แซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ตัดสินใจใช้สิทธิ “วีโต้” รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายจุสเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ส่งผลให้การเมืองอิตาลียังคงความโกลาหลต่อไปอีก หลังจากยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลขึ้นได้นับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

การตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของมัตตาเรลลาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้คอนเตในฐานะนายกรัฐมนตรีตัวแทนพรรคพันธมิตรประชานิยม ผู้ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งได้เพียงสัปดาห์เดียวตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

ประธานาธิบดีวัย 75 ปี ระบุว่า ตนทำทุกสิ่งที่เป็นไปได้เพื่อช่วยให้คณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น แต่ตนจะไม่ยอม “ก้มหัว” ให้สิ่งที่จะขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศ

และนั่นหมายความถึงการแต่งตั้งรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป ที่มีมุมมองว่าพร้อมที่จะนำอิตาลีออกจากกลุ่มประเทศยูโรโซนหากจำเป็น

 

แซร์โจ มัตตาเรลลา มีประสบการณ์ทางการเมืองในระดับสูง เคยทำงานให้กับทั้งรัฐบาลปีกซ้ายและปีกขวา เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการในปี 1989-1990 รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมระหว่างปี 1999-2001

ช่วงเวลาในฐานะนักการเมืองในรัฐสภาอิตาลี ระยะเวลา 25 ปี มัตตาเรลลายังเป็นผู้ร่างกฎหมายปฏิรูปการเลือกตั้งที่ถูกเรียกตามชื่อของเขาว่า “มัตตาเรลลัม”

ก่อนที่จะได้รับเลือกขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอิตาลี ในปี 2015 มัตตาเรลลายังได้รับเลือกให้เป็นผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยประสบการณ์ในฐานะนักวิชาการทางกฎหมายระดับอาจารย์

มัตตาเรลลา ชายใส่แว่นตามีบุคลิกในแบบที่นักวิชาการควรเป็น มากกว่าบุคลิกในแบบนักการเมือง ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองด้วยจุดเปลี่ยนอันน่าเศร้า

ในปี 1980 เพียซานติ มัตตาเรลลา พี่ชายผู้ประสบความสำเร็จทางการเมืองจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีแคว้นปกครองตนเองซิซิลี เกาะตอนใต้ของอิตาลี ถูกลอบยิงอย่างเลือดเย็นโดยกลุ่มมาเฟีย “โคซา นอสตรา”

ลูกชายของ “เบอร์นาโด มัตตาเรลลา” นักการเมืองผู้โด่งดังแห่งซิซิชี จากพรรคคริสเตียน เดโมแครต ตัดสินใจที่จะตัดความสัมพันธ์ระหว่างพรรคกลางขวาของตนกับกลุ่มอาชญากรในเงามืด และนั่นแลกมาด้วยชีวิตของเพียซานติ

เพียซานติถูกมือปืนยิงขณะนั่งในรถเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1980 และแซร์โจน้องชายเป็นคนแรกๆ ที่ไปถึงที่เกิดเหตุและเป็นคนอุ้มพี่ชายส่งโรงพยาบาล ทว่า เพียซานติเสียชีวิตลงระหว่างทาง

“เขาอยู่ในรถกับลูกและภรรยา มือปืนเข้าประชิดรถและยิงเขาแม้ว่าภรรยาเขาจะใช้มือพยายามปิดศีรษะเพื่อปกป้องพี่ชายผม ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอบาดเจ็บด้วย” มัตตาเรลลาเล่ากับซีเอ็นเอ็นหลังรับตำแหน่งเมื่อปี 2015 “มันเป็นความทรงจำที่ชัดเจน” มัตตาเรลลาระบุด้วยน้ำตาคลอเบ้า

และว่า “มันเจ็บปวดสำหรับผมมาก”

 

มัตตาเรลลาเกิดในเมืองปาแลร์โม ในครอบครัวนักการเมืองที่มีชื่อเสียงบนเกาะซิซิลี “แบร์นาร์โด มัตตาเรลลา” ผู้พ่อเป็นผู้ก่อตั้งพรรคคริสเตียน เดโมเครซี พรรคที่มีบทบาทในการเมืองอิตาลีกินเวลายาวนานถึง 50 ปี

มัตตาเรลลาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซาปิเอนซาแห่งกรุงโรม ในปี 1964 ก่อนที่ในอีกไม่กี่ปีต่อมาจะสามารถเข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนวิชากระบวนการรัฐสภา ที่มหาวิทยาลัยปาแลร์โม ก่อนจะเข้าสู่แวดวงการเมืองอย่างเต็มตัวในปี 1983

มัตตาเรลลาสามารถไต่เต้าทางการเมืองได้ถึงตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการ รัฐมนตรีกลาโหม รองนายกรัฐมนตรี ก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีในที่สุด

“เขาเป็นตัวแทนของซิซิลีที่ขาวสะอาด เป็นผู้ที่ต้องสูญเสียอย่างโหดร้ายเพื่อแลกมาซึ่งเกาะซิซิลีที่หลุดพ้นจากแก๊งมาเฟีย” โรซาริโอ โครเซตตา ประธานาธิบดีซิซิลีคนปัจจุบันระบุถึงมัตตาเรลลา

 

ชื่อเสียงของมัตตาเรลลาในฐานะผู้ที่มีความเชื่อมั่นและซื่อสัตย์ ส่งผลให้เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงทางการเมืองอย่างรวดเร็วในรัฐบาลพรรคพันธมิตรปีกขวานำโดยพรรคคริสเตียนเดโมแครตหลายยุคหลายสมัย

ทว่ามัตตาเรลลาผู้มีมุมมองทางการเมืองเอียงซ้ายหันหลังให้พรรคปีกขวาในปี 1990 ในฐานะ 1 ใน 5 รัฐมนตรีที่ประกาศลาออกเพื่อประท้วงกฎหมายควบคุมสื่อที่เอื้อต่อผลประโยชน์กลุ่มทุนสื่อของ “ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี” มหาเศรษฐีนักธุรกิจชื่อดังที่กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลีในเวลาต่อมา

เวลานี้มัตตาเรลลาต้องเผชิญกับความท้าทายในการประคับประคองอิตาลีไปสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้ การเลือกตั้งที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นการลงประชามติของประชาชนว่าต้องการให้อิตาลีอยู่กับอียูต่อไปหรือไม่