ผิด-เพี้ยน

ยิ่งนานวันพรรคอนาคตใหม่ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าใช้ศัพท์มวย ต้องเรียกว่า “ยิ่งชกยิ่งตัวใหญ่”

ในช่วงแรก “อนาคตใหม่” ถูกมองว่าเหมือนกับพรรคการเมืองของ “เด็ก” ที่ฝันเฟื่อง

ไร้เดียงสาทางการเมือง

ผู้กุมอำนาจคิดว่าปล่อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ฝ่อไปเอง

เพราะโลกการเมืองซับซ้อนกว่าที่ “เด็ก” กลุ่มนี้จะเข้าใจ

แต่ใครจะนึกว่ายิ่งนานวัน ชื่อ “ธนาธร” เริ่มขยายวงการยอมรับขึ้นเรื่อยๆ

ที่น่าสนใจก็คือ เขาแสดงความชัดเจนทางอุดมการณ์ประชาธิปไตย

พร้อม “ฉีก-รื้อ-ลบทิ้ง” อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งปลูกสร้างทางการเมืองของ คสช. ซึ่งเขาถือเป็น “รากเหง้า” ของ “เผด็จการ”

“ผมอาจไร้เดียงสาทางการเมือง แต่ผมซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย”

วาทะของ “ธนาธร” ประโยคนี้ยิ่งทำให้เขา “หล่อ” ขึ้นเรื่อยๆ

และชัดเจนว่าแนวทางของ “อนาคตใหม่” คือการ Disrupt “เผด็จการ” ทุกรูปแบบ

วันนี้ “อนาคตใหม่” จึงไม่ใช่ “พรรคการเมือง” ของ “เด็ก” อย่างที่ผู้มีอำนาจคาดคิด

แต่กลับกลายเป็น “อเวนเจอร์” คนใหม่

ที่น่ากลัวยิ่งกว่า “เพื่อไทย”

ประเด็นที่แหลมคมอย่างยิ่งที่ “ธนาธร” จุดพลุขึ้นมาในวันเลือกกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่

นั่นคือ แนวคิดเรื่องรัฐธรรมนูญปี 2560

เขาไม่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แต่บอกชัดว่า ถ้าเข้าไปมีอำนาจทางการเมืองเมื่อไร

“ฉีก” อย่างเดียว

แบบ “ไม่มีเงื่อนไข” ใดๆ ทั้งสิ้น

และพร้อมนิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมืองในยุค คสช.

“ประกาศและคำสั่ง คสช. คือ “ปืน” ที่เอากฎหมายมาห่อไว้ นั่นไม่ใช่กฎหมาย”

เป็นคำยืนยันจุดยืนที่ชัดเจนของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

ช่างเป็นพรรคที่ชัดเจน

ไม่ต้องตีความอะไรเลย

ไม่แปลกที่หลังจากวาทะ “ฉีกรัฐธรรมนูญ” เผยแพร่ออกไปย่อมถูกสวนกลับจาก “แกนนำ” รัฐบาลและ คสช.

โดยเฉพาะการชี้ว่าการประกาศฉีกรัฐธรรมนูญ

“ระวังจะมีปัญหา”

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ถ้าคนที่ออกมาชน “ธนาธร” เป็นคนอื่น

ไม่ใช่ คสช.

ความเห็นนี้ก็น่ารับฟัง

แต่พอเป็นความเห็นจาก คสช.

คนที่เคยฉีกรัฐธรรมนูญด้วยกระบอกปืนมาก่อน

ประโยคเดียวกันก็กลับกลายเป็นเรื่องขำขันทางการเมือง

เพราะแค่ “พูด” กลับ “ผิด”

แต่ “ลงมือทำ”…ไม่ผิด

“ฉีก” โดยใช้อาวุธรัฐประหาร…ไม่ผิด

แต่ “ฉีก” ด้วยประชามติของประชาชน…ผิด

ถ้าตรรกะเป็นเช่นนี้

หากกติกาไม่ผิด

คนพูดก็ต้อง…

I can see your voice