บทวิเคราะห์ : “ธนาธร” ลั่น ร่วมล้างความหวาดกลัว กล้าไม่เอา รธน. ต้าน “นายกฯ คนนอก” ลดอำนาจ “ทหาร”

การประชุมใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ณ อาคารยิมเนเซียม 5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันที่ 27 พฤษภาคม

บรรยากาศไม่เพียงคึกคัก ด้วยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรค 474 คน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมมากกว่า 3,000 คน ในวาระเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรก

ยังร้อนแรงและแหลมคม ด้วยจุดยืน แนวทางการเมืองของพรรค ไม่ว่าประกาศผ่านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือนายปิยบุตร แสงกนกกุล

ไม่ว่าในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ในแบบรื้อทิ้งทั้งฉบับแล้วเขียนขึ้นใหม่ การนิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมืองยุค คสช. ปลุกกระแสต่อต้านการสืบทอดอำนาจ นโยบายรัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือทหาร ฯลฯ

เหล่านี้ล้วนเป็นประเด็นสร้างความสนใจอย่างกว้างขวาง ทั้งประชาชน สื่อมวลชน นักการเมือง รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สำหรับคณะกรรมการบริหารพรรค องค์ประชุมสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรค 474 คนลงมติเลือก ดังนี้

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค

น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1

นายชำนาญ จันทร์เรือง เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 2

พล.ท.พงศกร รอดชมภู เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 3

นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 4

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค

นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เป็นเหรัญญิกพรรค

นายไกลก้อง ไวทยาการ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค

และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นโฆษกพรรค

นอกจากนี้ ยังมีกรรมการบริหารพรรคส่วนภูมิภาคทั้ง 4 ภาค และกรรมการบริหารพรรคด้านอื่นๆ อาทิ กรรมการบริหารพรรคเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน กรรมการบริหารพรรคเครือข่ายเยาวชน-คนรุ่นใหม่

ภายหลังการแนะนำตัวและส่งมอบภารกิจให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรก วาระ 4 ปี ทั้งหมดในห้องประชุมได้ร่วมกันเปิดไฟฉายจากสมาร์ตโฟน

สะท้อนการขับไล่ความมืดมิดที่ครอบงำสังคมไทย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมตอบข้อซักถาม

ในประเด็นการส่งบัญชีชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ ประเด็นกระแสการเมืองที่ คสช. ต้องการสืบทอดอำนาจ ตลอดจนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560

ประเด็นแรก นายธนาธรยืนยันพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคจะไม่สนับสนุน “นายกฯ คนนอก” แน่นอน

พร้อมกันนี้ยังชักชวนประชาชนร่วมกันหยุดภารกิจสืบทอดอำนาจ คสช. หรือหากจะให้ถูก ต้องเรียกว่าหยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ

สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พรรคอนาคตใหม่ขอทำงานทางความคิด เพื่อดึงจิตวิญญาณของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กับกระแส “ธงเขียว” กลับคืนมา

นายปิยบุตรกล่าวเสริมว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนให้แก้โดยไม่ให้แก้

พรรคอนาคตใหม่ต้องการปักธงทางความคิด ต้องการ “เส้นแบ่ง” พรรคการเมืองเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และต้องใช้การรณรงค์ทางการเมืองเพื่อให้ฉันทามติเห็นร่วมกันว่า มันไปต่อไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลง

“เข้าสภาเมื่อไร วันแรกจะเสนอเรื่องนี้ทันที วิธีแก้จะเริ่มจากมาตรา 279 ที่ให้ความคุ้มกันบรรดาคำสั่ง คสช. ปืนที่ห่อกฎหมายมันไม่ใช่ความยุติธรรม”

และยังจะเสนอให้ “นิรโทษกรรม” นักโทษคดีการเมืองยุค คสช.

เมื่อถามถึงการที่ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ลงพื้นที่หลายจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการแสดงออกในการต่อต้าน คสช. อย่างเด่นชัด กังวลว่าจะไปถึงวันเลือกตั้งหรือไม่

คำตอบจากนายธนาธร ก็คือ เราไม่ได้ทำอะไรผิด คนจะถามว่าล้ำเส้นหรือไม่ แต่หากทุกพรรคร่วมกันทำ เส้นเหล่านี้จะหายไปเอง เพราะถ้ากลัวติดกับดักก็ทำอะไรไม่ได้

“เลิกกลัวได้แล้ว ถ้าคุณ 1 คนยืนขึ้น เราจะกลัวเขา แต่ถ้าเรายืนขึ้น 1 หมื่นคน เขาต้องกลัวเรา เรื่องพวกนี้เล็กน้อยเกินไป เราคำนึงถึงแต่ไม่ใช่เหตุให้เราหยุดทำอะไรเลย”

