ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 มิถุนายน 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว /“ศ. ดุสิต”
อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!
เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’
วิธีสร้างดวงพิเศษ (Special) (ต่อ)
วิธีสร้างดวงพิเศษ (ระดับ 2)
ทําคล้ายกับระดับ 1 นั่นแหละครับ แต่สูตรนี้ใช้อายุเต็ม อายุเต็มเท่าใดเอา 12 หาร จำผลลัพธ์ไว้ทั้งลัพธ์ทั้งเศษ (ลัพธ์นี้คือจำนวนรอบของลัคนาที่โคจรรอบจักรราศีมาแล้ว) จากนั้นนำลัพธ์ของผลหารนั้นมาตั้งที่ภพวินาสน์ของลัคนาเดิมแล้วนับไล่ย้อนหลังไปรอบละราศี ครบตามลัพธ์ที่ราศีใดกาไว้เป็น “ราศีรอบ”
ถ้ามีเศษให้นับเศษนั้นต่อจากราศีรอบไปจนครบเศษ ตกราศีใดเรียกว่า “ราศีอายุจร”
เอากำลังของดาวเกษตรราศีนั้นบวกกับอายุแล้วเอา 12 หาร ลัพธ์ทิ้งไปเอาแต่เศษมานับจากราศีอายุไปจนครบ ตกที่ราศีใด “ลัคนาจร” สถิตราศีนั้น และใช้ลัคนานี้เป็นตัวอ่านชาตาในปีนั้น
วิธีอ่าน
ปีนั้นมีเรื่องอะไรที่สำคัญ ก็ใช้ลัคนานี้อ่านไปที่ภพนั้นตามปกติ แต่ต้องอ่านซ้อนกับภพของลัคนาเดิมตามกฎภพซ้อนดาวซ้อนด้วย ถ้ามีผลที่น่าสงสัยหรือไม่ชัดเจน ให้ใช้ “ราศีรอบ” ตรวจซ้ำโดยถือเอาว่ามี “ตนุ” อยู่ที่ราศีนั้นอีกชุดหนึ่ง แต่ชุดนี้จะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ จะใช้เฉพาะมีเรื่องที่น่าสงสัยหรือต้องการความชัดเจนเท่านั้น
ดูตัวอย่างดวงระดับ 2 จะเป็นดังนี้
เจ้าชาตานี้เกิด 22 เมษายน 2493 ปัจจุบันอายุเต็ม 63 ย่าง 64 ปี เอา 12 หาร 63 ได้ลัพธ์ 5 เศษ 3 จึงขึ้นต้นนับรอบที่ภพวินาสน์ (ราศีพฤษภ) ย้อนหลังไป 5 ราศี ตกที่ราศีมังกร มีเศษอีก 3 นับต่อไปอีกจะตกที่ราศีตุล
กาตรงนี้ว่าเป็น “ราศีรอบ”
ราศีตุลมีดาวศุกร์เป็นเกษตรกำลัง 21 จึงเอา 21 + 63 = 84 หารด้วย 12 ลงตัวไม่มีเศษเท่ากับเศษ 12 จึงนับจากราศีตุลไป 12 ราศีตกที่ราศีกันย์ “ลัคนาจร” จึงสถิตที่นั่น
เมื่อได้ลัคนาแล้วจะอ่านเรื่องใดก็อ่านไปได้ตามกฎที่บอกไว้แล้วนั่นแหละ
ถ้าการอ่านมีการติดขัดหรือไม่ชัดเจน ก็บอกแล้วว่าให้ใช้ “ราศีรอบ” เป็นตัวอ่านตัดสิน
แต่ในความเป็นจริงนั้น ราศีรอบนี้มีความสำคัญอยู่ในตัวด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นราศีที่ชีวิตของเจ้าชาตาได้ผ่านมาแล้ว ทั้งชั่วทั้งดีทั้งได้ทั้งเสียมีอยู่ในราศีเหล่านั้นทั้งสิ้น
แต่การอ่านในแต่ละราศีนั้นได้ ผู้อ่านควรเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการอ่านดวงมากหน่อยจึงจะสามารถอ่านได้ดีและถูกต้อง
เพราะเมื่อราศีรอบต้องทำการตัดสินนั้น คำตัดสินที่ได้มาก็ได้มาจากข้อมูลในชีวิตที่ผ่านมานั่นแหละ
จึงขอให้เข้าใจแต่เพียงนี้ไว้ก่อน
ว่ามาแค่นี้ก็คงพอที่จะทำความเข้าใจในการสร้างดวงพิเศษนี้ได้แล้ว ดวงนี้อาจจะไม่ง่ายในการที่จะใช้ แต่ก็นำมาเสนอไว้เพื่ออย่างน้อยก็เป็นความรู้ประดับตน จะใช้หรือยังไม่ใช้ก็สุดแต่กาลเวลาที่จะบอกตัวเองว่ามีความสามารถที่จะใช้ได้หรือยัง จริงไหมครับ?
