ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 มิถุนายน 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
มองบ้านมองเมือง / ปริญญา ตรีน้อยใส
จุดขายการท่องเที่ยวไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคงไม่ได้ตั้งใจวางแผนให้ ถนนสีลม เป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว หรือเป็นรายการต้องไปเที่ยวเล่นสงกรานต์
เพียงแค่กรุงเทพมหานคร จัดระเบียบ ปิดการจราจร ควบคุมดูแลความปลอดภัยและความสะอาด ถนนสีลมก็กลายเป็นสถานที่วิเศษสำหรับการเล่นสงกรานต์ในยุค 4.0
ซึ่งแน่นอน กิจกรรมทั้งหมดล้วนห่างไกลไปจากสิ่งที่กระทรวงวัฒนธรรมคิด
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่มีใครได้คิด ใครได้วางแผนวางผัง หรือได้ออกแบบบริเวณถนนสีลมแต่อย่างใด
เพียงแค่ร้านค้าในตึกแถวหรืออาคารริมถนน พร้อมใจกันชะโงกหน้ายื่นสินค้าออกมา หรือไม่ก็ต่อเติมหน้าร้านรุกล้ำไปบนบาทวิถี
ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยและรถเข็นเข้ายึดพื้นที่ทางเดินที่เหลือ ใช้เป็นที่ทำมาหากินตามอำเภอใจ
ตามด้วยกิจการร้านค้าเคลื่อนที่บนรถบรรทุกขนาดเล็ก ที่กลายเป็นแบบอย่างไปทั่วโลกในชื่อฟู้ดทรัก (Food Truck) เพียงแค่จอดรถริมถนนก็สามารถเปิดท้ายขายของหรือบริการอาหารได้เต็มรูปแบบ
ผู้คนที่แวะเวียนซื้อหาสิ่งของหรือนั่งรับประทานอาหาร ก็แค่ช่วงชิงที่ว่างที่พอจะเหลืออยู่บ้าง โดยไม่ต้องสนใจว่าโลกรอบข้างจะเป็นอย่างไร หรือใครกำลังทำอะไรอยู่
เมื่อไม่มีพื้นที่บนทางเท้าเหลือ ผู้สัญจรผ่านที่มีจำนวนมหาศาลในชั่วโมงเร่งรีบต้องไปเดินบนทางรถหรือถนนแทน
ซึ่งบังเอิญเป็นพื้นที่ของวินมอเตอร์ไซค์ที่จอดรถออรอให้บริการเป็นแถวแนว ปนไปกับรถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าร้านค้าร้านอาหาร
ยังมีรถตุ๊กตุ๊กและรถแท็กซี่จอดรอ จอดรับ และจอดส่งผู้โดยสาร รวมทั้งรถตู้ประจำทางและไม่ประจำทาง ส่งผลให้รถสองแถวสีแดง รถบัสเล็กสีเขียว และรถประจำทางคันใหญ่ ต้องหนีจอดห่างออกไปบนถนน เป็นหน้าที่ของผู้โดยสารที่ต้องวิ่งพล่านข้ามไปมา ขึ้นลงรถอย่างไม่หวั่นแม้วันมามากมาน้อย
ส่วนรถยนต์อื่นนั้นไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มีโอกาสวิ่งผ่าน เลยต้องจอดส่งกลิ่น ปล่อยควันจนอบอวล รวมกับมลภาวะอื่น
เหนือถนนขึ้นไปยังปกคลุมด้วยสกายวอล์ก ที่เชื่อมสถานีศาลาแดงของรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน เหนือขึ้นไปถึงจะเป็นรางสำหรับรถไฟฟ้าวิ่งไปมา โครงสร้างคอนกรีตที่แข็งแรง แต่ก็มีสภาพเสื่อมโทรมตามอายุการใช้งาน อีกทั้งอาบผิวยาวนานด้วยคราบควันและฉาบเขม่าดำจนดูสกปรก
ผิวคอนกรีตที่แน่นยังช่วยสะท้อนเสียงไปมาให้อึกทึกครึกโครม
โครงสร้างช่วงกว้างและทอดยาว ยังบดบังแสงแดดจากท้องฟ้า ทำให้พื้นที่ถนนทางเท้าด้านล่าง ไม่ร้อนในเวลากลางวัน และจะมืดสลัวเหมือนยามโพล้เพล้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ถนนสีลมจึงเป็นศูนย์รวมของมลภาวะ ยานพาหนะ และสิ่งก่อสร้าง ผู้คนจำนวนมากที่แก่งแย่งกันเดิน แก่งแย่งกันกิน แก่งแย่งกันซื้อ โดยไม่มีใครสนใจกฎเกณฑ์ ระเบียบ และเทศบัญญัติ
และตอนนี้สีลมยังเป็นพื้นที่พิเศษแห่งการท่องเที่ยว
เสียดายว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่รู้ว่าสภาพดังกล่าวมิได้เกิดเฉพาะที่ถนนสีลมเท่านั้น ยังมีอีกหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่มีลักษณะเช่นนี้
มากกว่านี้บ้าง น้อยกว่านี้บ้าง
โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมล้วนเสื่อมโทรมด้วยมลภาวะต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นไอเสีย อากาศเป็นพิษ เขม่าฝุ่น น้ำเสียจากอาคาร เศษอาหารจากร้านค้า ขยะจากผู้คน เสียงดังรบกวน และมลพิษอื่นๆ
สภาพไม่มีขื่อไม่มีแป ไร้กฎเกณฑ์ใดๆ และทุกคนคิดแค่จะเอาตัวรอดหรือให้มีชีวิตอยู่ต่อไป
แล้วก็กลายเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวไทยไปในที่สุด