ท้าทายและชัดเจน

เช่นเดียวกับแนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คำตอบของนายธนาธร คือ

“ไม่มี การแก้ไข แก้ไขไม่ได้ ฉีกเลย ล้ม”

ธนาธรยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตอกย้ำเรื่องนี้ว่า การมีรัฐธรรมนูญใหม่คือทางออกของสังคม เพื่ออนาคตใหม่ที่เสรี เป็นธรรม ไร้การสืบทอดอำนาจ

เราไม่สามารถอยู่กับมรดก คสช. ชิ้นใหญ่ ที่ทำขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจ รวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง วางกลไกเพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการบริหารประเทศได้

ส่วนการแก้ไขหรือยกร่างรัฐธรรมใหม่ทั้งฉบับ จะมีความชอบธรรมหากทำโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ด้วยวิธีเดียวกับที่เคยก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญปี 2540 คือ

การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ข้อเสนอของ “ธนาธร-ปิยบุตร” ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการนิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมืองยุค คสช. ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคมไม่น้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. กล่าวว่า เป็นเรื่องของ คสช. ที่จะติดตามว่าการดำเนินการใดๆ เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ มีข้อบังคับอยู่หรือไม่

ทั้งยังเตือนไปถึงแกนนำพรรคว่า ทำอะไรขอให้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ การประชุมพรรค การจัดหาสมาชิกพรรคก็ว่ากันไป แต่การมาติติงให้ร้าย สมควรหรือไม่ ต้องไปดูในประเด็นข้อกฎหมาย

ถึง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะระบุ

การที่พรรคอนาคตใหม่แถลงเปิดตัวพร้อมชูนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมืองยุค คสช. เป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะสุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนจะสนับสนุนหรือไม่ ต้องรอดูในการเลือกตั้ง

แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มองต่างออกไป ตรงจุดที่นายธนาธร ใช้คำว่า “ฉีก” รัฐธรรมนูญ ถือว่ารุนแรงและอาจเป็นปัญหาในอนาคต

“พรรคการเมืองบอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่สามารถบอกว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญ บางคำพูดอาจไม่ผิดในวันนี้ แต่จะผิดในวันหน้า ดังนั้น อย่าทำอะไรพลาด”

สอดรับกับพี่ใหญ่ คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ยืนยัน

การฉีกรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ และเรื่องนี้ทาง กกต. ดำเนินการอยู่ เช่นเดียวกับแนวคิดนิรโทษกรรมคดีการเมือง ก็ต้องให้ กกต. ดูว่าผิดหรือถูกอย่างไร แต่ในความเห็นของตน เป็นการหาเสียงล่วงหน้า

ขณะที่ในมุมมองฝ่ายการเมืองมีอย่างน้อย 2 พรรค เพื่อไทยกับชาติไทยพัฒนา ที่สนับสนุนแนวคิดของนายธนาธร

ในการสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริงขึ้นใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ส่วนที่บางฝ่ายพยายามนำคำว่า “ฉีก” รัฐธรรมนูญ มาเป็นประเด็น “ฮึ่ม” ใส่นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่

นายชำนาญ จันทร์เรือง กล่าวอธิบายคำว่า “ฉีกรัฐธรรมนูญ” ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นเพียงการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

หมายถึงการแก้รัฐธรรมนูญ “ทั้งฉบับ”

ยกตัวอย่างเหมือนตอนร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นใหม่ทั้งฉบับ ก็เป็นการฉีกฉบับเดิมโดยใช้วิธีการตามกฎหมายที่นำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. มาทำหน้าที่ยกร่าง

“ไม่เข้าใจว่าจะโกรธ จะฮึ่มทำไม ในเมื่อจะฉีกรัฐธรรมนูญด้วยวิถีทางตามกฎหมาย ไม่ได้ฉีกด้วยวิธีการยึดอำนาจเสียหน่อย” รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวแบบทำให้ใครบางคนต้องสะอึก

แค่ประดาบก็เลือดเดือด

หากที่ผ่านมาในทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของผู้มีอำนาจและต้องการสืบทอดอำนาจ ในการทำลายล้างทุกวิถีทางให้สิ้นซาก

การก่อรูปของพรรคอนาคตใหม่ ด้วยจุดยืนอันเข้มแข็งและอุดมการณ์อันฮึกห้าว ท้าทายผู้มีอำนาจอย่างไม่กลัวเกรง

ดูแล้ว น่าจะยึดครองความเป็นเป้าหมายอันดับ 2 ได้ไม่ยาก