วิธีสร้างดวงพิเศษสุด (Premium)
การสร้างดวงพิเศษสุดนี้ การสร้างอาจจะซับซ้อนกว่าดวงอื่นอยู่บ้าง
และการใช้ดวงนี้ก็จะต้องเป็นการใช้ในกรณีที่พิเศษสุดจริงๆ ด้วยจึงจะถูกต้อง
นั่นเป็นกฎที่ผู้สร้างดวงนี้กำหนดไว้
บางคนอาจจะสงสัยอยู่บ้างว่า เรื่องอย่างไรถึงจะเรียกว่าเป็นเรื่องพิเศษสุดจนถึงขนาดจะต้องใช้สูตรนี้มาทำนาย
ซึ่งเรื่องอย่างนี้จะพูดตายตัวว่าเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องที่พิเศษสุดสำหรับบุคคลนั้นนั่นแหละ แต่เรื่องเดียวกันนั้นมันอาจจะไม่สำคัญเลยกับอีกบุคคลก็ได้
พูดง่ายๆ ก็คือ จะต้องใช้วิจารณญาณเอาเองว่าเรื่องสำคัญขนาดนี้ควรใช้สูตรนี้หรือยังเท่านั้นเอง
เช่น…
– เป็นคดีความกันอยู่ในศาล ถ้าแพ้จะถูกยึดทรัพย์ยึดบ้าน ฯลฯ
– ไปดูหมอ (ดู) ที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง หมอดูบอกว่า อีกไม่เกินสามเดือนจะหมดอายุขัย ตัวเองเป็นกังวลมาก
– เกิดภาวะวิกฤติกับชีวิต ตกงาน ไม่มีรายได้เลย แต่ต้องรับผิดชอบรายจ่ายในครอบครัวทั้งหมด และเจ้าหนี้ก็เร่งรัดอยู่ในขณะนี้ (จนอยากจะฆ่าตัวตาย)
– เกิดกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในขั้นรุนแรง (ระดับที่อาจเสียชีวิตได้)
– มีงานชิ้นสำคัญที่สุดในชีวิตกำลังทำอยู่ ต้องการรู้ว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร
– ฯลฯ
นี่เป็นตัวอย่างเรื่องสำคัญของแต่ละบุคคลที่นำมาให้ดู จะเห็นได้ว่าบางเรื่องก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเราเลย แต่มันสำคัญกับตัวบุคคลนั้นๆ โดยเฉพาะ ดังนั้น เจ้าของเรื่องที่รุนแรงแบบที่ว่านี้ก็สามารถทำดวงพิเศษสุดนี้ตรวจชาตาตัวเองได้ตามกฎที่เกจิท่านวางเอาไว้
เอ้า-ถ้าเราจะใช้ดวงนี้มาดูเรื่องแบบธรรมดาๆ มั่งล่ะ มันจะเป็นไง มันไม่ดีตรงไหนเหรอ?
ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรอกครับ แต่เหมือนกับปลวกขึ้นบ้านแทะผนังครัวของคุณอยู่ คุณปิดบ้านแล้วจุดไฟเผาบ้านให้เจ้าปลวกนั้นวอดวายไปเลย ได้ผลสมใจที่ปลวกเหล่านั้นตายหมด แต่คุณว่ามันคุ้มกันไหมครับ?
“แม่เจ้าโวย-นี่หมายความว่าดวงพิเศษสุดนี่น่ะ ทรงคุณค่าถึงขนาดนี้เชียวรึคะ ’จารย์?”
เรื่องคุณค่าน่ะไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ การันตีได้เลยว่าพิเศษสุดสมกับชื่อแน่ (ถ้าคุณมีพื้นที่เข้าถึงการอ่านได้ดีนะ) แต่ที่แน่กว่านั้นก็คือ “การสร้างดวง” นี้แหละครับ ถ้าคุณรู้วิธีสร้างดวงแล้ว คุณก็คงจะเห็นได้เองว่า ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงจะคุ้มไหมกับการสร้างดวงนี้ขึ้นมา
อย่าพูดมากเลยครับ มาดูวิธีสร้างดวงนี้กันเลยดีกว่า
ดูซิว่าจะ Premium สมกับชื่อไหม?
