รายงานพิเศษ

 

ระอุโผทหาร ส่งท้าย คสช.

‘บิ๊กป้อม’ เอาอยู่? วัดอนาคต ‘บิ๊กตู่’

จับตาศึก ‘เสือป่า’ แจ้งวัฒนะ

ส่อง ‘บิ๊กแช’ คิตตี้อีสาน ยังเฮิร์ต

กับข่าวลือที่ทุ่งดอนเมือง

นายทหารในกองทัพพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กองทัพอีกไม่กี่อึดใจ คงจะมีเรื่องวุ่นๆ แน่ เพราะกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารครั้งใหญ่

ที่ตอนนี้มีรายงานว่า ผบ.เหล่าทัพมีการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายพลกันแล้ว เพราะภายในกลางกรกฎาคมนี้ จะต้องหารือโผแรกกับบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม

และถูกจับจ้องอย่างมากว่า จะเป็นโผโยกย้ายทหารระดับนายพลครั้งสุดท้ายของรัฐบาล คสช. ของ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในกุมภาพันธ์ 2562 จริงๆ

ด้วยเพราะโผนี้จะต้องมีการเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพกันแบบยกแผง ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในอดีต ที่ทั้งปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. จะเกษียณพร้อมกัน

การโยกย้ายทหารครั้งนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเป็นการจัดทัพเพื่อวางขุมกำลังและฐานอำนาจให้กับรัฐบาล คสช. ซึ่งความจริงแล้วก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ด้วยซ้ำไป

ยิ่งเมื่อบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องลงสู่สนามการเมือง กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ที่กระแสการตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนกลาง กำลังมาแรง

จึงยังคงจำเป็นที่ต้องมีกองทัพหนุนหลัง พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป เพื่อความเป็นนายกฯ ที่น่าเกรงขามของนักการเมือง

 

โดยเฉพาะการวางตัวบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. ไว้เป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2563 โดยที่ยังไม่นับรวมหากมีการยืดอายุเกษียณราชการเป็น 63 ปี

ที่แม้จะมีข่าวลือต่างๆ มากมาย แต่วงใน ทบ. รู้กันดีว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ได้รับเครื่องหมายสำคัญอีกขั้นหนึ่งมาประดับเครื่องแบบ หลังการฝึกหลักสูตรสำคัญแล้วล่าสุด

แต่ที่ส่อเค้าวุ่นวาย เพราะการแย่งชิงเก้าอี้ในกองทัพเรือและกองทัพอากาศยังคงเข้มข้น

ทั้งบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. กับบิ๊กตุ๋ย พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. ที่แม้จะเป็นเพื่อนเตรียมทหาร 18 ด้วยกันก็ตาม โดยมีทั้งบิ๊กโส พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล ประธานที่ปรึกษา และบิ๊กนวล พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ผช.ผบ.ทร. เพื่อน ตท.18 เช่นกัน เป็นตัวสอดแทรก เพราะต่างยังไม่มีใครยอมให้ใคร

เช่นเดียวกันกับ ทอ. ที่มีข่าวสะพัดในทุ่งดอนเมืองว่า บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. จะใช้วิธีการเสนอชื่อ 3 แคนดิเดต ที่ล้วนเป็นเตรียมทหาร 18 ให้ พล.อ.ประวิตรพิจารณา ทั้งบิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผช.ผบ.ทอ. บิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม เสธ.ทอ. และบิ๊กหมู พล.อ.อ.ปรเมศร์ เกษโกวิท ผบ.คปอ.

