ทาเครุใช้อักษรที่บ่งชื่อของตนเอง “ทาเครุ” เป็นอักษรพื้นฐานกระแทกผู้คนกระเด็น เสมือนเด็กเล็กที่เห็นตนเองเป็นศูนย์กลาง ใหญ่กว่าคนทั้งปวง นึกจะกระแทกคนอื่นหลบไปก็กระแทกตรงๆ

ต่อมาจึงใช้อักษรเดี่ยว “เปิด” เพื่อเปิดประตู “ปิด” เพื่อปิดประตู “ชั่ว” เพื่อด่าและประจานผู้คน “ไฟ” เพื่อเผาผลาญศัตรู อำนาจของเด็กน้อยคล้ายจะไม่มีขีดจำกัด

เมื่อพบศัตรูที่น่ากลัวมากขึ้น มันเริ่มใช้อักษรประสม “สุริยันจันทรา” บัดนี้เด็กน้อยมีความสามารถประหนึ่งจ้าวจักรวาล (omnipotence) อยากได้เดือนก็ได้เดือน อยากได้ดาวก็ได้ดาว ดูเหมือนไม่มีอะไรที่มันอยากได้แล้วจะไม่ได้

ตอนนี้มันอยากได้องค์หญิง คือองค์หญิงคาเซะ ผู้ปกครองยามาโตะ

“ผู้ที่จ้องเอาชีวิตของข้าน่ะ มันอยู่ที่เชิงเขาลูกนั้น” องค์หญิงในร่างเกือบเปลือยเหม่อมองไปที่สุดขอบฟ้า “ที่นั่นเป็นวิหารที่ใช้บวงสรวง ฮิมิโกะ ราชินีผู้สถาปนายามาโตะแห่งนี้ ผู้ดูแลวิหารนั่น ชื่อ โคริว เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าทำไมพักนี้ไม่ค่อยมาหาข้าที่วิหารเลย”

“เหมียว เมี้ยว” บุมบุคุร้อง “แง่ง แง่ง” แต่คำบรรยายตอนหนึ่งว่ามันเป็นทานูกิ

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81-2ทาเครุและบุมบุคุบุกเข้าวิหาร พบสหายขององค์หญิงคือโคริวร่างงามกำลังทำพิธีบูชายัญสาวๆ หุ่นอะร้าอร่ามเพื่อรอการฟื้นคืนชีพของฮิมิโกะ

ชั่วขณะหนึ่งทาเครุสังเกตเห็นดวงตาของโคริวมีลูกตาข้างละสองลูก มันสำรวจต่อไปจนพบโคริวตัวจริงถูกสาปเป็นสัตว์อัปลักษณ์

ที่แท้โคริวนัยน์ตาแฝดที่มันเห็นคือ คะงังจู สตรีลึกลับผู้น่ากลัวที่แปลงร่างเข้าควบคุมวิหารแห่งนี้เอาไว้

ทันใดนั้น ฮิเอ็ง ธิดาจอมโจรแห่งหุบเขายาคุโมะบุกเข้าวิหารเพื่อชิงกระจกเงาบานหนึ่ง ในขณะที่นางจนมุมพวกคะงังจูนั้นเอง ทาเครุกระโดดเข้าขวางทางเหล่าพลพรรคปิศาจเอาไว้แล้วปล่อยฝ่ามืออักษรวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง เป็นอักษรสองตัวอีกเช่นกันคือ “เสา” และ “ไฟ” ประสมเป็นเสาไฟ

เสาไฟจำนวนมากตั้งขวางทางเหล่าร้าย บุมบุคุพาทาเครุและฮิเอ็งหนีกลับหุบเขาโจรได้ ที่แท้กระจกเงาบานนั้นเก็บกักผู้คนจากหุบเขาและหมู่บ้านเอาไว้ ฮิเอ็งปลดปล่อยพวกเขาเป็นอิสระ

พวกปิศาจตามมาสังหารขุนโจรผู้เป็นบิดาของฮิเอ็งถึงตาย ฮิเอ็งและทาเครุจึงรวบรวมกำลังเตรียมบุกวิหารอีกครั้งหนึ่ง

