การ์ตูนที่รัก : TAKERU

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ญี่ปุ่น แคว้นยามาโตะ

ปราสาทโบราณบนตึกระฟ้า ผู้คนสัญจรด้วยยานพาหนะรูปสัตว์ ม้ามังกรบ้าง กบบ้าง รถไฟพลังรหัสวิดน้ำจอดอยู่

ภาพระยะไกล ที่แท้นี่คือท่าเรือ มีแผงขายของ มีผู้คนสัญจร สะพานเรือ เรือเล็ก 2-3 ลำ

ทาเครุเดินมาในตรอก พร้อม บุมบุคุ หมามีกระดองเป็นโลหะ มันเดินเข้าไปในร้านเหล้า หัวขโมยและนักฆ่าเต็มร้าน พวกมันหันมามองคนมาใหม่ ที่แท้ทาเครุเป็นนักล่าค่าหัว

“หนอย! ตายซะเถอะ” คนหนึ่งลงมือ

“ฉัวะ!” ทาเครุยิงอักษรหนึ่งจากฝ่ามือทะลุหน้าอกผู้ร้าย “อย่างที่เขียนไว้นั่นแหละ ชื่อของข้าคือ ทาเครุ อิจิมอนจิ ทาเครุ”

“มันอยู่ข้างใน แต่เข้าไม่ได้หรอกเพราะมันใส่กลอนจากด้านในไว้” คนหนึ่งรีบบอกที่อยู่ของเก็นตะ ผู้ใช้หุ่นให้ทาเครุรู้

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81-1885-1

ทาเครุหันไปที่ประตู ใช้ฝ่ามืออักษรคำว่า “เปิด” เปิดประตูอย่างง่ายดาย ชักดาบแล้วเดินเข้าไป

เก็นตะผู้ใช้หุ่น ผู้ร้ายร่างเตี้ยหน้าอัปลักษณ์กำลังเสพสุขอยู่กับเกอิชาหุ่นสะท้าน

“เจ้านี่น่ะ มันทั้งวางเพลิง ปล้น ลักพาตัว เป็นเจ้าตัวร้ายสารพัดชั่วทีเดียวนะ” ทาเครุเหมือนพูดกับสาวงาม พลันปล่อยฝ่ามืออักษรคำว่า “ชั่ว” ผนึกติดหน้าผากเก็นตะเอาไว้ “พอติดคำนี้ไว้บนหน้าแก คงไม่มีใครจ้างแกอีกแน่ๆ”

เหมือนคอบร้า พบสาวงามเป็นประมาท

เกอิชานั้นกลายร่างเป็นหุ่นชิงลงมือก่อน ทาเครุหลบได้ ปล่อยฝ่ามืออักษร “ไฟ” ไฟลุกท่วมหุ่น

เก็นตะหายไปตรอกหลังร้านแล้ว ทาเครุพุ่งตัวตามออกไป “ตามมันไป! บุมบุคุ!” หมากระดองโลหะรับทราบ หดหัว หดขาและหาง ปิดกระดองมิดชิดกลายเป็นจานเหาะให้ทาเครุยืนเหยียบแล้วพุ่งตามเก็นตะซึ่งขี่ม้ามังกรกลหนีไปไกลแล้ว

“หนีไม่รอดหรอกน่า เก็นตะ!” มันตามไปทันที่ตลาด ปล่อยพลังอักษรฝ่ามือคำว่า “ตรึง” พุ่งเข้าใส่เก็นตะ

“ขยับตัวไม่ได้เลย ขยับตัวไม่ได้เลย” ร่างเก็นตะติดพื้นอยู่เช่นนั้น

มีชายลึกลับแอบสังเกตอยู่บริเวณใกล้เคียงนั้น “วิชาอักษรวิญญาณสินะ ชักจะสนุกละสิ”