โดยเฉพาะสูตรที่ว่า ให้ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์เป็นก่อน 1 ปี หาก “เคลียร์” ได้ หรือเป็น พล.อ.อ.ปรเมศร์ เป็นก่อน 1 ปี แล้วต่อด้วย พล.อ.อ.วันชัย ที่เกษียณตุลาคม 2563

แต่ไม่มีการพูดถึงชื่อบิ๊กโหน่ง พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผช.ผบ.ทอ. เตรียมทหาร 18 อีกคน ที่เพิ่งย้ายกลับมาจากรอง เสธ.ทหาร บก.กองทัพไทย และถูกมองว่ามีความสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร

ประหนึ่งว่า หาก พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ได้เป็น ผบ.ทอ. ก็ย่อมหมายถึงว่า พล.อ.ประวิตรพิจารณาเลือกเอง โดยที่ พล.อ.อ.จอมไม่ได้เสนอชื่อ

กระแสข่าวนี้เองที่ทำให้ พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ไม่ค่อยมาร่วมงานสำคัญของ ทอ. หรืองานที่มี พล.อ.อ.จอม แต่จะไปทำงานในหน้าที่ของตนเอง

จนทำให้กลายเป็นที่จับตามองกันในกองทัพอากาศว่า ข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งอีกไม่นานจะมีคำตอบ

 

ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพไทย ดูเหมือนจะเงียบสงบ แต่ทว่าระอุภายในและรอวันเดือดในอีกไม่ช้านี้

แม้จะมีสัญญาณดีๆ สำหรับบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร ที่จะได้เป็น ผบ.ทหารสูงสุด คนใหม่ แทนบิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ที่จะเกษียณราชการ

แต่ก็มีปฏิบัติการเตะตัดขาเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ

โดยเฉพาะการโยนระเบิดเรื่อง ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา ที่พัวพันคดีเงินทอนวัด ที่แม้จะเป็นนายทหารประจำศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) แต่ทว่าก็มีหนังสือขอตัวไปช่วยราชการที่สำนักงานของ พล.อ.พรพิพัฒน์ ตั้งแต่เป็นรอง เสธ.ทหาร

จนมีการกระพือข่าวว่า หมวดฐิติทัศน์เป็นเด็กของ พล.อ.พรพิพัฒน์ ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยมาทำงานที่สำนักงานเลย และไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับ พล.อ.พรพิพัฒน์

แต่ทว่ามีอดีตบิ๊กทหาร อดีตผู้บังคับบัญชา ฝากมาอีกทอดหนึ่ง และให้ไปช่วยราชการกับนายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส ผู้ว่าการ สตง. ตั้งแต่ต้น

ข่าวที่ออกมาแบบนี้ ส่งผลให้บิ๊กๆ ทหารใน บก.กองทัพไทยหลายคนมองหน้ากันไม่ติด เพราะต่างฝ่ายต่างพยายามปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับหมวดฐิติทัศน์คนนี้

แม้เรื่องนี้จะคลี่คลายไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่ร่องรอยความหมางใจกัน ยังคงปรากฏ ที่คาดกันว่าจะไปปรากฏในการแต่งตั้งโยกย้ายกันยายนนี้

เพราะนอกจากจะลุ้นกันว่าจะมี “เสือข้ามห้วย” มาเสียบเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ตัดหน้า พล.อ.พรพิพัฒน์ หรือไม่

เพราะมีบูรพาพยัคฆ์น้องรัก พล.อ.ประวิตร ทั้งบิ๊กอ้อม พล.อ.วีรชัย อินทุโศภน ผช.ผบ.ทบ. และบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกลาโหม ที่เป็นหมากที่ พล.อ.ประวิตรจะจัดวางตรงไหนก็ได้ แม้แต่ใน ทบ. แล้ว

 

ตําแหน่งที่ถูกจับตามองไม่แพ้กันคือ ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) หัวหน้านักรบสีน้ำเงิน เพราะมีแคนดิเดตมากถึง 4 คน

ทั้งบิ๊กกวาง พล.ท.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญย์ น้องรักทหารเสือราชินีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกส่งมาเป็นรอง ผบ.นทพ. มา 2 ปีแล้ว ด้วยอายุราชการที่ยาวนานถึงกันยายน 2566 และเชื่อกันว่าถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต

และเพื่อน ตท.21 ด้วยกัน อย่างบิ๊กแขก พล.ท.นเรศ  สิริภูบาล ทหารม้าสีน้ำเงิน ลูกหม้อเก่า นทพ. ที่ได้ย้ายกลับถิ่นมาเป็นรอง ผบ.นทพ. เมื่อเมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความแรงของทหารม้า ที่รักพวกพ้อง รักน้องพี่ ในยุค พล.อ.ธารไชยยันต์