วิธีการสร้างมีดังนี้
– ผูกดวงกำเนิดขึ้นตามปกติ
– ขับดาวทุกดวงในดวงชาตากำเนิดโดยคำนวณจากกำลังของดาวแต่ละดวงนั้น ดาวใดมีกำลังเท่าใด ก็จะสถิตอยู่ในราศีนั้นเป็นจำนวนปีตามจำนวนกำลังของตน เช่น อาทิตย์กำลัง 6 ก็สถิตอยู่ราศีละ 6 ปี ศุกร์กำลัง 21 ก็สถิตราศีละ 21 ปี ครบแล้วจึงจะจรไปราศีข้างหน้า และสถิตอยู่ที่ราศีนั้นอีกตามกำลังของตัว เป็นอย่างนี้ทุกดาวจนครบทั้ง 10 ดวง
แต่มีวิธีลัดเพื่อร่นเวลาการขับดาวด้วยวิธีนี้
– ตั้งอายุเต็มของเจ้าชาตาขึ้นตราไว้ แล้วนำกำลังของดาวที่จะขับมาหารอายุเต็มของเจ้าชาตา จำผลลัพธ์และเศษของผลหารไว้ ลัพธ์นั้นถ้าเกิน 12 ให้นำ 12 หาร แล้วขับดาวนั้นไปตามลัพธ์ที่ปรากฏอยู่ (ถ้ามีเศษให้บวก 1 กับลัพธ์) โดยนับหนึ่งที่ดาวนั้นสถิตอยู่ไปข้างหน้า
ตกที่ราศีใด ดาวนั้นก็สถิตอยู่ที่นั่น
ทำอย่างนี้ทุกดาว สำหรับราหูและเกตุให้นับถอยหลังตามทิศทางของเขา ส่วนดาวมฤตยูนั้นท่านให้ถือว่ามีกำลัง ๑๔ ตามกฎของกำลังบาปเคราะห์ (โดยถือว่ามฤตยูนั้นนับต่อจากราหู)
– ลัคนาสถิตในราศีใด (ในดวงกำเนิด) ให้นำกำลังของเกษตรราศีนั้นบวกกับอายุเต็มของเจ้าชาตาแล้วเอา 12 หาร เศษเท่าใดนับจากที่ตั้งลัคนาไปตามเศษ ตกที่ราศีใด ลัคนาสถิตอยู่ที่นั่น
อ่านกฎนี้ให้ละเอียดด้วยความพินิจพิเคราะห์ ลัพธ์ที่ได้จากการหารนั้นคือรอบของดาวที่เดินไปแล้วในจักรราศี เศษคือส่วนที่เกินรอบนั้นแต่ยังไม่ครบตามกำลังของดาว การขับจะต้องขับไปตามผลลัพธ์ ถ้ามีเศษที่ยังไม่ครบตามกำลังของดาวนั้น ให้บวกเข้าไปในลัพธ์นั้นอีกหนึ่ง เช่น ลัพธ์ 5 เศษ 4 ของดาวอาทิตย์ ให้ขับดาวอาทิตย์ไปหกราศี หรือลัพธ์ 4 เศษ 19 ของดาวศุกร์ ให้ขับดาวศุกร์ไป 5 ราศี เพราะในปีนั้นดาวศุกร์ได้จรไปครบ 4 ราศีและเข้าไปสถิตยังราศีที่ 5 แล้ว จะต้องสถิตในราศีที่ 5 นี้อีกสองปีจึงจะครบตามกำลังของตนซึ่งมี 21 ครบแล้วจึงจะจรยกราศีต่อไปได้
การขับดาวนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก จะทำผิดไม่ได้ จึงขอให้เข้าใจในเรื่องนี้ให้มาก อย่าประมาทในเรื่องนี้เป็นอันขาด
มิฉะนั้นการพยากรณ์จะไม่ได้ผลดีเลย
เนื้อที่หมดลงอีกแล้ว ในตอนหน้าผมจะทำตัวอย่างดวงชาตาที่ขับโดยสูตรนี้ให้ดูนะครับ โปรดติดตาม