บูอิจิ เทราซาว่า เขียน TAKERU เมื่อปี 1993 วิบูลย์กิจพิมพ์เป็นหนังสือปกแข็งขนาด 8 หน้ายกสี่สีสวยสดดูสบายตา 2 เล่มจบ เมื่อปี พ.ศ.2537 ไล่เลี่ยกับ คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า ตอนพิเศษ ปกแข็ง 4 เล่มจบ สวยมาก

จักรวาลของทาเครุคล้ายๆ คอบร้า เป็นแคว้นยามาโตะในอีกมิติหนึ่ง มีอาคารบ้านเรือน ผู้คน และเครื่องยนต์กลไกสมัยใหม่ผสานไปกับญี่ปุ่นยุคโบราณ ที่ขาดไม่ได้คือสาวงามนุ่งน้อยห่มน้อยเรียงรายกันเข้ามาให้เชยชม

ทาเครุและคอบร้าเป็นนักล่าค่าหัวเหมือนกัน คอบร้าใช้ไซโคกันเป็นอาวุธ ทาเครุใช้ฝ่ามืออักษรวิญญาณ

ตอนที่ทารกเกิดใหม่บนโลก โลกยังไม่มี ทารกไม่รับรู้ว่าเขาอยู่ในโลก ไม่รับรู้ว่าข้างกายมีแม่ สำหรับทารกเกิดใหม่ ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากตัวเอง (autistic)

ทารกใช้เวลา 3 เดือนกว่าจะรับรู้ว่ามีชีวิตหนึ่งคอยอุ้มเขา กอดเขา และให้นม แต่ชีวิตนั้นและตัวเขาเองเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ (symbiotic)

ทารกจะใช้เวลาอีก 3 เดือนกว่าจะรับรู้ว่าชีวิตที่หลอมรวมกับเขามาตลอดนั้นคือแม่ และแม่เป็นอีกชีวิตหนึ่งต่างหากที่มีอยู่จริง (exist) เขาและแม่เป็นชีวิตคนละหน่วย

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81-1885-2

ขวบปีแรกของทารกเป็นช่วงเวลาที่ทารกสบายที่สุดแล้ว ชีวิตไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเรียกร้องสิ่งที่ต้องการ นม ตุ๊กตา ผ้าห่ม อ้อมกอด คนเล่นด้วย เหล่านี้ลอยมาเองเมื่อเขาร้องขอ หรือแหกปากร้องไห้ เสมือนเนรมิตได้ ทารกคิดว่าเขาเนรมิตได้จริงๆ ด้วย

นี่คือความสามารถที่เรียกว่า omnipotence ดลบันดาลได้สารพัด

ทาเครุก็คิดแบบเดียวกัน ดลบันดาลได้สารพัดเพียงสะบัดฝ่ามืออักษรวิญญาณ รวมทั้งกวักมือเรียกหาความอบอุ่นของแม่ ซึ่งบัดนี้ปรากฏในรูปสาวงามมากหน้าหลายตา

ที่เล่ามาตั้งแต่แรกเป็นเพียงฉากเปิดตัว ต่อไปจึงเข้าสู่เนื้อเรื่องหลัก

ขบวนเจ้าหญิงคาเซะผ่านมา อสูรสองตนพุ่งเข้ามาชิงเสลี่ยงเจ้าหญิงหนีไป ทาเครุพุ่งร่างตามทันที แม้ว่าจะช่วยเจ้าหญิงนุ่งน้อยห่มน้อยไว้ได้แต่ก็ถูกทหารวังรายล้อม และไม่สามารถพ้นการจับกุมของโจมารุ ปราสาทลาดตระเวนไปได้

ทาเครุแหกคุกออกมาอย่างง่ายดายด้วยความช่วยเหลือของบุมบุคุ มันหวนกลับไปที่ปราสาทเจ้าหญิงหวังยลโฉมเจ้าหญิงในอาภรณ์ยามราตรีซึ่งก็ไม่ค่อยมีอาภรณ์เท่าไรนัก ทาเครุไปถึงทันเวลาขับไล่แมงมุมปีศาจที่กำลังย่างสามขุมเข้าหาเจ้าหญิง