รวมทั้งบิ๊กบ๊อบ พล.อ.นครา สุขประเสริฐ อดีตรอง ผบ.นทพ. ที่ขยับไปเป็น พลเอก หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำ ผบ.ทหารสูงสุด เพราะก่อนหน้านี้ บิ๊กอ๋อย พล.อ.ธงชัย สาระสุข ผบ.นทพ. ก็มาจากตำแหน่งนี้

โดยเฉพาะบิ๊กเจอร์รี่ พล.ท.ดร.ธนะเกียรติ ชอบชื่นชม ผบ.ศรภ. ที่เป็นรุ่นพี่เตรียมทหาร 19 ที่ลุ้นชิงเก้าอี้นี้อีกครั้ง หลังจากที่คราวก่อน พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ดันไม่สำเร็จ แม้จะเป็นมือข่าว ทำงานลับให้มาตลอดก็ตาม

แต่ครั้งนี้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณแล้ว จึงยิ่งเข้มข้น

 

ขณะที่บิ๊กทัพไทยอีกคนดูจะไม่ยุ่งไม่เกี่ยวอะไรกับใคร เพราะยังเฮิร์ตๆ กับชะตาชีวิต

จึงไม่ค่อยเห็นหน้าบิ๊กแช พล.อ.วิชัย แชจอหอ รองเสนาธิการทหาร เท่าใดนัก โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ หลังจากที่ถูกเด้งจากแม่ทัพภาคที่ 2 จาก ทบ. มาเป็นรอง เสธ.ทหาร ที่ บก.ทัพไทย แม้จะได้ พลเอก แต่ทว่าใครๆ ก็คาดว่าเขาจะได้ขึ้นเป็น 5 เสือ ทบ. และเตรียมจ่อชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ในปลายปี 2561 นี้

ด้วยเพราะในเวลานั้นมีการวางตัว พล.อ.อภิรัชต์ ไว้เป็น ผช.ผบ.ทบ. และจะเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไปไว้แล้ว หากให้ พล.อ.วิชัยขึ้นห้าเสือ ทบ. ก็หวั่นจะมาเป็นคู่แข่ง พล.อ.อภิรัชต์ เพราะแม้จะเป็นเตรียมทหาร 17 รุ่นพี่ แต่เกษียณกันยายน 2562 นั่นหมายถึง ลุ้นเป็น ผบ.ทบ. ได้ 1 ปี

ถึงแม้จะรู้ดีว่า พล.อ.อภิรัชต์มีน้ำหนักมากกว่า เพราะเป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นสายวงศ์เทวัญ แต่ก็ได้รับความไว้วางใจมาตลอด

แต่หากให้ พล.อ.วิชัย มาจ่อเป็นห้าเสือ ทบ. ก็อาจมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ด้วยเพราะ พล.อ.วิชัยได้ชื่อว่าเป็นทหารเสืออีสาน ที่เป็น “ลูกป๋า” สายบ้านสี่เสาเทเวศร์ และติดตามเสด็จ “ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ” มายาวนาน ในฐานะทหารเสือเสริมฯ อีกด้วย

ดังนั้น เขาจึงถูกเด้งมาเป็นรอง เสธ.ทหาร ดับความฝันของทหารอีสานที่หวังที่จะให้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เป็น ผบ.ทบ. อีกสักคน หลังจากที่ห่างหายมานาน ตั้งแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และบิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี

จึงไม่แปลกที่ช่วงหลายเดือนก่อน พล.อ.วิชัยจึงไม่ค่อยปรากฏตัวที่ บก.ทัพไทย แจ้งวัฒนะ แต่จะมาเฉพาะงานที่เกี่ยวข้อง งานในหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

 