จบเล่มหนึ่ง

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81-4

ขึ้นเล่มสอง ที่แท้ฮิเอ็งคือองค์หญิงตัวจริงที่ราชาแห่งยามาโตะนำไปซ่อนไว้ที่หุบเขาโจรแล้วใช้อาคมสร้างองค์หญิงตัวปลอมขึ้นมาในวังแทน นางมารร้ายคะงังจูลอบเข้าวังฆ่าองค์หญิงตัวปลอม ครั้นรู้ว่าที่แท้องค์หญิงตัวจริงยังอยู่และอยู่กับทาเครุ มันจึงเตรียมพลพรรคนักฆ่ารอรับศึก

เล่มสองเป็นการต่อสู้กันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งเล่ม นินจาทาเครุใช้พลังฝ่ามืออักษรวิญญาณได้สารพัดประโยชน์แต่ก็ไม่อาจเอาชนะคะงังจูได้โดยง่าย ครึ่งแรกมันออกจะเป็นฝ่ายตั้งรับเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

ดูเหมือนเด็กน้อยจะเริ่มเรียนรู้ได้แล้วว่าตนเองมิใช่หนึ่งเดียวของจักรวาล จักรวาลยังมีอีกหลายคน และบางคนตอบโต้ตัวเองได้ด้วย

ฮิเอ็งและทาเครุเดินทางไปหอสมุดหลวงเพื่อไขความลับของคะงังจูและฮิมิโกะ ที่หอสมุดหลวงทาเครุจะได้บทเรียนอีก 2 ครั้ง

ทาเครุใช้ฝ่ามืออักษรวิญญาณปล่อยคำง่ายๆ “เปิด” เพื่อเปิดประตูหอสมุดหลวงแต่ครั้งนี้ประตูไม่เปิด!

“ถ้าไม่ใช่สายเลือดกษัตริย์ ไม่มีทางเปิดได้หรอก” ฮิเอ็งว่า “ถ้าข้าเป็นเจ้าหญิงจริงๆ ล่ะก็…”

ฮิเอ็งเปิดประตูได้ หล่อนคือเจ้าหญิงแห่งยามาโตะตัวจริง เป็นครั้งแรกที่ทาเครุพบว่าไม่เพียงอักษรของตนเองจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ถึงกับมีบางครั้งที่อักษรนั้นใช้การไม่ได้เลยเมื่อพบอำนาจที่สูงกว่า

คำไหนไม่คำนั้นเสียแล้ว

ในหอสมุดหลวง ทาเครุและองค์หญิงพบหนังสือมากมายเท่ามหาสมุทร ทาเครุเปิดเล่มหนึ่งคือหนังสือเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ พลันที่มันเปิดหน้าหนังสือออก เครื่องมือลงทัณฑ์หน้านั้นลงมือกับทาเครุทันที!

ที่แท้ยังมีสิ่งที่มีอำนาจสูงกว่าอักษรอีกชิ้นหนึ่ง นั่นคือหนังสือ หนังสือที่มีอักษรทั้งเล่มย่อมมีอำนาจสูงกว่าอักษรเพียงตัวเดียวหรือสองตัว

จักรวาลมิใช่เป็นของทาเครุอีกแล้ว

ในการต่อสู้คราวหนึ่ง ทาเครุก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการใช้อักษร “สายฟ้า” เพื่อสร้างสายฟ้าฟาด ก่อนที่จะแปลงอักษรตัวแรกเป็น “มังกร” ได้เป็น “มังกรสายฟ้า” ทะยานออกมา ครั้งนี้มิใช่การประสมอักษรสองคำเหมือนทุกที

แต่ทันใช้ไวยากรณ์ที่สูงขึ้น

เด็กน้อยเริ่มพัฒนาตนเองเสียที

ทาเครุสู้คะงังจูในการประลองครั้งสุดท้ายจนกระทั่งพลังหมด บัดนี้ ฮิมิโกะ ราชินีนัยน์ตาแฝดฟื้นคืนชีพแล้ว ฟื้นคืนชีพพร้อมนาวาสวรรค์เพื่อพิชิตโลกทั้งหมด

“อย่างนี้นี่เอง วิหารเป็นห้องเครื่อง เมืองยามาโตะเป็นตัวเรือ” ทาเครุพูดขึ้น เมื่อเห็นนาวาสวรรค์ขนาดมโหฬารลอยขึ้นจากพื้นพสุธา ดูเหมือนจะไม่มีใครหยุดคะงังจูได้อีกแล้ว

โปรดติดตาม