“ขวา สุริยัน ซ้าย จันทรา” ฝ่ามือวิญญาณพุ่งออกจากฝ่ามือทั้งสอง

แสงอาทิตย์แสงจันทร์สาดใส่แมงมุมรัตติกาลพร้อมกัน ที่แท้มันคือเงา เมื่อเงาหายไปร่างจริงจึงปรากฏ

เมื่อทารกมีแม่จริงๆ แล้ว เขายังคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล (egocentric) จะหยิบเดือนดาวหรือสุริยันจันทราได้ทั้งนั้น ดวงดาวและผู้คนล้วนโคจรรอบตัวเขาและเป็นไปตามที่ใจของเขาปรารถนา ความคิดที่ว่าเขาเป็นศูนย์กลางของจักรวาลนี้จะติดตัวเขาไปอีกนานจนถึงที่โรงเรียนอนุบาล นึกจะหยิบของเล่นที่เพื่อนถืออยู่ก็ไม่รู้จักขอ เพราะเห็นแต่ของเล่น ไม่เห็นเพื่อนในสายตา แม่เพิ่งจะมีอยู่จริงไม่นานนัก เพื่อนจึงไม่มีอยู่จริงสักเท่าไร

กว่าโลกจะมีมนุษย์คนอื่นจริงๆ ยังต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง

ระหว่าง 2-3 ขวบนี้เองที่ทารกจะเริ่มพัฒนาการทางภาษา ตอนนี้เขาไม่ใช่ทารกอีกแล้ว แต่เป็นเด็กเล็กที่เดินได้ มือใช้การได้ และพูดได้ อำนาจมากขึ้นในขณะที่ความคิดว่าตนเองเป็นจ้าวจักรวาลยังไม่หมดไป

เด็กเล็กพัฒนาภาษาด้วยการเล่นบทบาทสมมติ (role play) การเล่นบทบาทสมมติเป็นกลไกสำคัญในการเรียนรู้วิธีที่มนุษย์ใช้สื่อสารกันคือคำพูด เล่นเป็นพ่อครัว หมอ ครู ตำรวจ ซามูไร เด็กเล็กจะได้คำศัพท์งอกเงยมากมายนอกเหนือจากคำพูดที่พ่อแม่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ในช่วงขณะที่เล่นบทบาทสมมติ คำพูดของเด็กเล็กเป็นอาญาสิทธิ์ คำไหนคำนั้น

แม่อ่านหนังสือให้ฟัง นิทานก่อนนอน มีตัวอักษรบนหน้าหนังสือนิทาน มีรูปประกอบ หน้าหนังสือนั้นคือโลก (world) ตัวอักษรเลื่อนไป รูปเลื่อนตาม เหตุการณ์ในนิทานกระโดดโลดแล่นบนโลกที่เห็นต่อหน้า อักษรที่เห็นเป็นอาญาสิทธิ์ด้วย

คำไหนคำนั้น

นี่คือความสามารถที่หลงเหลือของทาเครุ หากมิใช่หลงเหลือก็เป็นเพราะมันได้เรียนวิชาลึกลับเพื่อขุดเอาความสามารถครั้งยังเป็นเด็กเล็กพ้นวัยทารกมาได้ไม่นานกลับคืนมา

สนุกมาก เพราะเราทุกคนก็อยากได้ความสามารถนั้นคืนมา

ทาเครุอาสาเจ้าหญิงเรตอาร์บุกป้อมปราการลึกลับเพื่อตามหาผู้ปองร้าย ที่ป้อมปราการนั้นมันจะได้พบสหายเจ้าหญิง นางปีศาจ และธิดามหาโจรที่ติดเรตอาร์ด้วยกันทั้งนั้น

อ่านเพลินตามสไตล์บูอิจิ เทราซาว่า