เพราะนอกจากจะอกหักที่ต้องพลัดพราก ทบ. แล้ว งานที่ได้รับมอบหมายในฐานะรอง เสธ.ทหาร (4) ที่ดูแลรับผิดชอบแต่เรื่องการประชุมสัมมนา ดูงานภายในประเทศ และการวิจัยและพัฒนาเท่านั้น จึงทำให้ พล.อ.วิชัยที่เป็นนายทหารนักรบมาตลอดชีวิต ยิ่งชอกช้ำหนัก

จนมีการเปรียบเปรยกันใน บก.ทัพไทย ถึงชะตาชีวิตของ พล.อ.วิชัย ที่แม้จะเป็นทหารเสืออีสาน ความหวังของกองทัพภาคที่ 2 แต่เมื่อเทียบกับทหารเสือราชินี บูรพาพยัคฆ์ และวงศ์เทวัญ แล้ว ก็ดูจะไม่ใช่เสือ ไม่ใช่พยัคฆ์ แต่เป็นแค่แมวเหมียวเท่านั้น

จนเกิดวาทกรรมที่ว่าเป็น “คิตตี้อีสาน” ขึ้นมา

ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ปลอบใจในเวลานั้นว่า จะให้กลับบ้านมาเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล ในตุลาคม 2561 ปีสุดท้ายก่อนเกษียณ

แต่ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะในเวลานั้น พล.อ.อภิรัชต์ ก็ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้วางตัวเอาไว้แล้ว

อีกทั้งมีแคนดิเดตที่จะเป็นรอง ผบ.ทบ. หลายคนแล้ว พล.อ.วิชัยคงไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมา ทบ. แต่อาจขึ้นเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ปิดฉากชีวิตราชการทหารที่นั่น

เพราะมีบิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่จะขยับขึ้นมาจ่อรอเป็น ผบ.ทบ. จากสายบุ๋น ต่อจากบิ๊กแดงที่เกษียณกันยายน 2563 แม้จะมีโอกาสที่ พล.อ.ณัฐพลจะนั่งเป็น เสธ.ทบ. ทำหน้าที่แม่บ้านให้บิ๊กแดงต่อไปอีกปี และต้องเป็นเลขาธิการ กอ.รมน. ด้วย

แต่ทว่า พล.อ.อภิรัชต์ ก็คงอยากให้เพื่อนรักคนอื่นมาเป็น เสธ.ทบ.คู่ใจ เช่น บิ๊กตู่น้อย พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ต้องขึ้นห้าเสือ ทบ. อยู่ที่ว่า จะเป็น เสธ.ทบ. ควบเลขาฯ กอ.รมน. ทำงานแม่บ้านให้

หรือว่าจะเป็น ผช.ผบ.ทบ. คุมสายงานส่งกำลังบำรุง ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์ เอง

 

เหล่านี้จึงเป็นเสมือนระเบิดเวลาลูกเล็กๆ ที่คุกรุ่น รอวันปะทุ แม้ว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรพี่ใหญ่จะ “เอาอยู่” ดูเหมือนกองทัพมีความสงบเรียบร้อย  แต่ทว่าคราวนี้เป็นโผใหญ่ ขยับหลายตำแหน่ง

แม้เรื่องความสงบเรียบร้อยในประเทศ พล.อ.ประวิตรบอกว่า ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะผมเอาอยู่มาตั้ง 4 ปีแล้วก็ตาม แต่ทว่าเรื่องการบริหารจัดการอำนาจในกองทัพ และการแย่งชิงเก้าอี้ เป็นปัญหาสุดอมตะที่เกิดมาทุกยุคทุกสมัย

ถ้าแก้ไขปัญหาจัดวางทัพด้วยความเป็นธรรม ก็จะถอดสลักระเบิดได้ แต่หากทำตรงกันข้าม ก็จะเกิดบาดแผลในหัวใจ และทำให้ทหารเลือกข้างเกิดขึ้นตามมาได้ และอาจส่งผลกระทบต่อถนนสายการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีพี่ใหญ่ประคองหลัง ในอนาคตก็เป็นได้

ประมาณว่า คนได้ตำแหน่ง ก็ย่อมยอมเป็นพวก แต่คนพลาดตำแหน่ง ก็พร้อมแยกวง